
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ปรับแผนการชันสูตรศพ ปกติแล้วเป็นอำนาจของ จนท.สอบสวน แต่หลังจากมีคดี ไซยาไนด์ ควรชันสูตรทุกศพ
เรียกได้ว่าเป็นคดีสุดสะเทือนขวัญ ที่ยังรอการพิสูจน์ความจริง กับกรณีของ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาคดี ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเรื่องราวอันชุลมุนนี้ กลายเป็นคดีสุดช็อกเพราะอาจมีแนวโน้มว่า ผู้ต้องหา อาจเป็น ฆาตกรต่อเนื่องหรือไม่ โดยในคดีนี้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และผู้ที่รอดชีวิตมาได้อีก 1 ราย แต่เมื่อช่วงวันสองวันที่ผ่านมา มีหลักฐาน และเบาะแสสำคัญ ที่ทำให้ทราบว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตจากกรณีมากกว่า 13 ราย อีกด้วย
ซึ่งจากข่าวที่รายงานไปข้างต้น มีศพที่ไม่ได้รับความยุติธรรมและออกมาเรียกร้องหลายราย บางรายครอบครัวยังเก็บผลชันสูตรไว้อยู่ แต่บางรายญาติไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต จึงไม่มีการชันสูตร ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้การร้องเรียนคดีย้อนหลังอาจเป็นไปได้ยาก เพราะต้องมีทั้งพยานหลักฐานที่แน่ชัด และบางคดีนั้นเกิดขึ้นนานหลายปีแล้วด้วย
ล่าสุด หลังจากมีกระแสคดี วางยาไซยาไนด์ ด้านกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ออกมาปรับแผนเกี่ยวกับการชันสูตรศพ โดย นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีข่าวการฆาตกรรมโดยใช้ไซยาไนด์ ซึ่งมีผู้ตั้งประเด็นคำถามถึงเรื่องการชันสูตรพลิกศพที่ตายผิดธรรมชาติ ว่า กระบวนการและขั้นตอนการพิสูจน์ศพ เมื่อพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จะแจ้งแพทย์ไปร่วมตรวจสอบด้วย โดยอำนาจในการตัดสินใจผ่าพิสูจน์ศพเป็นของพนักงานสอบสวนในฐานะหัวหน้าทีมชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ

- เพื่อนสนิทแอม ไซยาไนด์ เข้าให้ปากคำ เผยพฤติกรรมสุดประหลาด
- เส้นทางการเงิน “แอม ไซยาไนด์” ช่วงระยะ3ปี ชี้ เสียชีวิตหลังโอนได้ไม่นาน
- ไงแน่? ทนาย แอม ไซยาไนด์ มั่นใจเอาอยู่ ล่าสุดลั่น รับทำแค่คดีก้อย
ซึ่งจะให้มีการผ่าพิสูจน์เมื่อแพทย์ไม่สามารถหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนได้และเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ 5 ลักษณะ ได้แก่
การฆ่าตัวตาย, ถูกผู้อื่นทำให้ตาย, สัตว์ทำร้าย, ตายโดยอุบัติเหตุ และตายโดยไม่ปรากฎเหตุ แต่หากญาติไม่ติดใจการตาย และพนักงานสอบสวนเห็นด้วยกับญาติ ก็จะไม่มีการส่งผ่าพิสูจน์ โดยแพทย์จะทำความเห็นเบื้องต้น เขียนใบรายงานชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ และออกหนังสือรับรองการตาย เพื่อให้ญาตินำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งจะระบุเหตุผลการเสียชีวิตกว้างๆ เช่น ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว หรือหัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากไม่มีร่องรอยบาดแผล ถูกทำร้าย หรือฆ่าตัวตาย
ปรับแผนการชันสูตรศพ
นพ.รุ่งเรือง กล่าวต่อว่า และจากกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้มีการปรับแนวทางในการชันสูตรพลิกศพ โดยให้แพทย์ทำการผ่าชันสูตรทุกศพที่ไม่สามารถระบุถึงการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ และไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความชัดเจนและนำไปสู่การป้องกันเหตุ หรือสืบหาต้นตอของการเสียชีวิตได้
สำหรับการตรวจหาสารไซยาไนด์ หน่วยงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทั่วประเทศ สามารถตรวจวิเคราะห์ยืนยันไซยาไนด์ในตัวอย่างน้ำล้างกระเพาะ อาหาร วัตถุต้องสงสัย ได้ในระยะเวลา 5-7 วันทำการ ส่วนการหาปริมาณไซยาไนด์ในตัวอย่างเลือด ใช้ระยะเวลา 22-30 วันทำการ และการหาปริมาณเมตาบอไลด์ในตัวอย่างปัสสาวะใช้ระยะเวลา 5-10 วันทำการ

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY