"อาเซียน" ออกแถลงการณ์ประณามเหตุโจมตีทางอากาศในเมียนมา เรียกร้องยุติความรุนแรงทันที

Home » "อาเซียน" ออกแถลงการณ์ประณามเหตุโจมตีทางอากาศในเมียนมา เรียกร้องยุติความรุนแรงทันที



วันที่ 13 เม.ย.เว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชียรายงานว่า สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีทางอากาศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายในหมู่บ้านปาซี กีในเมืองคันบาลู ภูมิภาคสะกาย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเมียนมา แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นห่างกัน 2 วัน หลังเหตุโจมตีทางอากาศดังกล่าว

อินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ระบุว่า ความรุนแรงทุกรูปแบบต้องยุติทันที โดยเฉพาะการใช้กำลังต่อพลเรือน ซึ่งจะเป็นหนทางเดียวที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่จะนำไปสู่การเจรจาระดับชาติที่ครอบคลุมเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในเมียนมาอย่างสันติที่ยั่งยืน

นายซอ มินตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวเมื่อวันอังคารที่ 11 เม.ย.ว่า ผู้ที่เสียชีวิตจำนวนหนึ่งในเหตุโจมตีทางอากาศเป็นนักรบในเครื่องแบบที่ต่อต้านรัฐประหาร ขณะที่ยอมรับว่า อาจมีจำนวนหนึ่งที่เป็นพลเรือน

“จากข้อมูลในพื้นที่ภาคสนามที่เราได้รับมา ประชาชนที่ถูกสังหารไม่ได้เกิดจากการโจมตีของเราเพียงฝ่ายเดียว” นายซอ มินตุนกล่าวและว่า มีระเบิดที่กองกำลังปกป้องของประชาชนหรือพีดีเอฟฝังไว้ในบริเวณนั้นด้วย นอกจากนี้การโจมตีทางอากาศยังถล่มพื้นที่คลังเก็บดินปืนและระเบิด

อินโดนีเซียยังย้ำอีกว่า ความมุ่งมั่นของอาเซียนที่จะช่วยเมียนมาในการแสวงหาทางออกที่นำไปปฏิบัติได้และยั่งยืนต่อวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ผ่านการสนับสนุนการดำเนินการอย่างเต็มที่ต่อหลักการฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน

เมื่อปี 2564 อาเซียนและนายพลอาวุโสมิน อ่องไหล่ หัวหน้ารัฐบาลทหารเมียนมาได้บรรลุฉันทามติ 5 ข้อเกี่ยวกับความรุนแรงในเมียนมาระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำในกรุงจาการ์ตารวมถึงการยุติความรุนแรงในเมียนมาทันทีและทุกฝ่ายต้องอดทนอดกลั้นอย่างที่สุดรวมถึงการเจรจาที่สร้างสรรค์ระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อแสวงหาทางแก้ปัญหาอย่างสันติเพื่อประโยชน์ของประชาชน

ภูมิภาคสะกาย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้นครมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่ลำดับสองของเมียนมา ได้ต่อต้านการปกครองของทหารอย่างดุเดือด ด้วยการต่อสู้ที่รุนแรงมาหลายเดือน และการโจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 ราย แต่เกรงว่าอาจเกิน 100 ราย ตอกย้ำวิกฤตความรุนแรงต่อเนื่องนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาเข้ามามีอำนาจภายหลังก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนเมื่อปี 2564

ด้านนายทอม แอนดรู ผู้แทนพิเศษด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาของสหประชาชาติหรือยูเอ็นเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศหยุดการหลั่งไหลของอาวุธไปยังเมียนมาและทำงานร่วมกันเพื่อใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจหรือแซงก์ชั่นต่อรัฐบาลทหาร และเป็นที่สังเกตว่า สมาชิกยูเอ็นหลายประเทศส่งอาวุธไปให้รัฐบาลทหาร นายแอนดรูกระตุ้นให้หลายประเทศผลักดันให้ชาติที่ส่งอาวุธให้เมียนมาหยุดส่งวัตถุดิบไปให้รัฐบาลทหาร
…………..

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

•จวกทัพเมียนมาส่ง “บินทิ้งระเบิด” เฮลิคอปเตอร์รัวถล่มซ้ำ-หวั่นชาวบ้านดับทะลุร้อย!

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ