เลิกดื่ม “กาแฟ” ทำให้ “ปวดหัว” จริงหรือ?

Home » เลิกดื่ม “กาแฟ” ทำให้ “ปวดหัว” จริงหรือ?

คนที่ติดกาแฟ ต้องดื่มกาแฟทุกเช้า หรืออาจจะวันละหลายแก้ว แต่ก็น่าจะทราบกันดีว่าการดื่มกาแฟมากๆ อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย เลยพยายามเลิกดื่ม แต่การเลิกดื่มกาแฟหลังจากที่ดื่มติดต่อกันมานาน อาจทำให้ร่างกายเกิดอาการผิดปกติได้


เลิกดื่มกาแฟ ส่งผลอย่างไรต่อร่างกายบ้าง?

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า กาแฟมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่า คาเฟอีน (Caffeine) โดยคาเฟอีนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาท ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า รู้สึกตื่นตัว แต่หากดื่มกาแฟเป็นประจำจนติดเป็นนิสัย อาจส่งผลให้ขาดกาแฟไม่ได้ และอาจมีอาการที่เกิดจากการขาดคาเฟอีนหากเลิกดื่มกาแฟอย่างฉับพลัน

ภาวะการขาดคาเฟอีนอย่างเฉียบพลัน มักเกิดในช่วง 12-24 ชั่วโมงหลังการบริโภคคาเฟอีนครั้งสุดท้าย อาการจะรุนแรงที่สุดในช่วง 20-48 ชั่วโมง และอาการนี้อาจคงอยู่ภายใน 7 วัน ซึ่งอาการที่พบบ่อยมากที่สุด คือ ปวดศีรษะ นอกจากนี้แล้ว อาจเกิดภาวะ อ่อนเพลีย ง่วงซึม หดหู่ ไม่มีสมาธิได้ แต่ถ้าหากร่างกายได้รับคาเฟอีนเข้าไปอาการจะดีขึ้นภายในครึ่งชั่วโมง

  • อาการเริ่มต้น ของคนที่ติด “คาเฟอีน”


วิธีลดกาแฟอย่างปลอดภัย

  1. ค่อยๆ ลดปริมาณการบริโภคลงภายในระยะเวลา 7-14 วัน เพื่อป้องกันอาการขาดคาเฟอีนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ 
  2. จำกัดปริมาณในการดื่มเช่น การลดขนาดของถ้วยกาแฟ และจํากัดจํานวนครั้งในการดื่มต่อวัน
  3. เปลี่ยนไปใช้เครื่องดื่มชนิดอื่นซึ่งมีส่วนผสมของคาเฟอีนในปริมาณที่ต่ำกว่า เข่น ชา โกโก้ เครื่องดื่มเกลือแร่ เป็นต้น
  • ไม่ควรดื่ม “กาแฟ” เกินวันละกี่แก้ว?
  • 6 เคล็ดลับดื่มกาแฟอย่างไรโดยไม่เสียสุขภาพ
  • 3 วิธีกระตุ้นความสดชื่นในตอนเช้า แทนการดื่มกาแฟ
  • ดื่มกาแฟอย่างไรให้มีประโยชน์ ไม่ทำร้ายสุขภาพ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ