สืบเนื่องจากกรณีที่ เพจ  เชียงใหม่นิวส์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า “พ่อสุดทน ครูประถม รร. แห่งหนึ่งในลำพูน ทำโทษโหด ให้ลูกลุกนั่ง 150 ครั้ง ทำกระดูกขาซ้ายแตก โรงเรียนเยียวยา 1 หมื่น นอนรักษาตัวร่วม 5 เดือน อาการไม่ดีขึ้น วอนหน่วยงานช่วยดูแล ลูกไม่ได้สอบเข้า ม.1 เพื่อนได้เรียนต่อกันหมดแล้ว” โดยตามข้อมูลมีรายงานว่า

เมื่อบ่ายวันที่ 19 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านโป่งแดง ต.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน พบว่า มีครอบครัวเด็กป่วยจากโรคกระดูกมานาน ระยะเวลารวมประมาณ 5 เดือน รักษาอย่างไรก็ไม่หาย เมื่อตรวจสอบแล้ว พ่อของเด็ก ป.6 นั้นเล่าว่า น้องตุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี น้ำหนัก 80 กิโลกรัม ก่อนนั้นเรียนอยู่ประถม 6 โรงเรียนในหมู่บ้าน ได้รับบาดเจ็บจากกระดูกแตกร้าวและอักเสบที่ขาซ้าย

สาเหตุเกิดจาก ถูกคุณครูประถมทำโทษ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 66 เหตุผลที่ลงโทษคือ ลืมเอาหน้ากากอนามัยมาโรงเรียน ถูกทำโทษครั้งแรกตอนเช้า ครูให้ลุงนั่งหรือสก็อตจั๊มพ์ จำนวน 50 ครั้ง ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาเรียน 13.00 น. ต้องเข้าเรียนในช่วงบ่าย แต่น้องตุ้ย กับเพื่อนๆ เข้าห้องเรียนช้า เพราะไปเล่นฟุตบอล พอเข้าห้อเรียนช้า ครูก็ลงโทษอีกให้ลุกนั่งพร้อมกับเพื่อนๆทั้งห้อง อีกคนละ จำนวน 100 ครั้ง

ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. 66 เป็นต้นมา และได้ลาโรงเรียน ไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่วันนั้นเป็นต้น มาจนถึงปัจจุบัน รวมเวลากว่า 5 เดือนแล้ว โดยปัญหาตอนนี้คือ ลูกชายไม่ได้เรียนหนังสือต่อในระดับชั้น ม.1 เพราะไม่สามารถไปสอบได้ ทางด้านโรงเรียนได้ออกมารับผิดชอบ โดยมอบเงินมาส่วนหนึ่ง จำนวน 10,000 บาท จากนั้น สำนักงานเขตการศึกษาฯก็นำเงินมามอบให้อีก จำนวน 3,000 บาท จากนั้นก็ไม่ได้รับเงินช่วยเหลืออีกเลย ล่าสุด พ่อของน้องประสานไปที่โรงเรียนเพื่อบอกอาการของลูกให้โรงเรียนทราบ แต่ได้รับคำตอบมาว่า วันนี้น้องตุ้ย ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของโรงเรียนแล้ว อย่างไรก็ตามก็ฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยเหลือครอบครัวตนด้วย เพราะตนหมดเงินรักษาไปประมาณ เดือนละหนึ่งหมื่นบาท

ล่าสุด 20 มิ.ย. 66 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกพรรคก้าวไกล ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ Wiroj 77 โดยระบุข้อความว่า “หากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเป็นการลงโทษที่ผิดระเบียบกระทรวง หรือเข้าข่ายการใช้ความรุนแรงกระทำทารุณกรรมต่อเด็ก ก็ต้องมีการดำเนินคดีกับครู และผู้บริหารที่เห็นด้วยกับการสั่งลงโทษ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก อย่างถึงที่สุด”

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ

Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY