'ออสเตรเลีย'ตกลงซื้อเรือดำน้ำนิวเคลียร์ มหาอำนาจ'ออคัส'เดินหน้าโปรเจ็กกองเรือ

Home » 'ออสเตรเลีย'ตกลงซื้อเรือดำน้ำนิวเคลียร์ มหาอำนาจ'ออคัส'เดินหน้าโปรเจ็กกองเรือ



‘ออคัส’ เดินหน้า-วันที่ 14 มี.ค.บีบีซีรายงานว่า กลุ่มออคัส ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียแถลงเห็นพ้องเดินหน้าโครงการเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ พร้อมเผยรายละเอียดแผนที่จะสร้างกองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ขึ้นใหม่ มุ่งที่การตอบโต้อิทธิพลของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพื่อรับประกันว่าภูมิภาคนี้จะยังคงเสรีและเปิดกว้าง

นายโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายริชี สุนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ร่วมประชุมไตรภาคีที่ฐานทัพเรือพอยต์ โลมา ในเมืองซานติเอโก สหรัฐอเมริกา เมื่อ 13 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น (รอยเตอร์)

ภายใต้ข้อตกลงของออคัส ออสเตรเลียจะซื้อเรือดำน้ำปรมาณูลำแรกของประเทศอย่างน้อยจำนวน 3 ลำจากสหรัฐอเมริกา โดยชาติพันธมิตรจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างกองเรือใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยรวมถึงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ผลิตโดยบริษัทโรลส์รอยซ์จากสหราชอาณาจักร

คณะผู้แทนจีนประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็นระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวทำร้ายสันติภาพและเสถียรภาพและกล่าวหาพันธมิตร 3 ชาติตะวันตกทำให้ความพยายามที่จะรณรงค์ไม่ให้เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์ประสบความล้มเหลว แต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริการะบุว่า ข้อตกลงนี้มุ่งหวังที่จะส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาคและเน้นย้ำว่า เรือดำน้ำดังกล่าวจะเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ไม่ใช่ติดอาวุธนิวเคลียร์

นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเตือนว่า ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกากำลังเหยียบย่างบนเส้นทางที่ผิดพลาดและอันตราย

นายโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายริชี สุนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร แถลงหลังร่วมประชุมไตรภาคีที่ฐานทัพเรือพอยต์ โลมา ในเมืองซานติเอโก สหรัฐอเมริกา เมื่อ 13 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น (รอยเตอร์)

นายไบเดนแถลงร่วมกับนายริชี สุนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษและนายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียที่ฐานทัพเรือพอยต์ โลมา เมืองซานติเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งนายไบเดนระบุว่า ข้อตกลงจะไม่ทำอันตรายต่อพันธกรณีของออสเตรเลียในการเป็นประเทศปลอดนิวเคลียร์

สำหรับออสเตรเลีย ถือเป็นการยกระดับศักยภาพทางทหาร และกลายเป็นประเทศลำดับที่ 2 รองจากสหราชอาณาจักรที่ได้รับเทคโนโลยีขับเคลื่อนนิวเคลียร์ระดับสูงสุดจากสหรัฐ ซึ่งภายใต้ข้อตกลง เรือดำน้ำจะสามารถปฏิบัติการได้มากขึ้นและเร็วขึ้นกว่ากองเรือดำน้ำพลังงานดีเซลที่มีอยู่ในปัจจุบัน

และออสเตรเลียจะสามารถทำภารกิจโจมตีศัตรูจากระยะไกลได้เป็นครั้งแรก รวมถึงทหารเรือออสเตรเลียจะถูกส่งไปที่ฐานทัพสหรัฐและสหราชอาณาจักรนับตั้งแต่ปีนี้เพื่อเรียนรู้วิธีใช้เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์

นายโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายริชี สุนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กำลังเดินเพื่อร่วมกล่าวถ้อยแถลง หลังร่วมประชุมไตรภาคีที่ฐานทัพเรือพอยต์ โลมา ในเมืองซานติเอโก สหรัฐอเมริกา เมื่อ 13 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น (รอยเตอร์)

นับตั้งแต่ปีค.ศ.2027 หรือปีพ.ศ.2570 ทั้งสหรัฐและสหราชอาณาจักรจะตั้งฐานเรือดำน้ำขนาดเล็กในเมืองเพิร์ธ รัฐเวสต์เทิร์นออสเตรเลีย ก่อนที่ออสเตรเลียจะซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำจากสหรัฐในช่วงต้นทศวรรษ 2030 พร้อมเสนอทางเลือกจะซื้อเพิ่มได้อีก 2 ลำ แผนหลังจากนั้นคือ ออกแบบและสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์สำหรับกองทัพเรือสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย หรือที่เรียกว่า เอสเอสเอ็น-ออคัสโมเดล

นายอัลบาเนซี ผู้นำออสเตรเลีย ระบุว่า แผนนี้ซึ่งทำให้ออสเตรเลียมีค่าใช้จ่ายราว 201,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 6 ล้านล้านบาทตลอดช่วงเวลากว่า 30 ปี นับเป็นการลงทุนในศักยภาพด้านกลาโหมของประเทศในคราวเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย และการสร้างเรือที่อู่ต่อเรือจะสร้างงานให้ชาวออสเตรเลียหลายพันตำแหน่งอีกด้วย

ขณะที่นายสุนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรระบุว่า การรุกรานยูเครนอย่างผิดกฎหมายของรัสเซีย ความอหังการที่เพิ่มมากขึ้นของจีน พฤติกรรมที่ไร้เสถียรภาพของอิหร่านและเกาหลีเหนือ ทั้งหมดขมขู่ที่จะสร้างโลกที่ถูกนิยามร่วมกันโดยอันตราย ไร้ระเบียบและแบ่งแยก
………….

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

•มหาอำนาจ’ออคัส’แข่งขีปนาวุธเหนือเสียง-หวั่นรัสเซีย จีนแซงไกล

•‘ออคัส’ผนึกดีล! ผุดเรือนิวเคลียร์

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ