สาวแบงก์ไปหาหมอ หลังรู้สึกว่ามองเห็นไม่ชัดและปวดหัว หมอชี้เพราะชอบสระผมตอนดึก เตือนอย่าอาบน้ำหลังเวลานี้ ถ้าไม่อยากอายุสั้น

เว็บไซต์ docnhanh รายงานว่า คุณหมออานห์ ทู หัวหน้าแผนกตรวจสุขภาพโรงพยาบาลจักษุฮานอย 2 กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีผู้ป่วยหญิงอายุ 40 ปี ในกรุงฮานอย ซึ่งเป็นพนักงานธนาคาร มาตรวจเพราะมองเห็นไม่ชัด

คนไข้ เล่าว่า เนื่องจากลักษณะงานของเธอ เธอมักจะกลับบ้านดึก เธอจึงมีนิสัยชอบอาบน้ำและสระผมตอนดึก บางครั้งอาจเป็นเวลา 23.00 น. ล่าสุด เธอมักมีอาการปวดหัวและมองเห็นไม่ชัด เธอจึงตัดสินใจมาพบแพทย์ และตรวจพบว่าเป็นไมเกรนเฉียบพลัน

คุณหมอ ชี้ว่า การสระผมตอนดึกอย่างต่อเนื่องประมาณ 20 นาที ประกอบกับความวิตกกังวลและความเครียดเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุที่ทำให้พนักงานธนาคารหญิงรายนี้มีอาการวิงเวียนศีรษะเฉียบพลัน

พร้อมอธิบายว่าช่วงดึก ๆ ความดันลูกตาจะสูงกว่าปกติ ดังนั้นการก้มตัวนาน ๆ จะทำให้ความดันลูกตาด้านหน้าเพิ่มขึ้น เสี่ยงต่อการเป็นไมเกรนเฉียบพลัน

“โรคนี้พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะส่งผลต่อการมองเห็น แม้กระทั่งการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร” ดร.อานห์ ทู เตือน

การอาบน้ำตอนดึกไม่เพียงเพิ่มความเสี่ยงต่อไมเกรน แต่ยังส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ นพ.ตง วัน ทัม อดีตหัวหน้าภาควิชาอัมพฤกษ์อัมพาต โรงพยาบาลฝังเข็มกลาง กล่าวว่า การอาบน้ำตอนดึกเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมากโดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติความดันโลหิต ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และเด็ก

แม้แต่คนที่มีสุขภาพดีก็อาจได้รับผลกระทบจากนิสัยนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงกะทันหัน คนที่อาบน้ำตอนกลางคืนก็เสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีประวัติโรคประจำตัว และอาจถึงขั้นเสียชีวิตกะทันหันได้

ส่วนการสระผมช้า ๆ คุณหมอเตือนว่าพฤติกรรมนี้อาจทำให้คนไข้เป็นหวัดได้ง่าย ส่งผลต่อหลอดเลือดหมุนเวียนไม่ดี ส่งผลเสียต่อสุขภาพ การสระผมช้า ๆ และการเป่าผมไม่แห้งสนิทอาจส่งผลเสียร้ายแรงได้ง่าย เช่น อัมพาตของเส้นประสาทที่ 7 ปวดศีรษะ และนอนหลับไม่ดี

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรอาบน้ำก่อน 20.00 น. ดีที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการนอน ควรอาบน้ำอุ่น แม้ในฤดูร้อน ก็ควรเช็ดร่างกายและเส้นผมให้แห้งทันทีหลังอาบน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้หนังศีรษะเย็น

เวลาอาบน้ำไม่ควรราดน้ำตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยตรง ควรอาบน้ำแต่ละส่วนก่อนแล้วค่อยสระผม วิธีนี้ร่างกายจะค่อย ๆ ชินกับน้ำโดยไม่ส่งผลต่อระบบประสาทหรือหลอดเลือดในสมอง