เจ้าของฟาร์มสิงโตยอมรับสารภาพ หลังปล่อยเสือหลุดในชุมชม ที่แท้เป็น ‘ลูกเสือโคร่ง’ ไม่ใช่ไลเกอร์พ้นสี เจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดีต่อไป
กรณีลูกเสือโคร่ง โผล่ในซอยบางวัว-บางจาก7 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ล้อมจับและนำตัวส่ง สภ.บางปะกง
จากนั้นมีชายอ้างเป็นเจ้าของ โดยอ้างว่าเป็นไลเกอร์ ซึ่งได้นำมาเพนต์สีทำเป็นลายให้เหมือนลูกเสือโคร่ง เพื่อนำไปถ่ายทำหนัง ว่า ในวันนี้ 16 พ.ค. 2567 ตนได้สั่งการชุดเหยี่ยวดงไปตรวจที่ฟาร์มแล้ว ซึ่งมีการนำลูกสิงโตมาโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดู และบอกว่าได้นำไปเพนต์สีให้เหมือนลูกเสือโคร่งเพื่อจะถ่ายทำแต่ได้ทำลูกสิงโตหลุด แต่จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่คาดว่าไม่ใช่ตัวเดียวกัน
หลังได้ตรวจสอบสัตว์ที่อ้างว่าเป็นไลเกอร์ที่เจ้าของฟาร์มได้แจ้งว่าเป็นตัวเดียวกันกับที่พบในชุมช นโดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเป็นลูกสิงโต ไม่ใช่ไลเกอร์ตามที่กล่าวอ้าง เบื้องต้นทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจะเข้าไปดูสิงโตตัวที่เป็นประเด็น ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะไม่รู้ว่าไมโครชิฟได้มีการยึดกับที่ไหนไว้หรือไม่ เบื้องต้นการดำเนินการก็จะมีการตรวจสอบว่าการยื่นข้อมูลครอบครองไว้อย่างไร
- พิรุธเพียบ! กรมอุทยานฯ ลุยตรวจฟาร์ม ไลเกอร์ พ้นสี กลายเป็น ไทเกอร์
- จนท.สุดงง! เจ้าของเสือโคร่ง เดินกร่างกลางชุมชน แสดงตัว ลั่น น้องคือไลการ์
ล่าสุดวันนี้ ( 17 พ.ค.67) นายพิทักษ์ อินทศร ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) พร้อมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางเข้าตรวจสอบฟาร์มสิงโต พื้นที่ ม.5 ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา อีกครั้ง
ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุพืช เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจพื้นที่ ขอเข้าตรวจสอบ โดยได้เจรจาขอเข้าไปตรวจในฟาร์มอีกรอบ เจ้าหน้าที่ต้องรอเกือบชั่วโมง ก่อนที่ผู้ดูแลฟาร์มจะเปิดให้เข้า แต่มีข้อแม้ว่าไม่ให้นักข่าวเข้าไปในพื้นที่ ฟาร์มจะอนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่เข้าไปเท่านั้น และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพด้านในอีก
ต่อมานายโยธิน (สงวนนามสกุล) เจ้าของฟาร์มได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่ขอเข้าไปเจอที่ฟาร์ม แต่ขอนัดเจอด้านนอก โดยเจ้าหน้าที่ได้ทยอยกันออกจากพื้นที่มาที่หอประชุมอำเภอเพื่อเป็นการหลบนักข่าว ระหว่างที่นักข่าวได้เฝ้ารออยู่หน้าห้องประชุมอำเภอ ได้มีเจ้าหน้าที่เดินออกมา ทางนักข่าวจึงได้สอบถามได้ความว่า ขณะนี้เจ้าของฟาร์มได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดง พร้อมยอมรับว่าสัตว์ที่พบนั้นเป็นเสือโคร่งจริง และได้นำเจ้าเสือโคร่งตัวที่เป็นข่าวมาแสดงกับเจ้าหน้าที่
ซึ่งล่าสุดขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกจับกุมส่วนรายละเอียดจะต้องรอทางเจ้าหน้าที่ออกมาสรุปอีกครั้ง.
