ตะลึงพบหลุมศพ “บันเฮซี” ในกีซา เก่ากว่า 3,000 ปี-มีแท่นบูชา “เทพีแฮธอร์” ด้วย

Home » ตะลึงพบหลุมศพ “บันเฮซี” ในกีซา เก่ากว่า 3,000 ปี-มีแท่นบูชา “เทพีแฮธอร์” ด้วย



ตะลึงพบหลุมศพ “บันเฮซี” – มิร์เรอร์ เผยว่าทีมนักโบราณคดีจากเนเธอร์แลนด์และอิตาลีค้นพบสุสานของผู้ชายนามว่า “บันเฮซี” ซึ่งมีอายุย้อนไปถึงยุคแรเมสไซด์เมื่อ 3,000 ปีก่อน ที่หมู่บ้านเก่าแก่ซัคคารา ในนครกีซา ประเทศอียิปต์ อันเป็นสถานที่รู้จักกันดีว่ามีหลุมฝังศพของราชวงศ์อียิปต์มากมาย

คณะนักโบราณคดีผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า บันเฮซีมีชีวิตอยู่ในยุคแรเมสไซด์ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อราวๆ 3,063 ปีก่อน และจบลงในช่วง 1,993 ปีที่แล้ว บันเฮซีน่าจะเคยเดินอยู่ท่ามกลางพีรามิดกีซา พีรามิดที่มีชื่อเสียงของอียิปต์ซึ่งมีอายุอย่างน้อย 1,500 ปีในขณะนั้น

ตะลึงพบหลุมศพ “บันเฮซี”

ตะลึงพบหลุมศพ “บันเฮซี” – The mission discovered an ancient tomb and four small chapels in Saqqara. Archaeologists revealed the tomb which dates back to the Ramesside Period an astonishing 3,000 years ago. (Image: Egyptian Ministry of Tourism and)

สุสานของบันเซฮีที่พบมีภาพสลักกำแพงแสดงให้เห็นบันเฮซีและ บายา ภรรยาของเขา ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องของอาเมินถูกพบในหลุมฝังศพ

รวมทั้งภาพสลักที่สวยงามที่บันเฮซีบูชา “เทพีแฮธอร์” เทพแห่งท้องฟ้าที่เดินทางไปมาระหว่างโลกความเป็นและความตาย เพื่อช่วยเหลือเหล่าวิญญาณผู้ตายนำพาไปสู่โลกหลังความตาย ด้านล่างลงมาจะเป็นภาพสลักของบันเฮซีและภรรยาอยู่ด้วยกันที่หน้าโต๊ะเครื่องบูชา โดยมีชายหัวโล้นยืนอยู่ข้างๆ พวกเขา สวมหนังเสือดาวคลุมไหล่ และยังมีภาพนักบวชและเครื่องบูชาอื่นๆ อีกมากมาย

ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุอียิปต์กล่าวว่า “ภารกิจในการรวมตัวของนักโบราณคดีชาวดัตช์และอิตาลีครั้งนี้คือการเปิดเผยหลุมศพของบุคคลชื่อบันเฮซี ในยุคการปกครองแรเมสไซด์ระหว่างการขุดค้นที่สถานที่จริงในช่วงฤดูกาลปัจจุบัน”

ตะลึงพบหลุมศพ “บันเฮซี”

ตะลึงพบหลุมศพ “บันเฮซี” – Photo shows a carving of six sculpted figures in a small funerary chapel. The Dutch-Italian team were working at a site in Giza, Egypt when they uncovered a tomb belonging to a man named Banhesi. It was found in the ancient village of Saqqara. (Image: Egyptian Ministry of Tourism and)

ดร.มุสตาฟา วาซิรี เลขาธิการสภาสูงสุดแห่งโบราณวัตถุ ระบุว่าภารกิจสำเร็จเพราะค้นพบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งแห่งที่อยู่ในยุคเดียวกัน สิ่งนี้คาดว่าจะทำให้กระจ่างเกี่ยวกับพัฒนาการของสุสานซัคคาราในช่วงยุคแรเมสไซด์ และค้นพบบุคคลใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนจากแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์

โครงการของขุดค้นครั้งนี้ได้รับมอบหมายงานจากพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุแห่งชาติในไลเดิน เนเธอร์แลนด์ และพิพิธภัณฑ์อียิปต์ในเมืองตูริน ของอิตาลี นักวิจัยเคยทำงานอยู่ในเขตโบราณวัตถุซัคคาราภายใต้การดูแลของสภาโบราณสถานแห่งอียิปต์

กระทรวงได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมจากแถลงการณ์ที่ได้รับจากนิวส์แฟลชว่า การค้นพบนี้สนับสนุนทฤษฎีก่อนหน้าว่าพื้นที่สุสานในช่วงยุคราชวงศ์ที่ 18 เช่น สุสานมายาถูกนำมาใช้ซ้ำในยุคต่อมาเพื่อสร้างสุสานและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในช่วงของการปกครองแรเมสไซด์ คำจารึกบนโครงสร้างเหล่านี้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับพิธีฝังศพของผู้ตายในช่วงเวลานั้น

ตะลึงพบหลุมศพ “บันเฮซี”

ตะลึงพบหลุมศพ “บันเฮซี”- Experts believe Banhesi lived during the Ramesside Period, which began around 3,063 years ago and ended around 1,993 years ago. He would have walked among Egypt’s famous Giza pyramids. (Image: Egyptian Ministry of Tourism and)

ขณะที่ดร.โมฮัมหมัด ยูเซฟ ผู้อำนวยการเขตโบราณวัตถุซัคคารา อธิบายว่ารูปแบบของสุสานถูกสร้างในรูปแบบของวิหารหลังเดี่ยว มีประตูทางเข้าไปสู่ลานด้านในที่มีเสาหินเป็นฐานค้ำยัน นำไปสู่ห้องฝังศพใต้ดินและแท่นบูชาสามแห่งที่อยู่ติดกัน

พร้อมเปิดเผยด้วยว่าภารกิจสำเร็จเสร็จสิ้นในการค้นพบแท่นบูชาที่ยังคงมาถึงปัจจุบันจำนวน 4 แห่ง ซึ่ง 2 แห่งในนั้นมีจารึก ส่วนอีกหนึ่งแห่งหนึ่งเป็นของบุคคลชื่อ “โยโย”

A panel found inside the tomb shows the deceased worshipping the goddess Hathor, helping dead souls to enter the afterlife. It also includes a scene showing Banhesi and his wife, standing next to a man wearing a leopard skin. (Image: Egyptian Ministry of Tourism and)

The site dates back to the Ramesside era. Egypt’s Ministry of Tourism and Antiquities said: “The joint Dutch-Italian archaeological mission… has revealed a tomb belonging to a person named Banhesi from the period of the Ramesside rulers. (Image: Egyptian Ministry of Tourism and)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

  • ตะลึง อียิปต์พบ “มัมมี่หัวแกะ” กว่า 2,000 หัว เชื่อบูชาฟาโรห์รามเสสที่ 2
  • อียิปต์ขุดพบ “สฟิงซ์หน้ายิ้ม” เชื่อเป็นตัวแทนของจักรพรรดิคลอดิอุสแห่งโรมัน
  • อียิปต์เผยภาพ “ทางเดินลึกลับ” ซ่อนอยู่ในมหาพีระมิดแห่งกีซาครั้งแรก

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ