ชายปวดหัวเรื้อรัง นึกว่าเครียด กินพาราบรรเทาอาการ แต่ไม่ดีขึ้น ก่อนพบผิดปกติ จึงมาหาหมอ โดนส่งตัวผ่าตัดทันที ด้านหมอเตือนถ้ามีอาการเหล่านี้อย่าละเลย
อาการปวดหัวเชื่อว่าหลายคนคงเคยเป็น และหลายครั้งก็กินยาเพื่อบรรเทาอาการ เพราะคิดว่าเกิดจากความเครียดและไม่ได้เป็นอะไรมาก บางคนดีขึ้น แต่บางคนอาการกลับแย่ลง เช่นเดียวกับ ชาย อายุ 60 ปี ปวดหัวเรื้อรัง พอสังเกตอาการร่วมด้วยจนพบว่าผิดปกติจึงรีบมาพบแพทย์ ก่อนทราบสาเหตุและเข้ารับการผ่าตัดทันที
วันที่ 1 ธ.ค. 65 นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า กรณีตัวอย่างปวดหัวเรื้อรังกว่า 1 ปี ตรวจพบเป็นเนื้องอกในสมอง โดยผู้ป่วยเป็นชาย อายุ 60 ปี เศษให้ประวัติ ปวดศีรษะต่อเนื่องมากว่า 1 ปี ระหว่างนั้นกินยาแก้ปวดพาราพอได้บรรเทา คิดว่าตนเองปวดหัวจากภาวะเครียด หรือการทำงานที่เหนื่อยล้า พอนานวันอาการปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องกินยาพาราบ่อยขึ้น ถี่ขึ้น
ต่อมาเริ่มมีตาพร่ามัว และสังเกตตนเอง เวลาปวดหัวมักมีอาการหูอื้อตามมาด้วย ไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แนะนำให้ส่งพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูกที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
แพทย์ได้ตรวจอาการเบื้องต้น สงสัยอาจมีความผิดปกติทางสมอง จึงส่งตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง พบเป็นเนื้องอกในสมอง ขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร จึงส่งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ระบบประสาท ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ แพทย์สั่งให้รับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล ทันที วางแผนผ่าตัด การผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ระดับสูงของแพทย์ รวมถึงทีมงาน ไม่เพียงแต่ทำให้อาการปวดหัว อาการผิดปกติอื่นๆทางสมองหายเป็นปกติ จะต้องไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆตามมา
หากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ ยิ่งอาจมีผลกระทบต่อร่างกายมากเท่านั้น ใช้เวลาผ่าตัดกว่า 2 ชั่วโมง สำเร็จด้วยดี หลังผ่าตัด ไม่มีแขนขาอ่อนแรง ไม่ปวดศีรษะ ตามองเห็นชัดดี อาการหูอื้อลดลง จนหายเกือบเป็นปกติ ปวดหัวเรื้อรัง มีอาการตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน พูดลำบาก พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง อย่าละเลย รีบปรึกษาแพทย์