ปูตินชักหนาว! เกิดเหตุคาร์บอมบ์สะพานไครเมียเชื่อมรัสเซีย ด้านสหรัฐฯรับกระสุนเริ่มหมดไม่มีส่งยูเครน
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้รุนแรงบนสะพานที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อเดียวระหว่างรัสเซียกับแคว้นไครเมียของยูเครน ซึ่งรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเมื่อปี 2557 โดยทางการรัสเซียออกมายอมรับว่าเป็นเหตุก่อการร้ายคาร์บอมบ์แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นฝีมือของกลุ่มหรือฝ่ายใด
สะพานดังกล่าวเป็นเส้นทางสัญจรหลักสำหรับรถยนต์และรถไฟที่สร้างขึ้นตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อปี 2561 เพื่อใช้ข้ามช่องแคบเคียร์ช ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางลำเลียงเสบียงและยุทโธปกรณ์หลักของกองทัพรัสเซียเพื่อใช้ในสงครามรุกรานยูเครน
ข้อมูลจากคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซีย ระบุว่า การระเบิดเกิดขึ้นในเวลารุ่งเช้า 06.07 น. บนสะพานไครเมีย โดยคนร้ายจุดชนวนระเบิดคาร์บอมบ์ทำให้เพลิงไหม้ลุกลามไปถูกรถไฟขนน้ำมันส่งผลให้รถขนน้ำมัน 7 คัน ที่กำลังจะถูกขนส่งไปที่แคว้นไครเมียเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง โดยประธานาธิบดีปูตินมีคำสั่งตั้งคณะสืบสวนเฉพาะกิจเพื่อหาข้อเท็จจริงแล้ว ขณะที่นายวลาดิมีร์ คอนสแตนตินอฟ ผู้ว่าแคว้นไครเมียที่รัสเซียแต่งตั้งขึ้น กล่าวหาว่าเป็นฝีมือของฝ่ายยูเครน
เหตุการณ์ข้างต้นเกิดขึ้นท่ามกลางการถอยร่นอย่างต่อเนื่องของกองทัพรัสเซียหลังถูกกองทัพยูเครนพลิกเกมเดินหน้าปลดปล่อยพื้นที่จากการยึดครองของรัสเซียได้อย่างต่อเนื่องในภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศ ซึ่งหากเหตุที่สะพานไครเมียเป็นฝีมือของฝ่ายยูเครนจริงจะถือว่าเป็นปัญหาความมั่นคงที่น่ากังวลของรัสเซีย เนื่องจากสะพานดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวรบส่วนหน้ามาก
วันเดียวกัน เกิดกระแสความกังวลหลังนายทหารระดับสูงของกองทัพสหรัฐอเมริกา ชาติผู้สนับสนุนยุทโธปกรณ์รายใหญ่ที่สุดของยูเครน ว่าคลังแสงของสหรัฐฯกำลังร่อยหรอและสหรัฐฯอาจไม่สามารถส่งกระสุนและอาวุธบางชนิดให้กับยูเครนได้อีก โดยทางการสหรัฐฯกำลังอยู่ระหว่างศึกษาบทเรียนการสนับสนุนสงครามรูปแบบใหม่นี้ เนื่องจากใช้ปริมาณกระสุนและอาวุธมากกว่าที่คาดไว้