เพื่อไทย ยกผลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ทำคนอยากเปลี่ยนผู้นำ ซัด ‘ประยุทธ์’ เลิกอยู่รักษาอำนาจถ้ามือไม่ถึง งานเอเปกส่อล้มเหลว ฉะพปชร.ทำไม่ได้ตามที่หาเสียงไว้
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 24 พ.ค.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นำโดยนายพิช้ย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด กรรมการบริหารพรรค และนายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงหัวข้อ “8 ปี แห่งความเสื่อมถอย เพื่อไทย เพื่ออนาคตที่สดใสของประเทศไทย”
โดยนายพิชัย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ชนะลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.แบบแลนด์สไลด์หรือถล่มทลาย ผลเลือกตั้งชัดเจนว่า ชาว กทม.ไม่เลือกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โฮชา นายกฯ แสดงให้เห็นว่าประชาชนเบื่อหน่ายกับคำแก้ตัวแบบซ้ำๆ ของพล.อ.ประยุทธ์ ที่อ้างว่าต้องทำรัฐประหารเข้ามา เพราะต้องแก้ไขความวุ่นวายและเพื่อให้เกิดความสงบ ทั้งที่คนที่สร้างความวุ่นวายคือ คนที่ได้ดิบได้ดีและอยู่รอบตัวพล.อ.ประยุทธ์ทั้งนั้น รวมถึงบางคนที่ถูกประชาชนลงโทษให้สอบตกจากผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ด้วย
นายพิชัย กล่าวว่า การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยต่ำเตี้ยมาตลอด 8 ปี รายได้ประชาชนหดหาย หนี้สินล้นทะลัก คนจนมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี รัฐบาลปล่อยให้เจ้าสัวผูกขาดควบรวมกิจการ รวมถึงการให้คนบางกลุ่มมีอิทธิพลทางธุรกิจพลังงาน ปัญหาทั้งหมดเกิดจากความต้องการรักษาอำนาจของผู้นำ ไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศ นี่เป็นสาเหตุที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า ผู้นำต้องไม่อยู่เกิน 8 ปี ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ อย่าดันทุรังอีกเลย ประชาชนได้แสดงความต้องการชัดเจนแล้วว่าอยากเปลี่ยนผู้นำ
ด้านน.ส.จิราพร กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีรัฐประหาร มักอ้างความสุขของประชาชน แต่กลับทำลายนโยบายดีๆ ที่เป็นประโยชน์ พล.อ.ประยุทธ์ทำรัฐประหารเข้ามา พยายามล้มโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ล้มเลิกไม่ได้ แถมไปเอาหน้าเอาเครดิตที่สหประชาชาติ นอกจากยังมีนโยบายแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนเมื่อกว่า 10 ปีก่อน เป็นการปูพื้นฐานความรู้ทางคอมพิวเตอร์ แต่ถูกยกเลิก
โครงการรถไฟความเร็วสูง เห็นได้ชัดว่าลาวได้ประโยชน์อย่างมากจากโครงการนี้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่มา 8 ปี แต่ระบบคมนาคมขนส่งของไทยโดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ใช้งบประมาณเฉลี่ยสูงกว่าสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างมาก หนี้สาธารณะเพิ่มสูงกว่า 10 ล้านล้านบาท แต่ประเทศไม่ได้พัฒนาเลย
น.ส.จิราพร กล่าวว่า ขณะเดียวกันพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) หาเสียงไว้ ทั้งค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400-425 บาท เงินเดือนอาชีวะ 18,000 บาท ปริญญาตรีเดือนละ 20,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 18,000 บาท ข้าวเจ้าตันละ 12,000 บาท มารดาประชารัฐกลับไม่ทำเลย ล่าสุด การที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกในปลายปีนี้ ส่อเค้าจะล้มเหลว เพราะการประชุมรัฐมนตรีการค้าจาก 21 เขตเศรษฐกิจมีความขัดแย้งสูง กลายเป็นสนามประลองกำลังของมหาอำนาจ ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้ ไทยต้องออกแถลงการณ์เองแก้เก้อ บ่งชี้ถึงศักยภาพที่อ่อนด้อยในการบริหารจัดการการประชุมนานาชาติของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งต่างจากรัฐบาลในอดีต
ทางที่ดีที่สุด พล.อ.ประยุทธ์เลิกกระเสือกกระสนที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด เพื่อได้นั่งเป็นประธานเอเปก หวังจะกอบกู้ภาพลักษณ์ตัวเองคืน ถ้ารู้ตัวว่ามือไม่ถึง ก็ควรสละอำนาจ ให้รัฐบาลที่มาจากประชาชนได้เข้ามาบริหารประเทศแทน