สึกแล้ว! หลวงพี่ตามหาสาว ชี้อาบัติปาราชิก สั่งสอบซ้ำแอบเปย์เงินวัดให้สาว

Home » สึกแล้ว! หลวงพี่ตามหาสาว ชี้อาบัติปาราชิก สั่งสอบซ้ำแอบเปย์เงินวัดให้สาว


สึกแล้ว! หลวงพี่ตามหาสาว ชี้อาบัติปาราชิก สั่งสอบซ้ำแอบเปย์เงินวัดให้สาว

สึกแล้ว! หลวงพี่ตามหาสาว ชี้อาบัติปาราชิก ขาดจากพระตั้งแต่ยักยอกเงินกฐินวัดแล้ว สั่งสอบซ้ำแอบเปย์เงินวัดให้สาวด้วย

จากกรณีเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน .เชียงใหม่ เดินทางมาตามหาสาวที่ต.เขาพระ อ.เดิบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ทราบชื่อภายหลังว่า พระพงษ์ อายุ 33 ปี บวชมาแล้ว 7 พรรษา และเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจ.เชียงใหม่ โดยยอมรับสารภาพตกหลุมรักหญิงสาวคนดังกล่าวผ่านโลกโซเซียล ต่อมาหลังออกพรรษาจึงแอบนำเงินกฐินของวัดโอนเข้าบัญชีของวัดที่ใช้ตัวเองในการเบิกถอนได้ จนต่อมาผู้สื่อข่าวทราบว่าพระรูปดังกล่าวเดินทางมาขอสึกจากความเป็นพระที่วัดท้องคุ้ง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อช่วงสายวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดท้องคุ้ง ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามเรื่องราวกับพระอธิการบุรินทร์พศ ฐานวโร เจ้าอาวัดวัดท้องคุ้ง พร้อมนายคนึงกิจ พรหมนุชานนท์ ผอ.สำนักงานพุทธศาสนา จ.นนทบุรี เกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด

พระอธิการบุรินทร์พศ ฐานวโร เจ้าอาวาสวัดท้องคุ้ง กล่าวว่า อดีตพระรูปดังกล่าวเคยเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ 3 ครั้ง รวมถึงเมื่อคืนที่ผ่านมาด้วย อดีตพระรูปนี้ติดต่อมาว่าจะมาขอจำวัด 1 คืน เพื่อเดินทางไปธุระต่อ จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณตี 1 อดีตพระรูปดังกล่าวเดินทางมาถึงวัด ซึ่งในตอนนั้นอาตมาทราบเรื่องราวจากข่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว จึงสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งอดีตพระรูปนี้รับในตอนแรกว่า ยักยอกเงินกฐินของวัดมา 2 หมื่นบาท ส่วนอีก 8 หมื่นบาท คณะกรรมการวัดเป็นคนเอาไป อาตมาจึงบอกกับอดีตพระรูปนี้ไปว่าท่านได้ขาดจากความเป็นพระสงฆ์ไปแล้ว ท่านไม่สามารถนั่งเสมอหรือจะมานั่งฉันอาหารร่วมวงกับพระในวัดแห่งนี้ได้อีก เพราะความผิดเป็นความผิดขั้นอาบัติปาราชิก จะยักยอกหรือจะแอบเอาเงินของวัดมาเป็นของตน จะมากจะน้อยถือเป็นความผิดในขั้นอาบัติปาราชิกแล้ว

พระอธิการบุรินทร์พศ กล่าวว่า ต่อมาอดีตพระรูปนี้ยอมรับความจริงทั้งหมดว่ายักยอกนำเงินวัดมาทั้งหมด 1 แสนบาท เพื่อมาตามหาหญิงสาวคนหนึ่งที่เจอกันในโลกโซเซียล จนกระทั่งหลงผิดตัดสินใจทำในเรื่องผิดพลาดไป เพราะอายุกับพรรษายังน้อย ประกอบกับไม่เคร่งครัดในศีล ที่ผู้บวชเป็นต้องถือปฎิบัติ จึงทำให้ไม่มีเกราะป้องกันตัว ถูกหญิงสาวที่ไม่รู้จักตัวตนหลอกให้โอนเงินให้และหลอกให้ลงมาตามหา เรื่องราวนี้ปรบมือข้างเดียวคงไม่ดัง

พระอธิการบุรินทร์พศ กล่าวอีกว่า หลังอดีตพระรูปดังกล่าวรับสารภาพแล้ว อาตมาได้ให้กลับไปสึกยังวัดต้นสังกัดที่เชียงใหม่ แต่ต่อมาช่วงก่อนเพล อดีตพระรูปนี้เข้ามากราบขอขมาและขอลาสึกจากความเป็นพระกับอาตมา ซึ่งอาตมาแจ้งบอกไปแล้วว่า ท่านได้ขาดจากความเป็นพระไปตั้งแต่กระทำผิดยักยอกเงินวัดแล้ว และยังมาโกหกเรื่องจำนวนเงินที่เอาไปกับอาตมาอีก ถือว่าผิดซ้ำผิดซ้อน อดีตพระรูปนี้จึงขอให้อาตมาช่วยดึงผ้าไตรจีวรออกให้ เพื่อที่เขาจะกลับไปแต่งกายแบบฆราวาส เพื่อขอเดินทางต่อไป พร้อมขอสละผ้าจีวรไว้ เหลือเพียงย่ามติดตัวออกจากวัดไปใบเดียว อาตมาจึงให้คนขับรถไปส่งที่ท่ารถหมอชิต เพื่อให้เดินทางต่อไป เรื่องราวในทางสงฆ์ จึงเป็นอันยุติ ส่วนเรื่องราวในทางโลกก็ว่ากันไปตามตัวบทกฎหมาย

ด้านนายคนึงกิจ กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นผู้ถูกกล่าวหายอมรับกับพระอาจารย์ว่าได้ทำอาบัติปาราชิกจริง และได้มาขอโอวาทจากพระอาจารย์ แต่เมื่ออาบัติปาราชิกแล้วถือว่าท่านหมดสิ้นความเป็นพระภิกษุสงฆ์ โดยไม่ต้องสึก คือถือว่าขาดจากความเป็นพระตั้งแต่เวลาที่อาบัติปาราชิก แม้ผู้กระทำผิดเป็นถึงพระสังฆาธิการ มีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดก็ตาม แต่คณะสงฆ์ผู้ปกครองต้องไปดำเนินการไต่สวนติดตามทรัพย์สินต่างๆ ที่เป็นของทางวัดกลับคืน โดยการเรียกไวยาวัจกรมาดำเนินการส่งมอบทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าคณะผู้ปกครองจะเป็นผู้ดำเนินการอยู่แล้ว ถ้าพบว่าทรัพย์สินทางวัดเสียหายต้องดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากในส่วนของเจ้าอาวาสมีอำนาจหน้าที่ในส่วนเจ้าพนักงานที่จะดำเนินการแทนวัด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ