สุดสลด! สาวถูกย่ำยีมาราธอน เกือบ 20 ปี จนมีลูก 3 คน แฉมีคนแวะเวียนมาล่อลวง ใช้เงิน 20 บาท กาแฟห่อเดียวก็ไป ครอบครัวถูกข่มขู่ จนท.เร่งช่วยเหลือ
วันที่ 26 พ.ค.65 นายจักรพงศ์ เพ็ชรแสน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวฬุวัน, เจ้าหน้าที่ พมจ.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนางเอ (นามสมมติ) อายุ 57 ปี แม่ของ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ผู้ป่วยจิตเวช ในพื้นที่ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อหาทางช่วยเหลือ หลังจากที่ น.ส.บี ถูกข่มขืนมาราธอนมาเกือบ 20 ปี จนมีลูก 3 คน คนโตเป็นชาย เรียนระดับ ปวส. คนที่ 2 เป็นหญิง เรียนชั้น ม.3 และ คนที่ 3 เพิ่งคลอดเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เป็นทารกเพศชาย และถูกส่งให้บ้านแคนทองไปแล้ว แต่ช่วงที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มายังบ้านหลังดังกล่าว พบเพียง น.ส.บี ส่วน นางเอ ไม่อยู่บ้าน โดยมีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และ อสม.อยู่ที่บ้าน
จากการสอบถาม น.ส.บี ซึ่งสามารถสื่อสารและพูดจาชัดถ้อยชัดคำ กล่าวว่า แม่ออกไปหาเห็ดตั้งแต่เช้า จะกลับมาในช่วงเย็น ส่วนตนไม่ได้ออกไปไหน เพราะต้องอยู่เฝ้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำเวลาคนมาหาที่บ้านอย่าไปไหนด้วย ซึ่ง น.ส.บี ก็ยืนยันว่าไม่ไปด้วยแล้ว และบอกทุกคนที่มาว่าที่นี่ไม่ใช่ร้านขายของ ไม่มีอะไรจะขายให้
นางสุทธิรักษ์ เรืองแหล่ อายุ 55 ปี อสม.ประจำหมู่บ้าน ทำหน้าที่ดูแลคนพิการ ซึ่งเป็นคนทำคลอดลูกคนที่ 3 ให้กับ น.ส.บี กล่าวว่า น.ส.บี เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน พ่อกับแม่เลิกรากันไปหลายปีแล้ว เหลือเพียงแม่ที่หารายได้เลี้ยงคนในครอบครัวที่อาศัยอยู่ร่วมกัน 8 คน โดย น.ส.บี เกิดมาปกติทุกอย่าง กระทั่งช่วงโตเป็นสาว ถูกพาไปทำงานที่พัทยาหลายปี เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็มีอาการผิดปกติ เหมือนคนป่วยจิตเวช แม่พาไปรักษาและรับยามากินจนถึงทุก ประมาณ 13 ปีแล้ว
“ช่วงที่กลับมาอยู่บ้านก็ถูกล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง แม่จึงแจ้งไปตำรวจ แต่ผู้ก่อเหตุขอเจรจาและจ่ายเงินให้ เรื่องจึงจบกันไป แต่ น.ส.บี ก็ตั้งครรภ์และคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย ขณะนี้อายุ 17 ปีแล้ว หลังจากนั้นก็ถูกล่อลวงออกไปข่มขืนอนาจารหลายครั้ง จนตั้งครรภ์ และคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง อายุ 15 ปี” นางสุทธิรักษ์ กล่าว
นางสุทธิรักษ์ กล่าวต่อว่า น.ส.บี ป่วยจิตเวช พูดจาสื่อสารได้ปกติ ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่มักจะถูกหลอกจากผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่พัวพันกับยาเสพติด เพราะเจ้าตัวเคยถูกจับคดียาเสพติดมาก่อน พวกคนติดยา จึงมักจะขี่รถจยย.แวะเวียนมาหา บางคนใช้กาแฟหลอกล่อ บางคนให้เงิน 20 บาท ก็หลงเชื่อก็ซ้อนรถจยย.ออกไปด้วย ทำให้ถูกข่มขืน จนตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3
“ช่วงที่ น.ส.บี ปวดท้องคลอดลูก ญาติได้ไปตามให้มาทำคลอดที่บ้าน จึงได้สอบถามว่า ใครทำให้ตั้งท้อง เจ้าตัวบอกว่า ไม่รู้ อาจเป็นเพราะกินกาแฟเยอะนอนอยู่เฉยๆ ก็ท้อง จึงถามอีกว่าจะเลี้ยงลูกเองหรือไม่ เจ้าตัวบอกว่า อยากเลี้ยงเอง แต่ไม่มีรายได้ ขอยกให้ รพ. จึงได้ประสานกับทาง รพ. และประสานบ้านแคนทอง รับลูกไปเลี้ยง ส่วน น.ส.บี แม่ยินยอมให้ทำหมัน จึงประสาน รพ.มารับตัวไป เมื่อร่างกายแข็งแรงก็กลับมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็ยังพบว่า มีผู้ชายแวะเวียนมารับไปข้างนอกเช่นเดิม ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น แม่รู้เรื่องตลอด แต่ไม่กล้าแจ้งความ เพราะถูกข่มขู่ฆ่า” นางสุทธิรักษ์ กล่าว
ขณะที่ นายเสรี สุวลักษณ์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่มีบ้านตรงข้าม กล่าวว่า ทราบปัญหามาโดยตลอด แต่ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ เพราะเจ้าตัวก็บรรลุนิติภาวะแล้ว บางครั้งก็เห็นมีชายหนุ่มมารับ บางครั้งก็เดินออกจากบ้านไปเอง ซึ่งไม่รู้ว่าการออกนอกบ้านไปนั้นจะถูกข่มขืนหรือไม่ กระทั่งตั้งครรภ์ 3 ครั้ง โดยครรภ์แรกทราบว่าแม่ไปแจ้งความจับคนที่ลงมือข่มขืน แต่เมื่อคนก่อเหตุจ่ายเงินก็จบกันไป ส่วนครรภ์ที่สองและที่สาม ไม่ทราบว่าใครคือพ่อของเด็ก
ด้าน นายจักรพงศ์ เพ็ชรแสน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ กล่าวว่า เนื่องจากมีชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือ ให้ไปช่วยเหลือ น.ส.บี เพราะถูกชายหนุ่มในหมู่บ้านและต่างหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่พัวพันกับยาเสพติด ล่อลวงด้วยเงิน 20 บาท 50 บาท หรือกาแฟ 1 ซอง พาออกจากบ้านไปข่มขืน จนตั้งครรภ์มีลูก 3 คน แต่แม่ไม่ยอมแจ้งความ หลังทราบเรื่องจึงให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนของเทศบาลบ้านค้อ ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง จนทราบว่า เป็นเรื่องจริง และในขณะที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่นั้น ยังถูกชายที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ของเทศบาลด้วย
เทศบาล ไม่มีอำนาจหน้าที่ ที่จะจับกุม หรือดำเนินการเกินกว่าหน้าที่ที่รับผิดชอบ จึงประสานไปยัง พมจ.ขอนแก่น ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เพื่อหาทางช่วยเหลือ รวมทั้งประสานไปยัง สภ.เวฬุวัน ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาพูดคุยกับแม่และครอบครัวด้วย แต่จากการพถูดคุยกับ น.ส.บี ซึ่งสื่อสารได้ชัดเจน พูดคุยรู้เรื่อง แต่แม่ไม่อยู่ จึงยังไม่ได้ข้อสรุป ทำได้เพียงเก็บข้อมูล และหารือกันในทางการช่วยเหลือ ซึ่งอาจจะหาอาชีพมาให้แม่และ น.ส.บี ทำที่บ้าน แม่จะได้ไม่ต้องออกไปรับจ้างนอกบ้าน ส่วนในทางคดีนั้น ตำรวจ สภ.เวฬุวัน ก็จะพูดคุยกับแม่ว่าจะแจ้งความหรือไม่