ตาพิการ ตามหาหลานสาววัย 14 หายตัว 2 สัปดาห์ พบเก๋งปริศนารับตัวไป ก่อนติดต่อไม่ได้ เผยอยู่กัน 3 ชีวิต ตาเก็บของเก่าขาย มีแม่ป่วยจิตเวช เงินที่มีเริ่มหมด
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.65นายบำรุง อายุ 77 ปี ชาว จ.สิงห์บุรี เดินทางเข้ามาร้องเรียน และขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาหลานสาววัย 14 ปี ที่หายออกจากบ้านมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว
นายบำรุง กล่าวว่า หลานสาวที่หายออกจากบ้านไป คือน้องจี อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยในวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.00 น. หลานสาวบอกกับตาว่าให้ช่วยไปซื้อก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้านมาให้ทานหน่อย และเมื่อตาออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยว กลับมาก็ไม่พบหลานสาวแล้ว
ทราบเพียงแต่ว่ามีรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน มารับตัวหลานสาวออกไป พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตนเป็นห่วงหลานสาวมาก พยายามออกตามหาหลานสาวตามบ้านเพื่อน แต่ก็ไม่พบ
ผู้สื่อข่าว จึงเดินทางไปยังโรงเรียนที่น้องจีเรียนอยู่ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณครูและเพื่อนๆ นักเรียนของน้องจี โดยคุณครูธัญนุช เนียมประเสริฐ ครูประจำชั้นและที่ปรึกษาของน้องจี กล่าวว่า โดยปกติน้องจีเป็นเด็กที่เงียบขรึม ไม่ค่อยสุงสิง และพูดจากับเพื่อน จึงไม่มีเพื่อนที่สนิท แต่จะมีเพื่อนสนิทเป็นเด็กนอกโรงเรียน น้องจีไม่มาเรียนเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว คุณครูก็ไม่สามารถติดต่อน้องจีได้เช่นกัน โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณตาเดินทางไปลงบันทึกและแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.อินทร์บุรีแล้ว
ขณะเดียวกันจากการสอบถามและพูดคุยพบว่า คุณตาบำรุงนอกจากจะชราแล้วยังพิการ เดินไม่สะดวก อาศัยอยู่กับ นางดาว (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 45 ปี ซึ่งนางดาวเป็นผู้ป่วยจิตเวช และน้องจีเป็นลูกสาวของนางดาว
โดยทั้ง 3 ชีวิตพักอาศัยอยู่ในเพิงสังกะสีเล็กๆ คุณตาบำรุงประกอบอาชีพรับซื้อของเก่าตามหมู่บ้านและนำไปขาย โดยทุกครั้งที่ออกไปซื้อของเก่าจะนำนางดาว ซึ่งเป็นลูกสาวติดไปด้วยทุกครั้ง เพราะนางดาวไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และหากปล่อยไว้ที่บ้านพักเพียงลำพัง เกรงว่าจะเกิดอันตราย ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คุณตาและลูกสาวตระเวนขับรถไปตามหมู่บ้านต่างๆ ที่คาดว่าหลานสาวจะไปพักอาศัยอยู่ตามบ้านเพื่อน
จนไม่มีเวลาไปรับซื้อของเก่า กระทั่งเงินที่มีสะสมเริ่มร่อยหรอ วันนี้จึงตัดสินใจหยุดตามหาหลานสาว แล้วออกมารับซื้อของเก่าดังเดิม เพื่อจะได้มีเงินออกตามหาหลานสาวต่อไป โดยวอนขอให้ผู้ที่พบหรือเห็นช่วยติดต่อกลับมาหาคุณตาด่วน เพราะเป็นห่วงหลานสาวมาก
ที่มา มติชนออนไลน์
