นางเอกดัง มารี เบรินเนอร์ เมิน! โดนโยงข่าวเม้าธ์ดาราเรื่องเยอะ ปล่อยวางดราม่า ลั่นเสียเวลาชีวิต-ไม่มีหน้าที่มานั่งเอาใจคนที่ไม่รู้จัก
วันที่ 19 พ.ค. นักแสดงสาว มารี เบรินเนอร์ ร่วมงานแถลงข่าวกิจกรรม “โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2022” พร้อมพูดคุยในฐานะนักแข่ง ที่ Toyota Live Alive ถนนบางนา-ตราด โดยก่อนเริ่มงานนักแสดงสาวได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้มีชื่อติดโผ เป็นนางเอกหน้างอเรื่องมาก พร้อมทั้งอัพเดตเรื่องงานและความรักกับอดีตนักร้องหนุ่ม พิชญ์ กาไชย
ถามถึงงานแสดงตอนนี้มีอะไรบ้าง? “ละครตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มถ่ายเรื่องใหม่ค่ะ ก็มีคุยกับผู้ใหญ่บ้าง แต่ว่าปกติจะรับทีละเรื่องอยู่แล้ว ว่าถ้าจบโปรเจ็กต์นี้แล้วจะวางแผนยังไงต่อค่ะ (มองบทบาทไหนที่อยากเล่นบ้างไหม?) ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรในใจเป็นพิเศษค่ะ ก็คือแล้วแต่ว่ามีโอกาสที่เข้ามาว่าเป็นอะไรบ้างก็ค่อยดูว่ามีอันไหนที่รู้สึกว่ามันน่าดึงดูด มันน่าลอง น่าท้าทายดี”
มองอนาคตเส้นทางในวงการบันเทิงไว้ขนาดไหน? “ไม่ได้คาดหวังแล้วก็ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นยังไงคือโอเพ่นมากๆ เป็นคนที่เราทำงานทีละงาน เราไม่ได้หวังเส้นทางไว้ว่าเราจะต้องฝันไกลไปถึงฮอลลีวู้ด เราจะต้องได้รับรางวัล คือถ้างานชิ้นไหนที่เข้ามาแล้วเราทำแล้วมีความสุขเราก็รับแล้วก็ทำให้ดีที่สุดแค่นั้น ก็จบไปเป็นงานๆ”
ถ้าเป็นนักแสดงแล้วมาแข่งรถด้วยมันมีข้อแม้หรืออะไรยังไงไหม เพราะอาจจะมองว่ามันอันตราย? “ไม่อันตราย คือจริงๆมันก็มีเซฟตี้ของมันอยู่แล้วส่วนตัวก็เป็นคนลุยๆ อยู่แล้วก็ทำอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตประจำวันที่คือมันก็เกิดอุบัติเหตุได้เสมอ มันคือวิธีที่เราเลือกใช้ชีวิตมากกว่า”
อะไรที่ทำให้เราอยากมาเสี่ยงอยากมาลองตรงนี้? “ชอบความเร็วมันสนุก แล้วพอเราได้ลงสนามลองได้ซ้อม ได้เทสต์รถมันเป็นอะไรที่ใช้สมาธิมากแล้วมันก็ใช้ความตั้งใจ แล้วมันดันเป็นอะไรที่เรามีโอกาสได้ทำแล้วมันว้าว แล้วเราชอบด้วยเราก็เลยอยากทำก็เลยเหมือนอยากที่จะทำในทุกๆ วัน (ตอนนี้ความเร็วถือว่าเป็นหนึ่งในแพสชั่นของเรา?) หนึ่งในแพสชั่นค่ะ”
พิชญ์มีไปเชียร์ที่สนามบ้างไหม? “อ๋อ ไม่ค่ะ (เราเคยชวนเขาบ้างไหม?) ไม่ค่ะ คือเราทำงาน เรามีคนไปดูแลเรา (เขาชอบไหมที่เรามาแข่งรถมาอยู่กับความเร็ว?) เขาไม่ค่อยยุ่งค่ะ เขาแล้วแต่เราเลย ก็ชีวิตเรา เราอยากที่จะทำกิจกรรมอะไรก็เขาก็โอเพ่น (เขาเคยเกริ่นไหมว่าแบบมันเสี่ยงนะ?) ไม่ค่ะ มันไม่ได้เสี่ยงในความเป็นจริงมันค่อนข้างไม่ได้อันตรายอะไรขนาดนั้น คือถ้ามันน่ากลัวมากขนาดนั้นนะเราเองก็คงไม่กล้า”
ถามถึงข่าวนางเอกเรื่องเยอะในกองก็มีคนโยงมาเป็นชื่อเราด้วย? “คอมเมนต์ก็น่าจะติดชื่อประมาณ 80 คนในวงการได้ ไม่รู้จะตอบว่าอะไรเหมือนกัน (รู้สึกยังไงที่มีชื่อเราติดอยู่ในนั้นด้วย?) เรื่องข่าวเราก็โดนมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วเนอะ ก็เป็นเรื่องปกติ ใครไม่เจอเราจริงก็ไม่ต้องพูด”
ชินกับดราม่าแล้ว? “ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นไม่กระทบอะไรทั้งนั้น (เราอ่านข่าวบ้างไหม?) ไม่ได้อ่านเลยค่ะ เสียเวลาเรา เราเอาเวลาไปทำอะไรที่มีผลต่อชีวิตเราดีกว่า (มีวิธีตั้งรับยังไงบ้าง?) ก็ไม่รับรู้และไม่ต้องตั้งรับอะไรด้วย เราก็ทำงานของเรานี่คืออาชีพของเรา เราทำละคร เราทำ YouTube เรามาแข่งรถ เราทำหน้าที่ของเราจบก็คือจบหน้าที่เราแล้ว เราไม่ได้มีหน้าที่มานั่งเอาใจใครที่เราไม่ได้รู้จัก”
เหมือนเราแข็งแรงขึ้นไหม? “ก็ไม่เคยอ่อนแอนะ แต่ก่อนอาจจะสะกิดใจแล้วโมโหบ้าง อารมณ์เสียบ้าง ทำให้เราหงุดหงิดบ้างก็เคยมีช่วงเด็กๆ แต่ว่าทุกวันนี้รู้สึกว่าคนเราไม่สามารถไปควบคุมการกระทำของคนอื่นได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนพิมพ์ที่อยากจะควบคุมการกระทำของดารา หรือดาราที่อยากจะควบคุมคำพูดของคนอื่น ทำไม่ได้อยู่แล้วก็ปล่อยวางเสียเวลาชีวิต ไปนั่งเหนื่อยรู้สึกอะไรกับคนที่ห่างไกลจากตัว”