วันที่ 13 ธ.ค.เอเอฟพีรายงานบรรยากาศการเข้าเกณฑ์ทหารของนายคิม ซ็อกจิน หรือจินแห่งวงบีทีเอส บอยแบนด์เกาหลีใต้โด่งดังระดับโลก ว่า สื่อหลายร้อยสำนักและแฟนบีทีเอสแห่ให้กำลังใจแน่นบริเวณสี่แยกหน้าประตูหลักของค่ายทหารในอำเภอย็อนช็อน จังหวัดคย็องกี ใกล้พรมแดนติดกับเกาหลีเหนือ ซึ่งจิน วงบีทีเอส อายุ 30 ปี สมาชิกวงที่อายุมากที่สุดเริ่มทำหน้าที่ในกองทัพเกาหลีใต้เป็นวันแรก
กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า จินจะเริ่มเข้าฝึกทหารใน 5 สัปดาห์แรกและคาดว่าจินจะได้รับมอบหมายให้ประจำการในหน่วยแนวหน้าหลังฝึกซ้อมเสร็จ นับเป็นสมาชิกคนแรกของวงบีทีเอสที่เข้าเกณฑ์หารนับตั้งแต่วงประกาศการหยุดพักงานในปีนี้ ทำให้แฟนแพลงเสียใจและกังวลถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนของวงขวัญใจ ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้
ด้านแฟนคลับชาวอินโดนีเซียรายหนึ่งระบุว่า พวกเรามีความรู้สึกต่างๆผสมกันทั้งเศร้าและภูมิใจ เนื่องจากอีกด้านหนึ่ง นับเป็นเรื่องปกติที่จินเข้าเกณฑ์ทหารเนื่องจากเป็นหน้าที่ของชายเกาหลีใต้ แต่อีกด้านหนึ่ง แฟนคลับจะไม่ได้เห็นจินไปอีกอย่างน้อย 18 เดือน
แฟนคลับมึน
เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แฟนคลับต่างตะลึงเมื่อบีทีเอส ประกาศว่า จะพักงานวง โดยอ้างถึงความเหน็ดเหนื่อยและความกดดันตลอดจนความต้องการที่จะผลิตผลงานเดี่ยวให้สำเร็จ แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า การประกาศดังกล่าวถูกกำหนดเวลาไว้แล้วอย่างมีชั้นเชิง เนื่องจากภาระหน้าที่ในการเกณฑ์ทหารของสมาชิกวง
วงจะรวมตัวกันอีกครั้งราวปีค.ศ.2025 หรือปีพ.ศ.2568 เมื่อสมาชิกทุกคนในวงรับใช้ชาติเสร็จสิ้น “เป็นเวลาสักพักหนึ่ง ที่มีแฟนคลับจำนวนมากใช้เวลาหลายวันเอาแต่ร้องไห้” แฟนคลับชาวเกาหลีใต้ ซึ่งดูแลบัญชีทวิตเตอร์ @5heterotopia กล่าว
น.ส.นิมะห์ มุสตาฟา แฟนคลับอายุ 20 ปีในนครดูไบ กล่าวเสริมว่า การหายไปของจินจะเป็นความว่างเปล่าครั้งใหญ่สำหรับตน
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ยกเว้นการเกรฑ์ทหารแก่นักกีฬาระดับยอดเยี่ยมจำนวนหนึ่ง อาทิ นักกีฬาเหรียญโอลิมปิก นักดนตรีคลาสสิก แต่ดาราเคป๊อปไม่เข้าเกณฑ์ยกเว้น
อย่างไรก็ตาม วงบีทีเอสได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการเกณฑ์ทหาร ซึ่งเพิ่มกำหนดอายุเส้นตายการเข้าเกณฑ์ทหารสำหรับนักร้อง นักแสดงจำนวนหนึ่งจากอายุ 28 ปีเป็น 30 ปี ซึ่งจิน วงบีทีเอสอายุ 30 ปีเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา
บีทีเอสจะไม่ถูกลืม
การเปลี่ยนแปลงระดับสั่นสะเทือนของวงบีทีเอสในปี 2565 นี้ ทำให้เกิดการคาดเดาในหมู่แฟนคลับและผู้สังเกตการณ์เคป๊อปเกี่ยวกับอนาคตของวง พวกเขาจะรักษาชื่อเสียงไว้ได้หรือไม่หรือฝ่าฟันเพื่อฟื้นคืนความสำเร็จ
ดาราเคป๊อปชายจำนวนหนึ่งดิ้นรนที่จะหวนกลับคืนวงการ หลังรับใช้ชาติเสร็จสิ้น ซึ่งอุตาหกรรมเคป๊อปเป็นอุตสาหกรรมแข่งโหด ทำให้ศิลปินอาจถูกแทนที่ได้อย่างง่ายดาย
นายแท็ก กวัง ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสารจากมหาวิทยาลัยกยุงฮีกล่าวว่า ช่วงเวลาที่ศิลปินหายไป พวกเขาอาจสูญเสียความสนใจจากประชาชน และความเสื่อมคลายในความนิยมจะทำให้ธุรกิจเสียหาย ซึ่งไม่ง่ายที่วงบีทีเอสจะหลับมารวมตัวกันได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งหนึ่งชี้ว่า วงบีทีเอสอาจเป็นข้อยกเว้น จากปัจจัยความสำเร็จมหาศาลของวง
“พวกเขาได้รับความนิยม อิทธิพล ความน่าเชื่อถือในอีกระดับ” น.ส.อี จียัง ผู้เชี่ยวชาญด้านวงบีทีเอสและศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยการต่างประเทศศึกษาฮันกุกกล่าว
ดังนั้นพวกเขาจะไม่ถูกลืมเลือนในอุตสาหกรรมเคป๊อปที่มีการแข่งขันอย่างสูง นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2556 บีทีเอสได้รับเครดิตอย่างกว้างขวาง มากกว่านักการทูตคนไหนๆหรือเซเลบคนใดในการส่งเสริมภาพลักษณ์และซอฟพาวเวอร์ของเกาหลีใต้
บีทีเอสได้รับเชิญให้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่สหประชาชาติหรือยูเอ็นและพบหารือกับนายโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกาที่ทำเนียบขาว รวมถึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตอย่างเป็นทางการในการสมัครเป็นเจ้าภาพเวิลด์เอ็กซ์โป 2030 ของเกาหลีใต้ รัฐบาลเกาหลีใต้ให้เครดิตกับวงบีทีเอสที่นำรายได้หลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
การประจำการในแนวหน้า?
ทั้งๆที่ประสบความสำเร็จขนาดนั้น แต่ร่างข้อเสนอการยกเว้นการเกณฑ์ทหารของบีทีเอสพิสูจน์ว่า เกิดข้อโต้แย้งมากเกินไปและไม่เคยผ่านรัฐสภา
“ในเกาหลีใต้ การเข้าเกณฑ์ทหารเป็นตัวชี้ถึงความเสมอภาค ซึ่งชายทุกคนเท่าเทียมกัน เป็นสัญลักษณ์ถึงความเป็นพลเมืองที่จำเป็น”น.ส.อีจากมหาวิทยาลัยกยุงฮีกล่าว
มีรายงานว่าจิน สังกัดแนวหน้าใกล้พรมแดนเกาหลีเหนือ
“มันแสดงถึงบทบาทของวัฒนธรรม ความเห็นของประชาชนในการกำหนดการต่างประเทศ” “นี่คือหน้าที่แนวหน้าในการรบหรือแนวหน้าในการประชาสัมพันธ์และสื่อ” น.ส.ซาราห์ คีธ อาจารย์อาวุโสด้านการสื่อและดนตรี มหาวิทยาลัยแม็กควารี่ ออสเตรเลียกล่าว
เมื่อวันจันทร์ที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา จินโพสต์รูปตนเองกับผมทรงทหารบน Weverse โซเชียลมีเดียของเกาหลีใต้ พร้อมแคปชั่นว่า “น่ารักกว่าที่ผมคิด”
…………