ศูนย์เพื่อการควบคุมโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เตรียมจัดประชุมด่วนในวันที่ 18 มิ.ย. นี้ หลังพบวัยรุ่นอายุ 16-24 ปี โดยเฉพาะเพศชาย ที่ได้รับวัคซีนโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์และโมเดอร์นา โดสที่ 2 มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเฉียบพลันมากกว่าที่คิดไว้

ซีดีซีเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (10 มิ.ย.) ว่าได้รับการรายงานการเกิดอาการดังกล่าวในคนกลุ่มนี้ถึง 275 ราย ตั้งแต่เริ่มฉีดจนถึงวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้คาดไว้ว่าจะเกิดขึ้นเพียง 10-102 เคสเท่านั้น และถ้าหากนับตั้งแต่อายุ 30 ปีลงมา จะพบว่ามีผู้เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจจอักเสบจากการฉีดวัคซีนดังกล่าวถึง 475 ราย

นอกจากนี้ ซีดีซี เผยว่า ผู้ที่มีอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา 81% ของผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ฟื้นตัวเป็นปกติแล้ว แต่ยังมี 15 คนที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล และอีก 3 คน อยู่ในแผนกผู้ป่วยวิกฤต (ไอซียู)

ซีดีซี เผยอีกว่า ผู้ที่มีอาการส่วนใหญ่เป็นเพศชาย และส่วนใหญ่พบอาการภายใน 2-3 วัน หลังฉีด

ด้านนายปีเตอร์ มาร์กส ผู้อำนวยการศูนย์ประเมินและวิจัยชีวเวชของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าอาการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับวัคซีนจริงหรือไม่ แต่ผู้ที่มีอาการเหล่านี้จำนวนมาก มีอาการไม่มากและเป็นแค่วันเดียวหรือ 2 วัน และมักเกิดขึ้นหลังได้รับวัคซีนโดสที่ 2 แล้ว

ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายรายมองว่า อาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นปกติเมื่อมีการฉีดวัคซีนหรือให้ยาบางอย่างกับคนจำนวนมาก และสุดท้ายแล้วถ้าอาการหัวใจอักเสบนี้เกี่ยวข้องกับวัคซีนจริง ก็ยังคุ้มที่จะเสี่ยงเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่จะติดโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาชาวสหรัฐมากกว่า 130 ล้านคนได้รับวคัซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นาโดสที่ 2 แล้ว ผู้ที่เกิดอาการดังกล่าวคิดเป็นเพียง 0.000173846% ของจำนวนทั้งหมดเท่านั้น