คณะกรรมการวัดโนนไทย ล้มเลิกแจ้งความเอาผิดหมอปลา หลัง ‘หลวงพ่อจอย’ เจ้าอาวาส บอกไม่ถือโทษ ให้อภัยทุกคน อย่าไปเอาเรื่องใครเลย

กรณีที่มีวัดหลายแห่งเตรียมจะให้ทนายไปฟ้องดำเนินคดีกับหมอปลา ซึ่งพาสื่อบุกจับพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกา ที่วัดโนนไทย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยพาสื่อขึ้นไปบนกุฏิพระสงฆ์ ชั้น 2 ศาลาการเปรียญ ขณะที่เจ้าอาวาสวัด กำลังนั่งฉันเพลอยู่ ทำให้ศิษยานุศิษย์และญาติโยม ไม่พอใจหมอปลา ที่ไปแสดงกิริยาล่วงเกิน หลบหลู่ หลวงพ่อจอย ออกมาเรียกร้องให้ไปแจ้งความเอาผิดหมอปลา และขอให้คณะหมอปลามาขอขมาต่อหน้าหลวงพ่อจอย ตามที่เสนอข่าวนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.65 นายพิเชษฐ์ ของกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านสันเทียะ หมู่ที่ 1 ต.โนนไทย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากคณะหมอปลาบุกมา สร้างความวุ่นวายที่วัดโนนไทย โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตหลวงพ่อจอยเลย ก็ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่พอใจ ที่มาสร้างความเสียชื่อเสียงให้กับวัดโนนไทย และเป็นการลบหลู่หลวงพ่อจอย อันเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากหลวงพ่อจอย เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และยังเป็นศิษย์เอกขอหลวงพ่อคูณ ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา

ดังนั้นทำให้ชาวบ้านพากันออกมาเรียกร้องให้คณะของหมอปลาออกมาขอโทษ ขอขมาหลวงพ่อจอย ไม่เช่นนั้นจะไปแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุกกับคณะของหมอปลา เนื่องจากวัดถือว่าเป็นนิติบุคคลที่ใครจะใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรม มาบุกรุกสร้างความเสียหายไม่ได้ แต่จนถึงขณะนี้คณะของหมอปลาก็ยังไม่มาขอขมาหลวงพ่อจอยเลย

อย่างไรก็ตาม จากการไปพบหลวงพ่อจอย ท่านก็บอกว่าให้อภัยทุกคน อย่าไปเอาเรื่องใครเลย ดังนั้นคณะกรรมการวัดจึงหยุดเรื่องที่จะแจ้งความเอาผิดคณะหมอปลาไว้ก่อน ตามที่หลวงพ่อจอยท่านพูดไว้ ซึ่งถือว่าหลวงพ่อจอยท่านเป็นผู้ที่มีจิตเมตตากับลูกหลานทุกคน ท่านไม่เคยถือโทษโกรธใคร

แต่คณะกรรมการวัดก็รู้สึกไม่สบายใจที่คณะหมอปลามาทำให้วัดโนนไทยเสียชื่อเสียง เพราะหลวงพ่อจอยท่านสร้างวัดแห่งนี้มาจนกลายเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างดีเด่น ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียใดๆ เลย พระที่หมอปลามาจับวันนั้น ก็มาจากวัดอื่น มาขออาศัยอยู่ชั่วคราว ซึ่งหลวงพ่อจอยท่านก็เมตตา ดังนั้นจึงอยากให้หมอปลาออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ในครั้งนั้นด้วย