ความคืบหน้ากรณี เด็ก 14 ถูกกลุ่มอริชี้เป้ายิงที่หน้าท้องเสียชีวิต วันที่ 2 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ที่ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ตรงข้ามมัสยิดคอยรูดดี จะมีสนามเด็กเล่น ที่ผู้เสียชีวิตนั่งเล่นกันเป็นกลุ่มอยู่บริเวณนี้ แล้วได้ถูกยิง จนมาล้มเสียชีวิตที่แยกหน้าบ้านเลขที่ 67
ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ขับเข้ามาทางปากซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 แล้วหลบหนีมาทางซอย วิฑูรย์ชาติ ซึ่งทะลุออกกันได้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามหากล้องวงจรปิดพบว่า บริเวณละแวกนี้ไม่พบกล้องวงจรปิด มีที่มัสยิดแต่กล้องวงจรปิดใช้ไม่ได้ ส่วนบริเวณสนามเด็กเล่นที่กลุ่มคู่ชีวิตนั่งเล่นกันอยู่ พบว่าโต๊ะหินอ่อนที่นั่งกันมีรองเท้าคู่นึงถอดทิ้งไว้คาดว่าน่าจะเป็นรองเท้าของเด็กกลุ่มผู้เสียชีวิตที่วิ่งหนีกันตายหลังถูกยิง
นาง โต๊ะ อายุ 41 ปี (ญาติผู้เสียชีวิต) เล่าว่า เมื่อเวลา 02.00 น จนได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ขับมา และได้ยินเสียงพวกเด็กๆตะโกนเรียกตน คนก็เลยเปิดประตูออกมาแล้วตะโกนถามเด็กๆว่ามีอะไรกัน ซึ่งเด็กๆก็ไม่ตอบแต่ตนได้เห็นพวกเด็กๆวิ่งหนีกันเข้าไปในสุเหร่า ซึ่งตอนนั้นคนไม่ทราบว่าหลานชายตัวเองถูกยิงเสียชีวิต แต่เห็นคนขับมอเตอร์ไซค์ซึ่งซ้อน 3 กันมา 3 คน ได้บอกว่าถูกยิง 2 คน แล้วมีเพื่อนในกลุ่มขับมาเห็นลี่ (ผู้เสียชีวิตนอนตาย) ถึงได้บอกตอนจึงเปิดประตูออกมาเห็นหลานชายตัวเองนอนเสียชีวิตบริเวณแยกหน้าบ้านของตน สภาพผู้ถือวิทย์ตอนนั้นปากซีด
ซึ่งขณะนั้น ญาติของพวกเด็กๆก็ได้ออกมาดูกันเต็มไปหมด ซึ่งตนก็บอกให้เด็กละแวกนั้นโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยให้หน่อย เพิ่งตอบมาสักครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยก็ได้มาถึงที่เกิดเหตุ ตนได้เล่าว่าเด็กๆที่ถูกยิงจะชอบนั่งเล่นกันอยู่ที่บริเวณสนามประมาณ 10 กว่าคน ซึ่งผู้ก่อเหตุขับรถมอเตอร์ไซค์มา 1 คันซ้อน 3 ซึ่งคนขับใส่เสื้อเซเว่นใส่หมวกกันน็อค ส่วนคนกลางไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค
ส่วนคนหลังได้กระโดดลงมาจากรถแล้วตะโกนถามเพื่อนอีก 2 คนว่าใช่ไหม และก็ยิงเลย แล้วพวกเด็กๆก็วิ่งแตกตื่นกันหลบกระสุนปืนกัน ซึ่งหลังจากได้ยินเสียงปืนทุกคนวิ่งหนีกระจายเข้าไปในสุเหร่ากันหมด บางกลุ่มก็ช่วยผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล แต่ไม่ทราบว่าเพื่อนอีกคนนึงถูกยิงเสียชีวิต ส่วนเสียงปืนไม่ได้ยินได้ยินแต่เสียงเด็กตะโกนโวยวายกัน ซึ่งตนก็ไม่กล้าออกมาได้แต่เปิดประตูดู
- ตามล่า! คนร้ายขี่จยย.ชี้เป้า ก่อนชักลูกซองลั่นไกใส่ เด็ก 14 ดับ 1 สาหัส 1
- หนุ่มกัมพูชา เมาแล้วห้าว สุดท้ายโดนรุมจนเจ็บ แต่ไม่มีเงินไปหาหมอ
- ทนายตั้ม ฟ้องเพจดัง! หลังปล่อยคลิปเสียง อ้างอุ้มบัญชีม้า
ส่วนสาเหตุอาจเป็นเพราะเมื่อ 2 วัน ก่อนมีเหตุการณ์ที่เคยมีเด็กถูกหลอกไปกระทืบที่ชุมชนนี้ แต่ก็ไม่ทราบว่าใช่เรื่องนี้หรือเปล่า แต่คิดว่าไม่เกี่ยวกับเด็ก 14 ที่เสียชีวิต เพราะน้องเพิ่งออกมาจากสถานพินิจ
ส่วน เยาวชนที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้นเรานั่งอยู่กันที่สนามเด็กเล่น ผู้ก่อเหตุได้มากัน 3 คนมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ใส่หมวกกันน็อคมาก่อนที่จะยิงได้มีคนชี้เป้าว่านี่แหละพี่ จะผู้ก่อเหตุแล้วผู้ก่อเหตุก็ได้ยิงเข้ามาในกลุ่ม เพิ่งตรวจไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือใครและก็เหตุเพราะอะไร แล้วตอนเกิดเหตุก็ได้วิ่งหนีตกใจกันไปคนละทิศละทาง ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่ามีเพื่อนตัวเองเสียชีวิต 1 คน แต่ได้มีพูดบาดเจ็บ 1 คนได้นำส่วนโรงพยาบาลตนจึงไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ และได้มาทราบที่หลังว่ามีเพื่อนถูกยิงเสียชีวิต 1 คน
ส่วนความคืบหน้าทางคดีทาง สน.ลำผักชี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังผู้กำกับทราบว่าผู้กำกับติดประชุม จึงไม่ทราบว่าทางคดีไปถึงไหนแล้ว
ล่าสุด เวลา11.10 น. น.ส. ศิรเวท ไม่ลืมญาติ อายุ 53 ป้าของผู้เสียชีวิต ได้นำเอกสารเดินทางมาติดต่อรับศพ ด.ช.ปารเมศ ที่สถาบันนิติเวชรพ.ตำรวจ และให้สัมภาณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลานออกไปนั่งเล่นกับเพื่อน บริเวณสนามเด็กเล่นข้างบ้าน ได้ไม่นานก็เกิดเหตุเวลาประมาณตี 2 ได้ยิงเสียงปืนและหลานวิ่งหนีมาล้มเสียชีวิตอยู่ข้างบ้าน ป้าไม่เคยทราบมาก่อนว่าหลานมีอริหรือไม่ แต่ปกติหลานจะอยู่แต่บ้านไม่ค่อยออกไปไหน ในช่วงนี้หลานไม่ได้เรียนหนังสือเพราะติดเกรด 0 เยอะจึงลาออกมา ตอนนี้อยู่ระหว่างรอเข้าศึกษา กศน. หลานพักอาศัยอยู่กับตนและญาติๆแต่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เนื่องจากพ่อแยกทางกับแม่ ส่วนแม่ของหลานติดคุกอยู่ ทีแรกจะพาหลานไปพบแม่อยู่ในวันนี้แต่มาเกิดเหตุสลดเสียก่อน
วันนี้ตนมาติดต่อรับศพและจะนำร่างของหลานไปฝั่งที่กุโบร์มัสยิดคอยรุดดีนตามพีธีทางศาสนาโดยมีป้าอีกคนเดินเรื่องอยู่ที่มัสยิด
ทั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจมากอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนก่อเหตุให้ได้และอยากรู้ว่าเค้าทำไปทำไม หลานไปทำอะไรให้ถึงต้องทำขนาดนี้ หลานอยู่แต่บ้านไม่ค่อยได้ออกไปไหนหรือไปมีเรื่องกับใคร อยากฝากถึงผู้ก่อเหตุว่าอย่าไปทำอย่างนี้กับใครเลย พ่อแม่ก็เสียใจและก็ต้องถูกจับ และอยากเตือนเด็กๆว่าอย่าออกไปข้างนอกกลางคืนมันอันตรายและอาจจะเกิดเหตุถูกยิงแบบนี้ ชีวิตยังมีค่า