กลับมาพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech อีกครั้ง รอบนี้เรามาพูดถึง ไอเท็มสำหรับคนเล่นเกมกันหน่อยกับ MicroSD Card เพราะเครื่องเล่มเดี๋ยวนี้ต้องใช้กันสำหรับรอบนี้เราจะรีวิว 2 รุ่นคือ MicroSD สำหรับ Nintendo Switch และพระเอกอย่าง SanDisk GamePlay

รูปลักษณ์ดีไซน์

ทั้งคู่เป็นการ์ด MicroSD เหมือนกัน แต่ว่าการตกแต่งจะต่างกัน โดยการ์ด SanDisk MicroSD For Nintendo Switch ทั้ง 4 ความจุจะมีลวดลายไม่เหมือนกัน แบ่งออกเป็น

• 64GB เป็นลายไขโยชิ
• 128GB เป็นรูปของ โท้ต
• 256GB เป็นรูปของ ดาว
• 512GB / 1TB จะเป็นลายเกมอื่น

แต่ว่าการ์ดรุ่น SanDisk GamePlay MicroSD Card จะเป็นอีกลวดลายหนึ่งที่ดูเรียบง่ายแต่บอกคุณสมบัติที่เยอะกว่านั่นเอง

คุณสมบัติเด่น จากที่ลองใช้

ถ้าเทียบกันแล้วกับการ์ดทั้ง 2 รุ่นนอกจากรูปลักษณ์ดีไซน์ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ เช่น

• ความเร็ว
  • SanDisk MicroSD For Nintendo Switch จะมีความเร็วอ่านที่ 100 MB/s และเขียนที่ 90 MB/s ซึ่งเหมาะกับเครื่อง Nintendo Switch เพราะไม่จำเป็นต้องเขียนเร็วนัก
  • SanDisk GamePlay MicroSD Card จะได้ความเร็วอ่าน 190 MB/s และเขียน 130MB/s และยังเป็นการ์ดแอบบ A2 U3 จะรองรับการเขียนกราฟิกสูงในระดับ 4K ดังนั้นคุณสามารถนำการ์ดตัวนี้ไปใส่กับเครื่องเล่นเกมที่มีประสิทธิภาพสูง หรือมือถือบางรุ่นที่ยังต้อการ์การ์ดความจำ
• การรองรับเกม
  • เฉพาะ SanDisk GamePlay MicroSD Card รองรับกราฟิกเกม AAA/3D/VR ประสิทธิภาพสูงเพื่อช่วยให้คุณเล่นเกมได้โดยไม่สะดุด และสามารถใช้กับเกมที่มีการประมวลผล 4K ได้

แต่การ์ดทั้งคู่ยังรองรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย แต่ถ้าจะต้องการใช้จบในตัวเดียวผมว่า SanDisk Game Play MicroSD จะเหมาะสมกว่าด้วยความเร็ว แต่สำหรับคนที่ชอบสะสมการ์ด SanDisk MicroSD For Nintendo Switch จะมีลวดลายให้เลือกน่าสะสมกว่า

สรุปหลังจากทดลองใช้งานการ์ดทั้ง 2 รุ่น

หลังจากที่ลองแล้วพบว่า 2 การ์ดนี้จะมีรูปแบบที่ต่างกัน สายใช้งาน หรือต้องการกับเครื่องเล่นเกมความเร็วสูง SanDisk GamePlay MicroSD Card จะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าใครชอบความน่ารักไม่ต้องเอาเร็วมาก และใช้เครื่องเล่นเกม Nintendo Switch ก็จะเหมาะอีกการ์ด ทั้งนี้ราคาก็ต่างกัน โดยมีให้เลือกคือ

เหตุที่ราคาของ Nintendo Switch สูงกว่าคาดว่าเป็นเพราะลิขสิทธิ์ครับ แต่ถ้าใจรักผมว่าไม่น่าพลาดครับ ทั้งนี้การ์ดทั้งหมดเริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป