เรียกได้ว่าเป็นกระแสในโลก ทวิตเตอร์ (X) ตั้งแต่เช้า หลังจากที่มีกระแส #อมรัตน์คุกคามประชาชน โดยต้นตอในเรื่องนี้ นั้นเกิดจากการคุกคามทางโซเชียลและการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจนนำไปสู่การตามหาตัวของเจ้าของโพสต์ โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 66 เวลาประมาณ 17.00 น. เฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล นั้นได้ออกมาโพสต์ข้อความข้อมูลของบุคคลหนึ่งในเฟซบุ๊ก ที่ได้ทำการโพสต์ถึงความหมายของคำว่า อมรัตน์ ซึ่งทาง เจี๊ยบ อมรัตน์ นั้นก็ได้แนบภาพประกอบที่ตนโดนหมิ่นประมาทและระบุข้อความว่า
ผู้โพสต์ชื่อเล่น “แขก” อายุ 54 เกิด 1 ม.ค.2512 มารดา ชื่อ เลื่อน ที่อยู่ ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นเลขที่ 88/5xx หมู่บ้าน ส.ว.ร. อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร รถสีขาว รั้วบ้านทาวน์ เฮ้าส์สีเขียว
แม่ลูก 2 เป็นลูกจ้างบริษัท ท.ท.การทอ เบอร์โทรที่ทำงาน 02 431 0xxx ดิฉันยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมชื่อ-นามสกุลจริง ภาพถ่าย และอื่น ๆ กับผู้ได้รับผลกระทบจาก toxic และหมิ่น ประมาทจากบุคคลนี้
หลังจากนั้น เจี๊ยบ อมรัตน์ ก็ได้มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อความ อาทิ
- เจ้าของ fb twitter นิวเยียร์ยินยอมจะเซ็นต์รับทราบหนังสือตักเตือนจากนายจ้างทัณฑ์บน 1 ปี
- ไปเยี่ยมนิวเยียร์ที่โรงงานมา ไม่เจอตัวเพราะออกไปหาลูกค้าข้างนอก มีโอกาสพบพูดคุยกับกรรมการบริหารท่านหนึ่ง กับผจก.ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ขอขอบคุณทั้งสองท่านอย่างสูงที่ใส่ใจและรับปากว่าหลังบริษัทออกหนังสือเตือนให้เซ็นต์รับทราบแล้ว จะช่วยดูแลสอดส่องพฤติกรรมด้วย
- จากโรงงานก็แวะไปเยี่ยมบ้าน
- คือพนักงานบริษัททอผ้าส่งออก
ซึ่งนอกจากการโพสต์แล้ว เจี๊ยบ อมรัตน์ ก็ได้มีการแลกบัตรเพื่อเข้าไปที่สถานที่ทำงานของเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งในมุมนี้มีผู้ที่เห็นต่างและได้วิพากษ์วิจารณ์จนก่อให้เกิด #อมรัตน์คุกคามประชาชน ต่อมาทางด้านคู่กรณีเอง ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความร้องเรียนการกระทำของ เจี๊ยบ อมรัตน์ โดยเธอนั้นแท็กเฟซบุ๊กไปยัง ประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ พร้อมทั้ง ชัยธวัช ตุลาธน และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อีกด้วย โดยเธอนั้นระบุข้อความประมาณว่า
คู่กรณีโพสต์ขอความเป็นธรรม
เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 เวลาเช้า ดิฉันได้ทราบข่าวจากเพื่อนเฟซบุ๊กว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่1 (นายปดิภัทธ์ สันติภาดา) ได้โพสต์ และ ทวีตข้อมูลส่วนตัวของดิฉัน อาทิ ชื่อเล่น อายุ วันเดือนปีเกิด บ้านเลขที่ ที่อยู่ หมู่บ้าน รูปพรรณสัณฐานที่พักอาศัยของดิฉัน เช่นสีประตูรั้วบ้าน สีรถยนต์ที่ดิฉันใช้ รวมถึงระบุชื่อมารดาของดิฉัน จำนวนบุตรของดิฉัน และยังได้ระบุสถานที่ทำงานของดิฉันพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานโดยละเอียด อีกทั้งยังแจ้งว่าหากใครต้องการทราบชื่อ นามสกุลจริง และ รูปของดิฉันให้ติดต่อสอบถามได้จากนางอมรัตน์นางยินดีมอบให้
ซึ่งภายหลังจากนางอมรัตน์ได้โพสต์และทวีตไปไม่นาน ได้มีสื่อ “ข่าวสด” นำข้อมูลของดิฉันไปเผยแพร่ต่อ และ Top News รายงานข่าว จากนั้นได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์จำนวนมาก แสดงความคิดเห็นเชิงข่มขู่คุกคามด้วยถ้อยคำหยาบคาย สร้างความเกลียดชังต่อดิฉัน บางส่วนชักชวนกันมาทำร้ายดิฉัน
ในเวลาบ่ายโมง ดิฉันได้รับทราบจากผู้จัดการบริษัทที่ดิฉันทำงานอยู่ว่า นางอมรัตน์ ได้โทรศัพท์เข้ามาหาเธอ และส่งข้อมูลมาให้เธอทางไลน์ กล่าวหาว่าดิฉันโพสต์หมิ่นนาง อ้างว่าคนอ่านรู้ว่าดิฉันหมายถึงนาง โดยนางอมรัตน์ได้ขอให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลตักเตือนหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อดิฉันต่อไป
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและผู้บริหารท่านหนึ่งของบริษัท ได้สอบถามดิฉัน ซึ่งดิฉันยอมรับว่าโพสต์วิจารณ์การเมือง, นักการเมือง และ พรรคก้าวไกลจริง โดยใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ระบุชื่อ สกุลจริงของใคร ไม่มีคำไหนสร้างความเสียหาย และ ไม่ได้คิดร้ายหมายขวัญใครถึงชีวิต ใช้สิทธิเสรีภาพตามกรอบกฎหมายทุกประการ ซึ่งหากนางอมรัตน์รู้สึกว่าดิฉันทำความเสียหายให้นาง นางก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ทั้งนี้ดิฉันไม่ได้กระทำในนามบริษัท และ ไม่ได้โพสต์ในเวลางาน เวลาที่โพสต์นอกเวลางาน เช่น ก่อนเริ่มงาน พักเที่ยง หลังเลิกงาน วันหยุด หรือ วันที่ดิฉันใช้สิทธิลางานทั้งสิ้น ซึ่งดิฉันได้แจ้งต่อผู้บริหารว่า นางอมรัตน์เริ่มโพสต์เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวดิฉันก่อนหน้านี้แล้ว 1 ครั้งเมื่อกลางเดือนสิงหาคม โดยดิฉันไม่ได้ตอบโต้อะไรนางรุนแรงเกินไปกว่าการโพสต์อธิบายข้อเท็จจริงหักล้างข้อความเท็จที่นางกล่าวหาดิฉัน
ซึ่งล่าสุด เจี๊ยบ อมรัตน์ ก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจ้งแล้ว โดยระบุข้อความว่า
เช้านี้ถึงแม้จะตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น แต่ดิฉันมีความรู้สึกผิดติดค้างคิดว่าสมควรต้องออกมาขออภัยอย่างจริงใจต่อ toxic ในสังคมออนไลน์ที่ตัวเองมีส่วนสร้างขึ้นเมื่อวานนี้ ดิฉันยืนยันว่าได้ใช้วิจารณญาณและสัญชาติญาณในฐานะมนุษย์ ใช้พื้นฐานประสบการณ์และข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินว่าสิ่งไหนคือ “ภัยสังคม”
ภัยสังคมย่อมหมายถึงตัวเองไม่ได้เป็นผู้รับผลกระทบแต่เพียงลำพัง แต่เป็นภัยที่ชาวโลกออนไลน์ประสบร่วมกันการกระทำตามวิจารณญาณส่วนตัวนั้นจะผิดถูกดีเลวอย่างไร ดิฉันยินดีรับผิดชอบทั้งทางสังคมและทางกม.ทุกประการ
ดิฉันก็จะพิทักษ์สิทธิ์ตัวเองตาม กม.ต่อไปเช่นเดียวกันจากนี้ต้อง move on เพื่อไม่เพิ่ม toxic ให้สังคมออนไลน์อีกต่อไปที่เกิดไปแล้วต้องขออภัยซ้ำอีกครั้งอย่างไรก็ดี ในทางส่วนตัวดิฉันรู้สึกเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า ทุกการตัดสินใจมีต้นทุนมีราคาที่ต้องจ่ายอยู่แล้วอันนี้ทราบดีอยู่อนึ่ง ขอยืนยันว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3 นั้นเป็นไปอย่างสุภาพมีเหตุผล ไม่มีสิ่งใดเลยที่ใกล้เคียงกับคำว่าข่มขู่คุกคามตามที่พยายามมี “กระแสปั่น” ดิฉันเป็นไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ไม่มีศักยภาพข่มขู่บังคับใครแน่นอนหากบุคคลที่ 3 ที่เกี่ยวข้องมิได้เห็นพ้องด้วย
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY