แม่ใจเจ็บ จู่ๆ ลูกชายมีวิธีกินข้าวสุดแปลก ที่แท้โดนเพื่อนล้อ "อ้วน" เห็นแล้วเศร้าตาม

Home » แม่ใจเจ็บ จู่ๆ ลูกชายมีวิธีกินข้าวสุดแปลก ที่แท้โดนเพื่อนล้อ "อ้วน" เห็นแล้วเศร้าตาม

ลูกชายกินข้าวจากถ้วยเล็กๆ แทนการใช้ชามตามปกติ เพราะโดนเพื่อนที่โรงเรียนเรียกว่า “อ้วน” แม่เห็นแล้วทั้งอยากหัวเราะด้วยความเอ็นดู และรู้สึกสงสารจนอยากร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน

คุณแม่ชาวจีนคนหนึ่งเล่าว่า หลังจากลูกชายวัย 7 ขวบกลับจากโรงเรียน ตอนที่มานั่งร่วมโต๊ะกินข้าวกับครอบครัว สีหน้าของเขาเศร้ามาก หลังจากนั้นแทนที่จะใช้ชามกินข้าวตามปกติ จู่ๆ ลูกชายก็เปลี่ยนมาใช้ถ้วยเซรามิกสีฟ้าขาวเล็กๆ เหมือนแก้วที่ใช้ดื่มไวน์ แล้วก้มศีรษะกินอาหารทีละนิดๆ โดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ เมื่อเห็นการกระทำที่ค่อนข้างตลกและแปลกประหลาดของลูกชาย พ่อแม่จึงรู้สึกทั้งตลกและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนแรกเด็กชายปฏิเสธที่จะบอก แต่เนื่องจากแม่ถามเขาซ้ำๆ หลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ยอมบอกความจริง ปรากฏว่าที่โรงเรียน เพื่อนร่วมชั้นบางคนหัวเราะเยาะเขาที่อ้วนเกินไป บางคนพูดจาดูหมิ่นเขาด้วย และบางคนถึงกับรังเกียจไม่ยอมให้เขาเล่นด้วย เรื่องที่ต้องเจอเหล่านี้ทำให้เจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง หลังจากกลับบ้านก็ตั้งใจจะลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ แม้ว่าตรงหน้าจะมีชามสตูว์ไก่อยู่ แต่ก็ยังคงควบคุมตัวเองไว้อย่างสุดกำลัง กินข้าวและผักเท่านั้น

เมื่อทราบปัญหาของลูกชายแล้ว ผู้เป็นแม่ก็หลั่งน้ำตาเพราะเธอรู้สึกเสียใจกับลูกชาย แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกขบขันกับความคิดที่ไร้เดียงสาของลูก เช่นเดียวกับ ชาวเน็ตที่ได้อ่านเรื่องราวที่คุณแม่แชร์ลงโซเชียลฯ ต่างพากันคอมเมนต์ให้กำลังใจเด็กชายตุ้ยนุ้ยแสนน่ารักคนนี้ ขณะที่บางคนคาดเดาอย่างตลกขบขันว่า

“คงเป็นสาวสวยในชั้นเรียนที่พูดแบบนั้น เขาจึงตั้งใจที่จะลดน้ำหนักมากขนาดนี้”

“ถ้าหนูเติมข้าวถ้วยใบจิ๋ว 80 ครั้ง น้ำหนักจะไม่ลด แต่จะเพิ่มขึ้น”

“ดูเหมือนว่าอุปสรรคใหญ่ที่สุดของเด็กชายในการลดน้ำหนักคือแม่ของเขา ขอให้คุณแม่เปลี่ยนหมูเป็นเนื้อวัว มันฝรั่งเป็นผัก แถมออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลูกก็จะลดน้ำหนักแน่นอน ลูกชายฉันก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน”

ทั้งนี้ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญและกุมารแพทย์ระบุ เด็กที่มีน้ำหนักเกินนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กยังอยู่ใน “วัยกำลังโต” การลดน้ำหนักโดยการกินให้น้อยลง นอกจากจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากแล้ว ยังส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กด้วย ดังนั้นในเรื่องนี้ผู้ปกครองจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อตัดสินใจเลือกเลี้ยงดูบุตรได้อย่างเหมาะสม

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ