“เสรีพิศุทธ์” แนะเพื่อให้มีนายกฯ คนที่ 30 ก้าวไกลอาจต้องเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน แล้วดันเพื่อไทยตั้งรัฐบาลให้ได้ มองแก้ 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. ทำไม่ได้ เหมือนเอาหัวกระแทกกำแพง ทั้งนี้ ยืนยันร่วมมือได้ทุกพรรค ขอแค่ไม่มี “ประยุทธ์” พูดชัด “ประวิตร” ก็ร่วมได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคเสรีรวมไทยในตำแหน่งที่ว่างอยู่ ระบุ มั่นใจเสนอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ชิงนายกฯ รอบ 2 ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 แต่ยอมรับโอกาสชนะมีไม่มาก พร้อมติงก้าวไกลฟังด้อมส้มมากเกินไป
เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคเสรีรวมไทย หากพรรคก้าวไกลพลิกขั้วไปเป็นฝ่ายค้าน และพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า “แม้คนจะมาวิพากษ์วิจารณ์ผม แต่ผมจะเอาแล้วมันยังไง ถ้าประยุทธ์ไม่อยู่ผมก็รวมได้หมด ถึงประยุทธ์จะอยู่ถ้าเค้าไม่เอารวมไทยสร้างชาติ ผมก็รวมได้ ผมไม่ใช่คนปิดกั้นตัวเอง ผมเปิดได้หมด คนปฏิวัติคือคนคุณประยุทธ คุณประวิตรเขาแค่เชิญมาร่วมรัฐบาล ก็ไม่ใช่คนปฏิวัติ”
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ว่า พรรคร่วมรัฐบาลรวมตัวกันได้ทั้งหมด 312 เสียง โดยพรรคการเมืองที่ได้คะแนนสูงสุดคือพรรคก้าวไกล จึงได้มีมติร่วมกันให้เสนอชื่อให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี จึงเป็นหน้าที่ของ 8 พรรคร่วมจะต้องช่วยกันสนับสนุนให้นายพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้
“ครั้งที่แล้ว ส.ว.ลงคะแนนเพียง 13 คน ยังขาดอยู่ 52 คน ส.ว.คนที่เคยรับปากว่าจะลงคะแนนให้ก็งดออกเสียงอีก สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา แล้วแต่เค้าจะตัดสินใจ แต่ในเวลานี้ก็มีการเจรจาเพิ่มเติม เพื่อมาสนับสนุนคุณพิธาให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ซึ่งในวันที่ 19 นี้ก็คงจะมีการโหวตกันแต่ผมก็หนักใจแทน ถ้าคุณพิธาไม่ผ่านก็ต้องโหวตอีก คุณพิธาจะสู้ต่อไปหรือไม่ หากมีโอกาส ทั้ง 8 พรรคร่วมก็คงจะโหวตให้ แต่ถ้าไม่มีโอกาส ก็คงต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็ต้องเอาพรรคก้าวไกลไปด้วย” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ยังระบุว่า แต่ถ้า ส.ว. และ ส.ส. อีกฝั่งยังติดเงื่อนไข ว่าไม่เอาพรรคก้าวไกลมาร่วมด้วย ก็จะไม่ผ่านเหมือนเดิม ก็เป็นเรื่องของเพื่อไทยและก้าวไกลต้องตกลงกันเองว่าจะเอาอย่างไร เราไม่สามารถที่จะจัดการอะไรได้
“เพื่อจะให้มีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก้าวไกล คงต้องเสียสละออกไปเป็นฝ่ายค้าน เพื่อให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไปตามที่ประชาชนต้องการ การจัดตั้งรัฐบาล ก็จะอิสระมากขึ้นมากขึ้น อาจจะไปดึงพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคอื่น ๆ เพื่อให้มีเสียงเกิน 376 เสียง ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ระบุ
ทั้งนี้ถ้าพรรคก้าวไกลยอมเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องสนับสนุนเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาลด้วย ต้องเอาใจกันไว้ เผื่อวันข้างหน้าจะสนับสนุนตอบแทนซึ่งกันและกัน ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ถ้าเลือกใครไม่ได้ก็เลือก เสรีพิศุทธ์ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรค 2 เปิดช่องให้โอกาสเสนอนายกฯ คนนอกได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มองว่า การที่พรรคก้าวไกลยื่นเสนอปิดสวิตช์ ส.ว.โดยการแก้ไขมาตรา 272 นั้นทำไม่ได้ ในสมัยประชุมครั้งที่แล้วมีการเสนอถึง 3-4 ครั้ง ก็ไม่สำเร็จ ครั้งนี้จะสำเร็จได้อย่างไร แล้วถ้ามันไม่สำเร็จจะทำทำไม ถ้าเอาหัวกระแทกกำแพง กำแพงจะพังได้อย่างไร มีแต่หัวเราที่จะพัง ควรหาวิธีการใหม่ไปสู่ความสำเร็จดีกว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย แต่ก็แล้วแต่เขา