“ศิริกัญญา” ฉะ “ประยุทธ์”​ จัดงบ 66 สรุปรวบยอด 4 ปีแห่งความสิ้นหวังของงบแผ่นดิน แฉ กลุ่มไลน์ รมช.สธ. ใส่ร้าย “พิธา” ปมตัดบำเหน็จบำนาญ ขรก.

เวลา 20.43 น. วันที่ 2 มิ.ย. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประชุมปีงบประมาณปี 2566 ว่า ปีนี้เป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อของเศรษฐกิจ ฉะนั้น งบ 2566 จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญว่าจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ และปีนี้จะเป็นงบปีสุดท้ายของรัฐบาลนี้ แต่จะแชร์กันระหว่างชุดปัจจุบัน และรัฐบาลชุดหน้า ส.ส.ฝ่ายค้าน และส.ส.รัฐบาล ต่างท้วงติงหลายเรื่อง แต่รัฐมนตรีชี้แจงทำให้น่าผิดหวัง

พอบอกว่าของแพง ปุ๋ยแพง และเงินเฟ้อ รัฐมนตรีบอกว่าเป็นเพราะสงคราม และโควิด-19 ที่เป็นกันทั่วโลก พอราคายางพารา ราคาข้าวโพด และราคาปาล์มเพิ่ม กลับบอกว่าเป็นผลงานของตัวเอง ทั้งที่ราคาก็ขึ้นทั่วโลกเหมือนกัน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า งบ 3.185 ล้านล้านบาท มีงบที่ตัดไม่ได้มากกว่างบที่จะเพิ่มได้ งบที่ตัดไม่ได้คือ รายจ่ายบุคลากร เงินเดือนข้าราชการ บำเหน็จ บำนาญถึง 40% รวมทั้งเงินที่ต้องไปใช้หนี้ และเงินอุดหนุนอปท. ที่เป็นไปตามพ.ร.บ.กระจายอำนาจ เมื่องบที่ตัดไม่ได้เยอะเกินไป จึงต้องเพิ่มงบประมาณให้สูงขึ้น และต้องจัดเก็บภาษีให้มากขึ้น

ขอย้ำว่าเราไม่บอกว่าจะปรับลดบำเหน็จบำนาญ เหมือนที่มีข่าวปลอมออกมา และตนอยากฝากไปยังรมช.สาธารณสุข เพราะในกลุ่มไลน์ของที่ปรึกษาของรัฐมนตรีฯ ส่งข้อความว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่าจะตัดบำเหน็จบำนาญเพราะเป็นตัวปัญหาพัฒนาประเทศ ทั้งที่ไม่เคยบอกอะไรแบบนี้ จึงขอให้ยุติการส่งข่าวปลอมนี้

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า งบที่เหลืออยู่ 9.3 แสนล้านบาท ที่ต้องแบ่งให้กับ 400 หน่วยงาน เราเห็นเบี้ยหัวแตกเต็มไปหมด ที่ไม่ให้ความสำคัญกับหน่วยงานที่จำเป็น และยังเห็นมือใครยาวสาวได้สาวเอา ที่งบกระจุกในบางพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สารภาพเองว่าถ้า ส.ส. มาขอก็จะให้ ไม่มีเลือกที่รักมักที่ชังด้วย สรุปใครเข้าถึงตัวนายกฯ ได้ ก็ได้งบไปหรือ คำแถลงมอบนโยบายของนายกฯ ในแต่ละปี แทบไม่แตกต่างกัน และก็ไม่รู้ว่าข้าราชการจะน้อมนำคำของพล.อ.ประยุทธ์ ไปใช้หรือไม่

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ส่วนแผนการกระจายอำนาจ และการถ่ายโอนภารกิจควรเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ตอนนี้ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคกลับอยากไปแย่งอปท.ทำเหลือเกิน ทั้งการขุดแหล่งน้ำขนาดเล็ก ส่วนแผนนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้างบ 2.7 แสนล้านบาท ซึ่งมีโครงการที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้าหลายโครงการ และเมื่อเข้าไปเจาะดูรายละเอียดพบว่าพุ่งคนละเป้า ปี 2566 ยังมีเรื่องการน้อมนำแนวทางพระราชดำริ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ยังพบปัญหาเดิม

เช่น โครงการเมล็ดพันธุ์ มี 51 หน่วยงานร่วมทำ จึงไม่รู้ว่าทำเพื่อตอบโจทย์อะไรกันแน่ ปกติร่าง พ.ร.บ.งบ แต่ละฉบับคือการแถลงนโยบาย และให้คำมั่นกับประชาชนว่าจะใช้เงินอย่างไร และงบปี 2566 นี้ ก็เป็นการสรุปรวบยอด 4 ปีแห่งความสิ้นหวังของงบประมาณแผ่นดิน ของพล.อ.ประยุทธ์