ฟุตบอลโลก – จากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 35 แบบเต็มคณะ ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ซึ่งผู้นำรัฐบาลของชาติสมาชิกในอาเซียน เห็นพ้องในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกร่วมกันสำหรับฟุตบอลโลกในปี 2034

โดย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมให้การสนับสนุน และได้มอบหมายให้ ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านกีฬาของอาเซียน เป็นประธานคณะทำงาน พร้อมทั้งได้ประชุมระหว่างกรมพลศึกษา ร่วมกับ เคียฟ ซาเมธ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ), วินส์ตัน ลี เลขาธิการเอเอฟเอฟ, นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และผู้เชี่ยวชาญที่นำการเสนอตัวฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ไปแล้วนั้น

ล่าสุด “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ในการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพร่วมฟุตบอลโลกนั้น ทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้มอบหมายให้ทางกรมพลศึกษาเป็นหลักในการศึกษาข้อมูล กกท.เองก็อยู่ร่วมในขณะการทำงานชุดนี้ด้วย โดยจะเตรียมความพร้อมในส่วนของสถานที่จัดการแข่งขัน กกท.มีโครงการที่จะปรับปรุงสนามที่มีอยู่แล้วอย่างเช่นราชมังคลากีฬาสถาน มีแผนจะเพิ่มความจุให้เป็น 60,000 ที่นั่ง รวมถึงยังมีแผนจะสร้างสนามกีฬาแห่งชาติขนาดใหญ่ แห่งใหม่ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะมีความจุราว 80,000 ที่นั่ง สามารถใช้เป็นพิธีเปิด-ปิด ได้

นอกจากนี้ทางกรมพลศึกษาเองก็มีแผนที่จะปรับปรุงสนามของตัวเองเพื่อใช้รองรับการแข่งขันเช่นกัน ซึ่งทั้งเรื่องของสนาม, ความร่วมมือต่างๆ ได้มีการทำงานกันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

“การลงทุนจากภาครัฐ, เอกชน เพื่อสร้างสนามแห่งใหม่ในครั้งนี้ ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพียงแค่ฟุตบอลโลกเท่านั้น แต่ยังมีมหกรรมกีฬาที่จะต้องใช้สนามมาตรฐานแบบนี้อีกหลายรายการ เพราะประเทศไทยยังมีแผนที่จะยื่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ รวมถึงการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ในปี ค.ศ.2025 อีกด้วย ดังนั้นสนามเหล่านี้ก็จะได้ใช้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน”