อย่างที่ใครหลายคนทราบกันดีว่า เวลาเราป่วยไม่สบายก็ต้องเดินทางไปคลินิก หรือ โรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโรค และสั่งจ่ายยารักษาตามอาการ ซึ่งเราเองนั้นก็ต้องปฏิบัติตามที่แพทย์และเภสัชแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อให้อาการป่วยของเรานั้นหาย และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้

แต่ใครจะรู้ บุคคลที่เราไว้วางใจให้ดูแลเรื่องที่เราไม่มีความรู้ หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาก็อาจเป็นอย่างในกรณีนี้ เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานข่าวเรื่องราวสุดอึ่ง เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวรายหนึ่งโพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวของตนเอง และลูกน้อยวัย 1 เดือนกว่า ที่ต้องพบเจอการทำงานผิดพลาดของทางโรงพยาบาลจนลูกต้องเข้า ICU

• ไม่เคยรับเงิน! ณวัฒน์ อิสระไกรศีล เคลียร์ดราม่า หลังบ้านออมทองแม่จ๋าโดนแฉ
• เซ็กซี่ตัวแม่ อวดอกตู้มหลังทำหน้าอกใหม่ งานนี้บอกเลยเซ็กซี่ขยี้ทั้งยอดตึก
• “หัวใจวายเฉียบพลัน” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว รู้ไว้ระวังทัน ห่างไกลโรค

ทั้งนี้ คุณแม่รายนี้ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องดังกล่าวประมาณว่า ประสบการณ์การเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลประจำอำเภอของ จ.กระบี่ หวังเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคน หลังลูกชายวัย 1 เดือน 12 วัน ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เป็นเวลา 3 คืน 4 วัน เนื่องจากไม่สบายและเป็นไวรัสผิวหนัง โดยเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. หมอให้กลับบ้านได้แต่ยังต้องกินยาต่อเนื่อง ซึ่งก่อนจัดยาให้ลูกอ่านสลากยาอย่างละเอียดว่าเป็นแคลเซียม ก่อนป้อนให้ลูก ครั้งแรกลูกกิน ครั้งที่ 2 ไม่กิน คายออกและร้องไห้หนักมาก ทั้งเพื่อนบ้านทั้งพ่อเด็กช่วยตรวจสอบอย่างละเอียดสรุปเป็นคาลาไมน์ เป็นยาใช้ภายนอกห้ามรับประทาน สังเกตเห็นจากภาษาอังกฤษข้างขวด หลังจากนั้นลูกมีอาการอาเจียน อุจจาระออกมาเป็นน้ำ

จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลประจำอำเภอที่เคยไปรักษาแต่อาการไม่ดีขึ้น ส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดกระบี่จนวันที่ 11 ธ.ค. หมอให้กลับบ้านได้แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้นต้องกลับมารักษาใหม่ จนล่าสุดต้องรักษาตัวในห้องไอซียู ลำไส้อักเสบ มีไข้ อุจจาระเป็นน้ำ ขณะที่ทั้ง 2 โรงพยาบาลปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับคาลาไมน์ที่กินไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าของโพสต์ทราบรายละเอียดเพิ่มเติมว่าโรงพยาบาลประจำอำเภอได้โอนเงินมาให้ตนจำนวน 70,000 บาท และให้เงินติดตัวมาอีก 5,000 บาท ในวันที่ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดกระบี่ ทำให้สงสัยว่าถ้าไม่ใช่ความผิด โรงพยาบาลแล้วทำไมถึงโอนเงินมาให้ จึงอยากวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบด้วย

ขอบคุณข้อมูล โหนกระแส

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY