ประธานาธิบดีไบเดนออกคำสั่งคุม – ซินหัว รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ลงนามคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหารเมื่อวันพุธ 9 มี.ค. กระตุ้นให้รัฐบาลพิจารณาความเสี่ยงและผลประโยชน์ของ สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี โดยเร่งรัดการวิจัยและพัฒนาดอลลาร์สหรัฐดิจิทัลที่เป็นไปได้

เอกสารข้อเท็จจริงของทำเนียขาวระบุว่าสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงคริปโตเคอร์เรนซีที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 99.42 ล้านล้านบาท) เมื่อเดือนพ.ย.2564 โดยผู้ใหญ่ชาวอเมริกันร้อยละ 16 หรือประมาณ 40 ล้านคน ได้เข้าลงทุน ซื้อขายหรือใช้คริปโตเคอร์เรนซี

File Photo: U.S. President Joe Biden signed an executive order calling on the whole government to examine the risks and benefits of cryptocurrencies, placing great urgency on the research and development of a possible digital U.S. dollar. REUTERS/Jonathan Ernst

สินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นสร้างโอกาสกระชับความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในระบบการเงินโลกและด่านหน้าทางเทคโนโลยี ทว่ายังมีนัยสำคัญหลายประการที่ต้องพิจารณา อาทิ การคุ้มครองผู้บริโภค เสถียรภาพทางการเงิน ความมั่นคงของชาติ และความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ

คำสั่งฝ่ายบริหารข้างต้นกำหนดนโยบายระดับชาติสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล แบ่งเป็น 6 ลำดับความสำคัญหลัก ได้แก่ การคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน เสถียรภาพทางการเงิน การเงินที่ผิดกฎหมาย ความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในระบบการเงินโลกและความสามารถทางการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การรวมกลุ่มทางการเงิน และนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบ

ขณะเดียวกันคำสั่งข้างต้นกำหนดให้รัฐบาลสหรัฐฯ ประเมินโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและศักยภาพ สำหรับความเป็นไปได้ของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (ซีบีดีซี) และสนับสนุนธนาคารกลางสหรัฐฯ ดำเนินการวิจัย พัฒนา และประเมินสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวต่อไป

Fi;e Photo: A woman buys Bitcoin at Bitcoin Change in Tel Aviv, Israel. (Xinhua/Gil Cohen Magen)

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า “เรากำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนที่สุดในการประเมินผลประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐดิจิทัลในระบบการชำระเงิน เสถียรภาพทางการเงิน และความมั่นคงของชาติ เรากำลังประเมินและติดตามพัฒนาการที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์เชิงนโยบายหลักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคือการรักษาสถานะศูนย์กลางเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดการเงินโลกและเศรษฐกิจโลก”

ปัจจุบันประเทศมากกว่า 100 แห่ง กำลังสำรวจหรือนำร่องสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง สำหรับการใช้งานข้ามพรมแดนและภายในประเทศ โดยประเทศเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดมาตรฐานการออกแบบสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางและระบบข้ามพรมแดน

นายโทเบียส เอเดรียน ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้อำนวยการแผนกการเงินและตลาดทุนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวเมื่อเดือนมกราคมว่า “ผมคิดว่าท้ายที่สุดแล้วประเทศส่วนใหญ่จะมีสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง”

นายเอเดรียนกล่าวว่าเอกสารของธนาคารกลางสหรัฐฯ เผยว่าพวกเขาจะไม่เร่งรีบ โดยพวกเขาต้องการคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการออกแบบสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ซึ่งผมคาดว่ามันจะเกิดขึ้นในที่สุด แต่อาจไม่ใช่ในทันทีทันใด