บานปลาย! ชลน่าน ถาม ก้าวไกล ถ้าเห็น 6 เสียงสำคัญกว่า 141 พท.ก็ต้องดูตัวเอง

Home » บานปลาย! ชลน่าน ถาม ก้าวไกล ถ้าเห็น 6 เสียงสำคัญกว่า 141 พท.ก็ต้องดูตัวเอง



ชลน่าน เดือดไม่เลิก บี้ ก้าวไกล เคลียร์ ‘ศิธา’ ให้ชัด หากเห็น 141 เสียง ดีกว่า 6 เสียง จี้ต้องมีสำนึก ให้เกียรติกัน รับทำงานร่วมยาก

เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีวิวาทะระหว่างตนเอง และ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เพิ่มเติมอีกว่า ตนไม่สบายใจ ถ้าพรรคแกนนำไม่จัดการเรื่องนี้ คุณต้องจัดการพรรคร่วมของคุณให้อยู่ในร่องในรอย ถ้าเห็นเขาสำคัญแล้วเห็นตนไม่สำคัญ คงต้องย้อนถามกัน นี่คือสิ่งที่ตนพยายามจะสื่อสาร

เมื่อถามว่าหมายถึงจะต้องเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเป้าหมายหลักของเราคือ การจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่ควรมาเป็นประเด็น ถ้าเขาสำนึกได้ เขาขอโทษก็จบ และมันเป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่ต้องมาเคลียร์เรื่องนี้ ถ้ายังปล่อยให้เรื่องราวเป็นประเด็นแบบนี้เอ็มโอยูที่เราเขียนว่า ทุกพรรคต้องมีความจริงใจต่อกันต้องให้เกียรติกัน เขียนไว้แล้วเพิ่งลงนาม แต่เพียงชั่วข้ามคืน มันก็ไม่เกินขึ้นแล้ว มันยากไหมละกับการทำงาน

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกล ต้องพูดคุยเรื่องนี้ให้จบเมื่อไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ได้กำหนดเวลา ตนเป็นผู้ใหญ่พอ ไม่ได้โกรธเคืองอะไร และเมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ก็ขอโทษ ก็จบแล้ว ตนไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แต่ปรากฎว่าน.ต.ศิธาไปโพสต์ขยายความว่า ตนถูกบรีฟ ถูกกดดัน นั่งกินเหล้าด้วยกัน นั่งสังสรรค์กัน นี่คือสิ่งที่ตนไม่พอใจ แต่ถ้าวันนี้ เขาขอโทษมา ก็ไม่ติดใจ

ก็สำนึกบ้างว่าเราทำอะไรไปบนพื้นฐานอะไร คือมันไม่ได้เกิดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เราเลยอ่านเจตนาเขาออกว่าเขาต้องการอะไร ตนไม่ทราบว่า เขาต้องการอะไร แต่การแสดงออกแบบนั้น ทำตัวว่าเป็นผู้แทนของประชาชน มาบอกว่าต้องการให้กำจัดเผด็จการด้วยการผูกมัดกัน มัดกันเป็นฝ่ายค้าน ผมก็บอกว่า มันเป็นเรื่องไร้สาระ เสียงข้างมากขนาดนี้ จะไปมัดกันเป็นฝ่ายค้านทำไม ทำไมไม่มัดกันเป็นรัฐบาล คือคำถามมันก็ไม่ใช่แล้ว สถานะมันก็ไม่ใช่

“ยอมรับจริงๆ วันนั้นผมมีอารมณ์ แต่ก็พยายามควบคุมอารมณ์ ลงมาก็เพียงแต่ชี้หน้าเขา คุณทำตัวให้ถูก คุณว่าคุณจะเป็นสื่อ หรือเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เอาให้แน่ ผมตำหนิเขาเลยนะ และมากล่าวหาว่าโดนกดดันโดนบรีฟ ผมยิ่งโกรธใหญ่เลย มันหมายถึงว่าดูหมิ่น ด้อยค่าทั้งตัวผมและพรรคผมด้วย เจตนามันบ่งว่าเขาทำอะไร เพื่ออะไร แต่ถ้าเขาขอโทษ ผมจบนะ ไม่มีปัญหาอะไร เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เข็มมุ่งเราคือจัดตั้งรัฐบาล” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่า น.ต.ศิธาต้องขอโทษในรูปแบบใด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แบบใดก็ได้ที่แสดงให้เห็นว่าเขาสำนึก

เมื่อถามว่าจะเป็นปมร้อนให้พรรค พท.ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ฝากพรรคแกนนำ อย่าให้เรื่องอะไรเล็กๆ น้อยๆ มาบั่นทอนการทำงานร่วมกันของเรา แต่ถ้าเห็น 6 เสียงมากกว่า 141 เสียง ตนก็มาดูตัวเองว่าสำคัญหรือไม่ ส่วนแนวทางก็แค่อยากให้พูดคุยกันกับ น.ต.ศิธาว่าขอเถอะ กำลังจับมือจัดตั้งรัฐบาล อะไรที่ช่วยกันได้ ควรช่วยกันทำ จะไปสร้างฉากสร้างซีนอะไร ก็ไปทำทีหลัง ให้เรื่องนี้จบก่อน ตนว่าพูดแค่นี้มันน่าจะจบ

เมื่อถามว่าถึงขั้นต้องลดบทบาท น.ต.ศิธาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคแกนนำ แต่ตนก็จะบอกชัดเจนว่าพูดตรงนี้ให้จบ อย่าไปขยายความข้างนอก จะได้มีข้อตกลงชัดเจนว่าเราพูดกันแล้ว

เมื่อถามว่าส่วนตัวจะไม่ให้ น.ต.ศิธาไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรคแกนนำ เพราะตนไม่มีอำนาจพอที่จะไปชี้เอานั่นไม่เอานั่น เพียงแต่ขอให้เกียรติกันเท่านั้นก็พอ ตนไม่ติดใจจะเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นอะไรก็เรื่องของเขา แต่ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ทำงานร่วมกันยาก

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ