นายจตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยไทม์ไลน์ของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รายใหม่ 4 ราย ของ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันจันทร์ (5 เม.ย.) ว่าทั้ง 4 คนนี้มีประวัติเดินทาไปสถานบันเทิงในย่านรัชดา กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง 4 คนนี้ เป็นคนไทย 3 คน และคนจีนอีก 1 คน

การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 รายนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 83 วัน

ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อ 4 รายล่าสุด

  ผู้ป่วยรายที่ 1 (CM70) ชายไทย 34 ปี (อ.เมืองเชียงใหม่ อาชีพธุรกิจส่วนตัว)

• 30 มี.ค.
  • เที่ยวสถานบันเทิงย่านรัชดา กรุงเทพมหานคร พร้อมเพื่อน 4 คน
• 31 มี.ค.
  • 17.30 น. แยกตัวเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ ด้วยเที่ยวบิน VZ2104 (สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่) ที่นั่ง 19F
  • เข้าบ้านพัก
• 1 เม.ย.
  • ทราบข่าวการระบาดที่สถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร จึงกักตัวเอง
• 4 เม.ย.
  • ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
  • มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก
  • ทราบผลว่าติดเชื้อ
  • รักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์

  ผู้ป่วยรายที่ 2 (CM71) ชายไทย 26 ปี (อ.เมืองเชียงใหม่ อาชีพธุรกิจส่วนตัว)

• 30 มี.ค.
  • เที่ยวสถานบันเทิงกับ CM70
• 31 มี.ค.
  • กลับเชียงใหม่ด้วยรถยนต์ส่วนตัวกับเพื่อนอีก 3 คน ที่ไปสถานบันเทิงเดียวกัน
• 1-2 เม.ย.
  • ทราบข่าวการระบาดในสถานบันเทิงที่กรุงเทพมหานคร จึงแยกกักตัวในห้องพักส่วนตัว
• 4 เม.ย.
  • ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
  • ไม่มีอาการ
  • ผลยืนยันว่าติดเชื้อ
  • รักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์

  ผู้ป่วยรายที่ 3 (CM72) ชายไทย 34 ปี (อ.เมืองเชียงใหม่)

• 30 มี.ค.
  • เดินทางไปและกลับด้วยรถยนต์ส่วนตัวกับ CM72
• 31 มี.ค.
  • กลับถึงเชียงใหม่
  • พักที่บ้านพักส่วนตัวกับแฟนสาว
• 4 เม.ย.
  • ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
  • ไม่มีอาการ
• 5 เม.ย.
  • ผลยืนยันติดเชื้อ
  • รักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์

สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เผยว่า เพื่อนอีก 2 คนที่เดินทางด้วยกับ CM71 และ CM72 ก็เข้ารับการตรวจหาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) แล้ว แต่ผลตรวจไม่พบเชื้อ

“ทีมสวบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 32 ราย (ผู้สัมผัสในครอบครัว 6 ราย, ผู้สัมผัสในชุมชน 3 ราย) และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 99 ราย (ผู้สัมผัสบนเครื่องบิน) รวม 131 ราย ทางทีมสอบสวนโรคได้ติดตามและนัดตรวจหาเชื้อในบ่ายวันนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ” นพ.สสจ.เชียงใหม่ กล่าว

  ผู้ป่วยรายที่ 4 (CM73) ชายชาวจีน อายุ 28 ปี (อ.เมืองเชียงใหม่)

• 29 มี.ค.
  • 12.00-15.00 น. เดินทางไปกรุงเทพมหานคร พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน เที่ยวบิน FD7428
  • เข้าพักโรงแรม
• 30-31 มี.ค.
  • ศูนย์การค้าพันทิพย์
  • เดินทางไปย่านรัชดา
  • เดินทางไปบางแค ซอย 8
• 1 เม.ย.
  • 18.20-19.40 น. เดินทางออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง กลับเชียงใหม่ เที่ยวบิน FD4116
  • เข้าบ้านพักส่วนตัวกับภรรยา
  • ทานอาหารร้านปิ้งย่างย่านช้างเผือก
• 2 เม.ย.
  • ทานอาหารเช้าใกล้สนามบิน
  • ทานอาหารเย็นที่ตลาดทิพย์เนตร
• 3 เม.ย.
  • 18.00-20.00 น. เซ็นทรัล เฟสติวัล
  • ตลาดทิพย์เนตร
  • กาดแม่มณี
• 4 เม.ย.
  • ทานอาหารเช้าใกล้สนามบิน
  • เริ่มมีอาการไข้ต่ำๆ ไอ เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก จมูกยังได้กลิ่น
  • ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน
• 5 เม.ย.
  • ผลตรวจพบสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
  • รักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์

ลั่นยังไม่ระบาดในพื้นที่ แต่ต้องยกการ์ดสูง

นายจตุชัย นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ กล่าวต่อไปว่า การพบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 รายนี้ ยังไม่ถือว่าเป็นการระบาดในพื้นที่ เพราะติดเชื้อมาจากพื้นที่อื่นทั้งหมด ถึงอย่างนั้นเชียงใหม่ก็จะยกระดับมาตรการควบคุมโรคเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ รายนี้ จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนป้องกันตนเองและปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของจังหวัดอย่างเคร่งครัด สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ทำปฏิบัติตามมาตรรการการป้องกันควบคุมโรคของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัดด้วย

นายวีรพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีมติให้มีการยกระดับการควบคุม ป้องกันโรคเพิ่มขึ้น อาทิ การจัดขบวนแห่ อนุญาตให้เฉพาะวัฒนธรรมจังหวัด ดำเนินงาน คนร่วมขบวนไม่เกิน 200 คน นอกนั้นไม่อนุญาต ผู้ร่วมงานและผู้ชมต้องสวมหน้ากาก 100% ด้วย

ล่าสุดมีคำสั่งให้สถานบริการ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้าย และร้านอาหารที่มีการจำหน่ายสุรา ให้เปิดจำหน่าย และบริโภคสุรา ได้ไม่เกิน 23.00 น. มีผลตั้งแต่วันที่ 6-30 เม.ย.

พร้อมกันนี้มีการประกาศพื้นที่สี่เหลี่ยมรอบคูเมืองให้เป็นพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงสถานประกอบการ สถานบริการต้องปรับปรุงเรื่องระบบระบายอากาศ พร้อมกันนี้ได้แจ้งให้ ศปก.ทุกระดับ ออกตรวจสถานที่เสี่ยงหากพบว่าไม่มีมาตรการป้องกันโรค ให้เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อพิจารณาสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว