วันที่ 26 พ.ย.บีบีซีรายงานว่า นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวกับมารดาของทหารรัสเซียในยูเครนระหว่างการพบหารือที่ทำเนียบประธานาธิบดีใกล้กรุงมอสโก ว่า ตนเองรู้สึกเจ็บปวดร่วมกับมารดาทหารที่ร่วมรบในสงครามยูเครนและบางนายถูกสังหารในสนามรบ และว่าไม่มีสิ่งใดสามารถแทนที่การสูญเสียลูกชายได้

เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พ.ย.ตามเวลาท้องถิ่น นายปูตินร่วมประชุมกับมารดา 17 คน จำนวนหนึ่งสวมผ้าคลุมศีรษะสำดำ สัญลักษณ์ของการไว้อาลัย และมีมารดาหลายคนเป็นสมาชิกกลุ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนรัฐบาลรัสเซีย อีกทั้งผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า ทางการรัสเซียเลือกมารดาที่มาร่วมประชุมอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางเสียงคัดค้านในประเทศต่อการรุกรานยูเครนเพิ่มมากขึ้น

“ผมต้องการให้คุณรู้ว่า โดยส่วนตัว ผมและคณะผู้นำทั้งหมดในประเทศ เราร่วมรู้สึกถึงความเจ็บปวดนี้” นายปูตินกล่าวและได้กล่าวกับมารดาคนหนึ่งว่า “ผมต้องการให้คุณรู้ว่า โดยส่วนตัว ผมและคณะผู้นำทั้งหมดในประเทศ เราร่วมรู้สึกถึงความเจ็บปวดนี้” นายปูตินกล่าวและกล่าวกับมารดาคนหนึ่งว่า ลูกชายได้บรรลุเป้าหมายของตนแล้วและไม่ได้ตายอย่างสูญเปล่า

นายปูตินระบุว่าตนเองต้องการพบมารดาแบบเห็นหน้าเพื่อได้รับทราบโดยตรงจากมารดาเกี่ยวกับสถานการณ์และได้เปิดเผยว่า ตนเองพูดคุยโดยตรงกับทหารที่อยู่ในสนามรบ ซึ่งนายปูตินระบุว่าเป็นวีรบุรุษ

นายปูตินยังกระตุ้นให้มารดาของทหารไม่เชื่อข้อมูลเท็จและคำโกหกเกี่ยวกับสงครามที่ดำเนินไปอย่างดุเดือดทางสถานีโทรทัศน์หรืออินเตอร์เน็ต

ขณะที่การได้รับข่าวสารอย่างรอบด้านเกี่ยวกับสงครามเป็นไปได้ยากในรัสเซีย เนื่องจากทางการควบคุมสื่อ ประชาชนจำนวนมากจึงหันไปใช้วีพีเอ็นเพื่อเลี่ยงข่าวสารที่ถูกเซ็นเซอร์

ขณะนี้ทั่วประเทศ มารดาของทหารโอดครวญร้องทุกข์อย่างเปิดเผย จากการที่ลูกชายกำลังถูกส่งไปสนามรบ ได้รับการฝึกฝนแบบแย่ๆและปราศจากอาวุธและเสื้อผ้าอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะเมื่อฤดูหนาวมาถึงแล้ว มารดาจำนวนหนึ่งกล่าวหากองทัพรัสเซียที่เปลี่ยนลูกชายไปเป็น “อาหารของปืนใหญ่” หลังจากกองทัพรัสเซียในยูเครนพ่ายแพ้หลายระลอกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้

จากข้อมูลของนายพลมาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐอเมริการะบุว่า มีทหารรัสเซียราว 100,000 คนและทหารยูเครน 100,000 คนถูกสังหารหรือบาดเจ็บนับตั้งแต่สงครามเริ่มเมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา

วันเดียวกันนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า 6 ล้านครัวเรือนในยูเครนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ในฤดูหนาว หลังจากถูกโจมตีจากขีปนาวุธครั้งใหญ่จากรัสเซียในสัปดาห์นี้ โดยพื้นที่ไร้ไฟฟ้าอยู่ในเขตภูมิภาคเป็นส่วนใหญ่และในกรุงเคียฟ เมืองหลวง

แม้จำนวนครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบลดเหลือครึ่งหนึ่งจากวันพุธที่ 23 พ.ย. แต่หลายล้านคนยังคงดำรงชีพโดยไม่มีแสงไฟ น้ำหรือความร้อน ขณะที่ฤดูหนาวมาถึงแล้ว หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงรวมถึงเมืองโอเดสซา ทางตอนใต้ ลวิฟทางตะวันตกสำหรับพื้นที่ที่ประชาชนยังใช้ไฟฟ้าได้ นายเซเลนสกี้ยังได้กระตุ้นให้ชาวยูเครนใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด

เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. ผู้ว่าการจ.เคอร์ซอน ทางตะวันออกระบุว่า ได้อพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเนื่องจากเนื่องจากถูกรัสเซียโจมตีเป็นประจำ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมามีพลเรือนเสียชีวิต 15 ราย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 4 ซึ่งอยู่ในเมืองซาโปริฌเฌียที่ขณะนี้ถูกควบคุมโดยรัสเซียกลับมาเชื่อมต่อได้แล้ว

…………….