จอย รินลณี สูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ ทำพิธีลอยอังคาร ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ขอโทษจากหัวใจ ที่ไม่ได้บอกใคร
เพิ่งสูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ สำหรับนักแสดง/พิธีกรสาว ‘จอย-รินลณี ศรีเพ็ญ’ ที่ได้โพสต์ภาพบรรยากาศงานศพ และคลิปวิดีโอนำเถ้ากระดูกของ ‘คุณพ่อประเสริฐศักดิ์ ศรีเพ็ญ’ ไปทำพิธีลอยอังคาร ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.66 ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 มี.ค. 66 ‘จอย-รินลณี’ ที่ได้มาร่วมงาน “AMAZING Big Holiday 2023 x เปรี้ยวปาก @SiamAMAZINGPark” และได้เปิดใจถึงความรู้สึกหลังสูญเสียคุณพ่อ พร้อมกับเผยว่าได้ดูแลคุณพ่ออย่างเต็มที่ในฐานะลูกคนหนึ่งอย่างดีที่สุด
“จอยอาจจะผ่านช่วงเวลาทำใจมาเป็น 10 ปีแล้วค่ะ จริงๆ คุณพ่อติดเตียงมา 10 ปีได้แล้ว ก็ดูแลกันอยู่ มันก็อาจจะถึงวาระที่อาจจะต้องไปแล้ว”
คุณพ่อป่วยมาก่อนหน้านี้ และเริ่มยอมรับกับสิ่งเกิดขึ้น?
“คือมันเป็นการสูญเสียที่ทุกคนทำใจมาสักพักแล้ว ด้วยความที่เป็นคนป่วยติดเตียง เขาก็จะมีระยะของเขาอยู่แล้วค่ะ คุณหมอจะบอกเป็นระยะอยู่แล้ว ว่ามันอยู่ขั้นนี้นะ เหมือนคนเป็นโรคมะเร็ง ที่พอจะเดาได้ว่าระยะเวลาประมาณเท่าไหร่ สำหรับจอย จอยเห็นคุณพ่อทรมานมาเป็น 10 ปี ก็เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก”
ได้ดูแลคุณพ่อเต็มที่ในระหว่างที่คุณพ่อป่วย?
“ก็ได้ดูแลเต็มที่ค่ะ จอยคิดว่าจอยทำเต็มที่ สำหรับลูกคนหนึ่งจะทำให้พ่อได้แล้ว อย่างวาระสุดท้าย เราก็ได้บอกลากันอย่างสมบูรณ์แบบค่ะ คุณพ่ออาจจะไม่ได้รับรู้ร้อยเปอร์เซ็นต์มาสักพักแล้ว 3 ปีหลังเริ่มไม่ค่อยรับรู้อะไรเท่าไหร่แล้ว แต่วาระสุดท้ายที่จอยไป เป็นคืนสุดท้ายจริงๆ เหมือนเป็นเวลาที่คุณพ่อรับรู้ พูดไม่ได้ ตอบไม่ได้ แต่เรารู้ว่าสิ่งที่เขาแสดงออกมา”
“คือเขารับรู้ทุกอย่างที่เราพูด เหมือนเราก็ได้ลากัน ก็ยังพูดกับเขาว่าขอให้พ่อหลับให้สบาย ก็เป็นช่วงเวลาที่ถือว่าดี ที่ก่อนที่เขาจะไป เขาได้สื่อสารกับเราจริงๆ เราบอกทุกอย่างว่าเราไปทำบุญสิ่งนี้ๆ ให้นะ เราทำอันนี้ให้พ่อนะ อยากให้พ่อสบายนะ”
ขออนุญาตถามถึงอาการป่วยของคุยพ่อที่ผ่านมา?
“คืออาการคุณพ่อเริ่มจากความดันโลหิตสูง แล้วก็ล้ม ตอนล้มก็เป็นอัมพาตครึ่งตัว มันก็จะเป็นสเต็ปของมันไปค่ะ จากครึ่งตัวก็มาเป็นทั้งตัว แล้วระบบร่างกายก็จะค่อยๆ เสื่อมไป (สาเหตุมาจากล้มไป?) ใช่ค่ะ คือใครที่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้าน ต้องระวังมากจริงๆ โดยเฉพาะคนที่เป็นความดันสูง ก็มีโอกาสที่เส้นจะแตกได้ง่าย แล้วพอล้มปั๊บเส้นเลือดในสมองแตก ก็อาจจะใช้การไม่ได้ ก็ต้องคอยระวังมากๆ สำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุค่ะ”
สเต็ปการรักษาเป็นอย่างไรบ้าง?
“ก็ทำกายภาพมาเรื่อยๆ นะคะ คุณพ่ออยู่โรงพยาบาลเลย เพราะต้องทำกายภาพ ตอนนั้นทำอาทิตย์ละ 3 ครั้ง เขาก็เริ่มไม่ไหว ทุกครั้งที่กายภาพก็คือทรมานแหละ ต้องเจ็บมากๆ แล้วร่างกายเขาก็จะค่อยๆ เสื่อมลง คือเป็นธรรมดา ถ้าบ้านที่มีคนป่วยแบบนี้ก็จะเข้าใจ ว่ามันจะเป็นสเต็ปของมัน”
ณ วันนี้ให้กำลังใจกันในบ้านยังไงบ้าง?
“พอคุณพ่อไป ทุกคนก็ไม่ได้มีการพูดให้กำลังใจกัน เรารู้สึกว่าเรามีอะไรที่จะต้องทำ พอคุณพ่อเสียก็ต้องมีเรื่องของการจัดการ แต่จอยต้องขอโทษจริงๆ เพราะจอยไม่ค่อยได้บอกผู้ใหญ่เลย เพราะรู้สึกว่าคนไม่เคยเจอคุณพ่อจอย เลยรู้สึกว่าอยากให้เป็นช่วงเวลาของครอบครัว ตอนแรกๆ ที่เราไม่ได้บอกใคร เรามีเวลาที่จะสวดมนต์ให้พ่อ คุยกับพ่อ”
“คือเหมือนเป็นไทม์มิ่งสุดท้ายที่เราจะใช้ร่วมกัน ผู้ใหญ่ก็คือมาทราบหลังๆ จริงๆ อย่างวันเผาพอผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ทางช่อง 3 และผู้ใหญ่ที่จอยไม่คาดคิดว่าจะมาร่วมงาน มาร่วมงาน ก็คิดว่ามันก็อบอุ่นหัวใจมากเลยนะ จากตอนแรกที่เราไม่ได้บอกใคร อยากใช้เวลากันในครอบครัวญาติพี่น้อง แต่พอผู้ใหญ่มา ต้องบอกว่าขอบคุณมากจริงๆ ดีใจที่คนมาร่วมงานค่ะ
ที่ผ่านมาคุณพ่อเคยบอกว่าภูมิใจลูกสาวคนนี้ยังไงบ้าง?
“เขาเคยพูดตอนเด็กๆ จอยจำโมเมนต์ที่เขาบอกว่า เขาเป็นพ่อที่รับส่งจอยที่เรียนโรงเรียนหอวัง พ่อน้ำตาคลอมา แล้วบอกว่าพ่อดีใจมากเลย ที่ครูมาพูดกับพ่อว่าลูกสาวเป็นเด็กดีมากๆ เลย เป็นเด็กน่ารัก เป็นเด็กที่ได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นมา 6 ปีซ้อน คุณพ่อเลี้ยงลูกได้ดีมาก พ่อบอกว่าเวลานั้นเขาเหมือนจะน้ำตาไหล ที่มีคนมาชมลูกเรา เขาก็เล่าให้เราฟังว่าเขาภูมิใจนะ เป็นโมเมนต์แบบเด็กๆ เลยค่ะ เขาดีใจมากนะที่มีคนมาพูดกับเขาว่าเขาเลี้ยงลูกได้ดี แต่พอเราโตเป็นผู้ใหญ่ พ่อแม่ก็อาจจะไม่ได้มาพูดอะไรกับเราแบบนี้ แต่อันนี้มันเป็นโมเมนต์ที่เรารู้สึกว่า เราประทับใจและอยู่ในความทรงจำของเราค่ะ”
คุณพ่อได้พูดอะไรกับเราไหม เมื่อตอนที่ท่านยังสื่อสารได้?
“ไม่มีค่ะ จอยอาจจะทำงานมาตั้งแต่อายุ 18 เหมือนดูแลครอบครัวมาตลอด เพราะฉะนั้นเขาก็รู้ว่าเราสตรองพอที่จะทำอะไรได้ในชีวิต”
ไปลอยอังคารคุณพ่อมา ได้พูดล่ำลากันในวาระสุดท้ายไหม?
“จริงๆ ก็ลากันไปหลายรอบมาก (ยิ้ม) ลาทุกวันค่ะ จอยก็จะบอกเขาตลอด ว่าวันนี้เราไปทำบุญอะไรให้เขา ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว ก็ไปปฎิบัติธรรมมา 10 วัน อันนี้จอยไปให้เขาเลย จอยจะไปบูรณะพระนะ ไปทำอะไร ก็จะบอกเขาตลอด ว่าเราทำอันนี้นะ วันนี้ก็โอนทำบุญอันนี้ให้พ่อนะ อยากให้พ่อรับบุญนะ อยากให้พ่ออยู่ในที่ๆดีๆ นะ ในความรู้สึกจอย จอยก็ทำเต็มที่แล้ว”
แฟนคลับ คนใกล้เป็นห่วงมาก และให้กำลังใจ?
“ขอบคุณมากค่ะ พอจบงานมีหลายคนทั้งไลน์ ทั้ง DM มาเยอะมากๆ ว่าไม่รู้จริงๆ ว่าคุณพ่อเสีย ทำไมไม่บอกเลย อย่างไปทำบุญที่วัด พระท่านก็ยังถาม คิดว่าเสียไปหลายปีแล้ว แต่จริงๆ ครบ 7 วัน พระท่านก็ยังไม่รู้ เพราะคนรู้ข่าวน้อยมากจริงๆ ค่ะ”
“จอยขอบคุณมากๆ ค่ะ สำหรับกำลังใจที่ทุกคนส่งมา คือที่ไม่ได้บอกเพราะบางครั้งแอบกลัวว่าพอมีคนมาทักเราเยอะๆ เดี๋ยวเราจะดราม่าขึ้นมา เพราะงานของเรามันต้องสนุกสนาน ด้วยอาชีพเรา เลยไม่อยากที่จะไปทำให้เดือดร้อน จอยก็ยังไปถ่ายละครอยู่ ไปงานตอนเย็น ตอนเช้าจอยก็ยังไปทำงาน ไม่อยากให้เขารู้ เพราะรู้ว่าคนจะลำบากใจ คือถ้าเขารู้ แล้วพอมีคนมาพูดปั๊บ เดี๋ยวเราก็จะไป เราเลยไม่ค่อยได้บอกใคร แล้วช่วงโควิดด้วย ญาติพี่น้องจอยก็คือผู้ใหญ่มากๆ โควิดมันอันตราย เลยไม่ค่อยอยากบอกคนเยอะ แต่ก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ทุกคนส่งมาค่ะ ตอนนี้ก็สามารถทำงานได้ปกติค่ะ”
ขอบคุณภาพ ไอจี sorrayuth9111