เจ้าของบ้านงง ผีโผล่มาจากไหน 5 ราย ในทะเบียนบ้าน เป็นใครไม่รู้ ไม่เคยรู้จักมาก่อน ร้องสื่อหวั่นถูกสวมสิทธิ์ ฝากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กลัวไม่โปร่งใส

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ratikron Piamcharoen โพสต์ข้อความพร้อมแนบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ในหน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่ง เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 6 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ถึงความไม่ชอบมาพากลในการเลือกตั้งครั้งนี้ เมื่อมีรายชื่อคนอื่นอยู่ในทะเบียนบ้านของตน พร้อมเขียนข้อความระบุว่า

รายชื่อใครเข้ามาอยู่ในบ้านเลขที่ฉัน เกินมาตั้ง5 คน มีเลือกตั้งล่วงหน้าไปก่อนแล้วด้วยหนึ่งคน บ้านฉันมีสิทธิ์เลือกตั้งแค่ 3 คน นี่ใครเข้ามาอยู่ในบ้านเลขที่ฉันไม่ทราบ ตั้ง 5-6 คน โกงกันเห็นๆ ง่ายไปมั้ย

ยังไงๆ ถามผู้ใหญ่บ้านบอกผมก็ไม่รู้ รู้แค่ว่า ปีนี้มันแปลกๆ นี่คือคำตอบ นี่แค่บ้านเดียว ที่ฉันตรวจสอบได้แล้วบ้านอื่นอีกอ่ะ บ้านที่มีแต่คนแก่อยู่ มันจะเอาเข้ากี่คน ปีที่แล้ว บัตรเกินคนเลือกตั้ง ก็เพราะแบบนี้ใช่มั้ยเกินเป็นล้านมีที่ใหน ประเทศกูมี เอาผิดไม่ได้ด้วย กกต ยังลอยนวล

ผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามผู้โพสต์ ได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.รติกร เปี่ยมเจริญ อายุ 43 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ตนเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในหน่วยเลือกตั้งที่ 1 ที่โรงเรียนบ้านลำมะโกรก ในช่วงเช้าวันนี้ (14 พฤษภาคม2566) ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าในขณะที่กำลังตรวจดูรายชื่อผู้ใช้สิทธิ์อยู่นั้น ถึงกับต้องตกใจและงงเป็นอย่างมาก เมื่อรายชื่อผู้ใช้สิทธิ์ในทะเบียนบ้านตน ปกติจะมีตน สามี และลูกชาย มีรายชื่อใช้สิทธิ์แค่ 3 คนเท่านั้น แต่อยู่ดีๆ มีรายชื่อคนอื่นเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านตนได้อย่างไร เพิ่มมาอีก 5 คน และที่สำคัญหนึ่งในนั้น ได้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งนอกเขตไปเป็นที่เรียบร้อย

เพื่อความบริสุทธิ์ใจตนจึงไปสอบถามผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ทุกคนก็งงและไม่ทราบว่ามีรายชื่อเกินเข้ามาได้อย่างไร อีกทั้งยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีอะไรแปลกๆผิดสังเกตเยอะมาก โดยการเลือกตั้งสมัยที่ผ่านมาตนยังใช้สิทธิ์กันตามปกติ มีสมัยนี้มีเกินมา5 คน เป็นคนที่ตนไม่รู้จัก

จึงอยากขอแสดงความบริสุทธิ์ใจ และอยากฝาก เจ้าหน้าที่ ให้ทำด้วยความโปร่งใส เพราะว่าประชาชนรอวันนี้มานาน อยากให้เกิดความโปร่งใส เพราะมันคืออนาคตของประเทศไทย
อย่างไรก็ตามตนและครอบครัวได้ทำหน้าที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งไปตามปกติเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ที่นำเรื่องราวดังกล่าวมาเปิดเผยเพื่ออยากฝากให้เจ้าหน้าที่มีความรับผิดชอบรอบคอบมากกว่านี้ และเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของครอบครัวตนเองด้วย