มาริโอ้ ดีใจ ขุนพันธ์ กวาดรายได้ 80 ล้าน ปลื้ม จันจิ โชคดีได้เป็นแฟน

หนุ่ม ‘โอ้ มาริโอ้ เมาเร่อ’ เดินทางมาร่วมกิจกรรมโปรโมตละคร “หมอหลวง” บริเวณเกาะพญาไท หน้า Victory Point ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงรายได้ภาพยนตร์ “ขุนพันธ์” ทะยานสู่ 80 ล้าน พร้อมเปิดใจโชคดีได้สาว จันจิ จันจิรา เป็นแฟน

ขุนพันธ์ 80 ล้านแล้วตอนนี้? “ครับ ตอนนี้ขุนพันธ์ก็ทะยานสู่ 80 ล้าน ดีใจมากๆ รู้สึกภูมิใจที่คนไทยไปช่วยกันสนับสนุนหนังไทย โดยเฉพาะหนังที่หาดูได้ยากอย่างขุนพันธ์ครับ รู้สึกว่าเป็นอะไรที่อยากให้สนับสนุนเพราะหนังไทยเป็นหนังของคนไทย ก็ต้องช่วยกันเยอะๆ”

ได้คุยกันบ้างไหม? “ยังไม่ได้คุยกับพี่โขม (ผู้กำกับฯ) แต่แกน่าจะดีใจ เห็นกระแสดี คนดูก็ชอบเยอะ คนดูบอกต่อว่าสนุกมากเลย (ภาค 4 จะมาไหม?) 4 ไม่น่า แต่ 5 ไม่แน่(ยิ้ม)”

เรื่องนี้ทำให้วงการหนังไทยกลับมามีชีวิตชีวา? “รู้สึกว่าหนังที่เป็นแอ๊กชั่นแบบขุนพันธ์ เป็นซิกเนเจอร์เป็นลายเซ็นของขุนพันธ์ไปแล้ว เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาคม เกี่ยวกับของที่เป็นไทยๆ ครับ ผมว่าขุนพันธ์ก็เป็นตำนานอยู่แล้ว เอามาทำเป็นหนัง ผมว่าเขาทำดีกันมาตั้งแต่แรกๆ มันเลยทำให้ภาคที่ 3 ดัง ความตั้งใจของทีมงานและทุกๆ ฝ่ายด้วย”

มันใจชื้นด้วยไหม? “มากๆ ครับ เพราะว่าเป็นกำลังใจเดียวของเรา เราเหนื่อยกันแค่ไหนก็วัดที่คนดูจะชอบผลงานที่เราทำหรือเปล่า สำหรับโอ้เกินคาดครับ รู้สึกดีใจ”

การจำกัดของรอบมันจะเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น? “พูดไม่ได้ครับ บางทีก็เป็นเรื่องของระบบ แต่โอ้เองก็อยากให้ช่วยกันทุกเรื่องครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ค่ายไหน เราก็เป็นหนังไทยด้วยกัน อยากให้ช่วยกัน ผลักดันกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม”

แฟนๆ แห่กันไปดู รู้สึกยังไงบ้าง? “ดีใจมากเลย หายเหนื่อยเพราะเราถ่ายทำกันเหนื่อยมากๆ โหดมากๆ กับการถ่ายหนังบู๊แบบนี้ ถ้าใครถ่ายจะรู้เลยมันยากมากกว่าจะได้ทีละซีน ทีละช็อต แล้วพอคนดูไปดู บอกเลยหายเหนื่อย ทีมงานทุกคนแฮปปี้มาก”

ถ้าถึง 150 ล้าน ทีมงานบอกไหมว่าจะให้นักแสดงทำอะไร? “ตอนนี้ยังไม่มีครับ ถามว่าหวังทะลุ 100 ล้านมั้ย ผมไม่ได้มองว่ามันจะร้อยรึเปล่า แค่คนดูชอบ เรื่องของรายได้ ใจอยากให้ได้มั้ยก็อยากให้ได้ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังเพื่อให้ตัวเองเสียใจ”

ฟีดแบ็กเป็นยังไง? “เขาก็บอกชอบคาแร็กเตอร์เสือมเหศวร ที่ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆ ชอบความทะเล้น การปลอมตัว และอิทธิฤทธิ์ของเสือมเหศวร ตอนนี้คนก็เริ่มเช่าพระมเหศวรมาห้อยคอแล้วครับ”

จะมีคนทำปากมุบมิบเหมือนเราในเรื่อง? “ไม่มีครับ คงไม่มีใครอมพระมเหศวรเหมือนเราในเรื่อง เพราะอาจจะเค็มนิดนึงครับ”

เห็นเราไปขี่มอเตอร์ไซต์ คนชมบอกโชคดีได้จันจิเป็นแฟน? “ใช่ เป็นโชคดีของผมครับ เพราะผมไปแต่ที่ลำบากครับ ร้อน แล้วก็เหนื่อยด้วย แต่เขาก็ไป (กลัวที่เขาต้องไปลุยกันเรา?) เขาก็บ่นเหมือนกันนะครับว่าดำไปเลย เพราะเราไปอยู่ตรงชายหาด”

เราชวนเขา หรือเขาอยากไปด้วย? “ผมชวนเขาครับ เขาไม่อยากไป แต่ผมชอบ (อ้อนยังไง?) ผมบอกสนุก แถวนั้นมีอะไรให้ทำเยอะ งานแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว พูดจริงๆ พูดให้เขาฟัง”

พอไปถึงปุ๊บเขาก็? “เขาก็บอกร้อน มันร้อนมากครับ แต่เขาก็ยืนสู้ (เขาเข็ดไหม?) รู้สึกว่าน่าจะเป็นงานสุดท้าย ไม่น่าไปละ”

ถูกใจยังไง? “คือน้องเขาก็ชอบครับ แล้วผมไปกับเพื่อนๆ อยู่แล้ว เพื่อนๆ ก็รู้จักกัน มันลำบาก แต่มันสวย งานแข่งแบบนี้มันไม่ได้มีบ่อยๆ”

เราอยากให้เขาเห็นในแบบที่เราเห็น? “เอาจริงๆ ไปดูแลผมแหละ เดี๋ยวจะล้มคว่ำอะไร เพราะผมลงแข่งด้วย (อยากให้เขาพิสูจน์รัก?) ไม่ได้พิสูจน์ครับ พิสูจน์รถ ว่ารถจะพังมั้ย”

ไปกันเยอะ? “ไปกันจริงเยอะครับ มีเพื่อนๆ ทั้งนั้นเลย ที่ชอบรถโบราณ (เขาดูแลดี?) ดี”

ระหว่างรถกับเขาชอบอะไรมากกว่ากัน? “อันนี้มันเทียบกันไม่ได้ รถไม่มีชีวิต เขาเป็นคนมีชีวิต แต่ก็ขาดรถไม่ได้นะ ไม่งั้นจะไปรับยังไงอ่ะ ชงหวานมากเลยนะ”

หลังๆ ไปกิจกรรมแบบนี้บ่อยขึ้น? “ใช่ครับ พยายามชวนแหละ (ว่างปุ๊บหาทริปสวีต?) ใช่ครับ ก็หาเวลาว่างถ้าว่างก็ไปบ้าง”

ไม่ตามใจเขา ไปแบบไม่ลำบากบ้าง? “ไม่ตื่นเต้นนะผมว่า (เขามีชวนไปทริป?) ไม่มี ส่วนใหญ่ชวนไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ไปซื้อของกิน”

เขาชวนเต้น? “ผมเป็นคนถ่าย (เราลองบ้าง?) มีเปิดเพลงให้ฟัง เขาเปิดเวลาเขาจะเล่นติ๊กต็อก เขาเปิดเพลงจริง เขาไม่ฟังเสียงโอ้ (เคยลองเต้นกับเขา?) “เคย แต่กว่าจะได้รู้เลยว่าคนเล่นติ๊กต็อกมันยาก มันไม่ได้ถ่ายง่ายๆ”

เท้าโดนอะไรมา? “อันนี้เป็นความซุ่มซ่ามของผมเองครับ ถือของ ของทับเท้า”