ชดใช้ทำสังคมดราม่า รมว.ศึกษาฯโสมใต้ไขก๊อกปมเสนอเด็กเรียนเร็วขึ้น1ปี

ชดใช้ทำสังคมดราม่า – วันที่ 8 ส.ค. รอยเตอร์รายงานว่า นางปาร์ก ซูนอี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบกรณีการเสนอนโยบายที่ก่อให้เกิดการประท้วงและเสียงวิพากวิจารณ์โจมตีอย่างกว้างขวาง

การลาออกของนางปาร์กเกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศจะเดินหน้าปรับเปลี่ยนเกณฑ์อายุของเด็กที่สามารถเข้าศึกษาชั้นอนุบาลที่ 1 ให้เร็วขึ้นอีก 1 ปี ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป หากได้รับฉันทามติจากประชาชน

โดยวัตถุประสงค์ของการปรับเปลี่ยนข้างต้นเป็นไปเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในเกาหลีใต้ เพราะจะทำให้หนุ่มสาวจบการศึกษาได้เร็วขึ้น 1 ปี จึงสามารถช่วยเติมตลาดแรงงานเข้ามาได้ไวขึ้นกว่าเดิม

ทว่า การประกาศดังกล่าวส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านจากบรรดาครอบครัวชาวเกาหลีใต้และกลุ่มครูอาจารย์ที่พากันออกมาชุมนุมประท้วงที่ด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดี กรุงโซล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการเดินหน้าตามแผนข้างต้นทันที

ผู้ประท้วงให้เหตุผลว่า เกณฑ์ใหม่จะทำให้เด็กที่สามารถเข้าเรียนได้มีอายุลดลงเหลือ 5 จากเดิม 6 ขวบ ซึ่งเป็นในวัยดังกล่าวยังไม่มีความพร้อมด้านการเรียน และจะทำให้ครูอาจารย์ต้องแบกรับภาระการเลี้ยงดูเด็กที่มากเกินความจำเป็น

นางปาร์กระบุในแถลงการลาออกของตนว่า “ข้าพเจ้าเป็นต้นเหตุทั้งหมดที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างรุนแรงในสังคม รวมถึงนโยบายการปฏิรูปสถาบันการศึกษาที่ข้าพเจ้าเป็นต้นคิด เป็นความผิดของข้าพเจ้าเพียงคนเดียว ที่ทำไปเพียงเพราะหวังให้ลูกหลานมีอนาคตที่ดีขึ้น”

ความร้าวฉานที่เกิดขึ้นจากการประกาศนโยบายดังกล่าวส่งผลให้คะแนนนิยมของประธานาธิบดียุน ซุกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือนพ.ค. ดิ่งเหว โดยโพลสำรวจจากบริษัทกัลล็อบพบว่าเหลือเพียงร้อยละ 24 เท่านั้น นับว่าต่ำที่สุดตั้งแต่ประธานาธิบดียุนเข้ารับตำแหน่ง

นอกเหนือจากนโยบายล่าสุดของกระทรวงศึกษาธิการ ยังมีสาเหตุอื่น อาทิ ความด้อยประสบการณ์ ขาดความรู้ความสามารถ และพฤติกรรมอำนาจนิยมที่มักตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียวโดยเพิกเฉยต่อเสียงท้วงติงก็ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะการเลือกบุคคลในคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ประธานาธิบดียุน ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเข้ามาปฏิรูปการเมืองให้มีความเป็นเอกภาพและสังคมเกาหลีใต้ให้มีความยุติธรรมและอยู่บนพื้นฐานของสามัญสำนึก แต่เผชิญกับเสียงโจมตีจากการคัดเลือกบุคคลเข้ามาเป็นรัฐมนตรี โดยหลายคนเผชิญกับข้อครหาอำนาจนิยมจนต้องถอนตัว

นอกจากนี้ ประธานาธิบดียุนยังเคยถูกจับกุมในข้อหาขับรถยนต์ขณะเมาสุราเมื่ออายุ 20 ปี และบุคคล 2 คน ที่ประธานาธิบดียุนเตรียมคัดเข้ามาเป็นรมว.สาธารณสุข ถูกพบว่ามีคดีติดตัวจนต้องถอนตัวออกไป