ส.ส.พปชร.ใต้ ขย่ม ‘บิ๊กตู่’ รีบเคาะอยู่พรรคไหน เสนอคุมภาคใต้-กทม. โวทำชนะแน่ ชี้ “ธนกร”นั่งรมต.คงเข้าตานายกฯ เหน็บ ยังไม่เข้าใจพื้นที่ดี เท่าส.ส.เขต

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65 นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ล่าสุดยังไม่มีตัวแทนกลุ่มส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐเข้าไปเป็นรัฐมนตรี ว่า

การปรับครม.ที่แต่งตั้งนายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เหตุผลคงมาจากการทำหน้าที่คนข้างกายของนายกฯ ในตำแหน่งโฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี มาก่อน และคงเป็นที่พอใจของนายกฯ จึงแต่งตั้งให้มาเป็นรัฐมนตรี และคงทำหน้าที่ชี้แจงประเด็นการเมือง รวมทั้งเรื่องอื่นแทนพล.อ.ประยุทธ์ ไปด้วย แต่ต้องรอดูการแบ่งงานรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ของนายธนกร อีกครั้ง ว่าจะทำอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมากลุ่มส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ เคยเสนอให้มีรัฐมนตรีในสัดส่วนของส.ส.ภาคใต้มาตลอด มองการปรับครม.ครั้งนี้ อย่างไร นายสายัณห์ กล่าวว่า การแต่งตั้งนายธนกร เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ก็ยังไม่ชัดเจนว่า นายกฯจะมอบหมายให้มาดูเรื่องใด หรือดูแลส.ส.และพื้นที่ภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะนายธนกร เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ อาจจะไม่ได้คลุกคลีและรู้จักพื้นที่รวมทั้งพี่น้องประชาชนดีเหมือนกับส.ส.เขตอย่างตน

“ในฐานะส.ส.เขต มองว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มาเป็นผู้ดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ และกทม.ด้วยตัวเอง เนื่องจากกระแสและความนิยมต่อตัวพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งสองพื้นที่ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูง หากนายกฯ มาดูแลพื้นที่ตัวเองจะได้สื่อสารและรับฟังเสียงสะท้อนของส.ส.เขตได้โดยตรง และจะช่วยให้พรรคที่นายกฯ จะไปต่อในทางการเมือง ชนะเลือกตั้งในทั้งพื้นที่ภาคใต้ และกทม.ได้”นายสายัณห์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามนายสายันณ์ ถึงความชัดเจนว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้ากับพรรคการเมืองใด นายสายัณห์ กล่าวว่า ต้องรอพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศความชัดเจนว่าจะอยู่กับพรรคใด หากพล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะไปร่วมงานกับพรรคที่พล.อ.ประยุทธ์ ไปสังกัด โดยจะลงรับเลือกตั้งในเขต 7 จ.นครศรีธรรมราช เหมือนเดิม

นายสายัณห์ กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า จ.นครศรีธรรมราช จะมีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีก 1 เขต ทำให้ภาคใต้มีเขตเลือกตั้งเพิ่มรวม 58 เขต เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองที่มีส.ส.ในปัจจุบัน คงจะแข่งขันกันอย่างเข้มข้น และไม่กังวลว่าจะเป็นการแข่งขันตัดคะแนน กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเป็นไปตามกลไกการเลือกตั้ง เช่น จ.นครศรีธรรมราช คงแข่งกันหนักระหว่าง พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) คงสู้ในเขตที่มีฐานเสียงเข้มแข็ง อย่างพื้นที่ จ.พัทลุง และพื้นที่จังหวัดฝั่งอันดามัน