มท.1 มอบนโยบาย ผวจ.-ปลัด-นายอำเภอทั่วประเทศ สนับสนุนการเลือกตั้ง ส.ส. ย้ำให้วางตัวเป็นกลาง ลั่น ข้าราชการ ไม่มีใครสั่งใครได้
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2566 ที่โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ กระทรวงมหาดไทย จัดโครงการประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2566 โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธาน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ปลัดจังหวัด ปลัดกทม. นายอำเภอ กว่า 1,400 คน เข้าร่วม
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวให้นโยบายว่า การประชุม มี 2 ส่วน คือ ปฏิบัติตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ และอีกส่วนคือหัวหน้าหน่วยเลือกตั้งหรือกรรมการประจำเขตใน400 เขต หรือ90,000 กว่าหน่วย ฉะนั้นเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ทุกคนเข้าใจ ไม่ว่าฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ หรือดูแลกำกับท้องถิ่น ว่าไม่สามารถสั่งผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาได้ ตนไม่เคยเชื่อว่าจะมีใครสั่งใครได้
“ตามอำนาจหน้าที่ทำได้อย่างเดียวเท่านั้นคือต้องวางตัวเป็นกลาง และทำตามอำนาจหน้าที่ อย่าได้คิดที่จะไปทำ จะไปสั่งจะไปยุ่งจะไปข้องเกี่ยว ไม่ว่าจะรักชอบ นิยมชมชื่น ก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งตามอำนาจหน้าที่ทำได้แค่นั้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้กังวลว่าใครจะโดนโทษหนัก แต่ที่ตนตระหนักว่าสิ่งที่ทำไปหรือสิ่งที่เกิดขึ้นจะเกิดความวุ่นวายในแผ่นดินนี้ ความสงบสุข ความสงบเรียบร้อยของประเทศชาตินั่นแหละคือเรื่องสำคัญ ตนยังอยากให้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ปฏิบัติแสดงออกทั้งหมดทุกอย่างว่าเป็นกลาง ไม่เอียงเข้าข้างฝ่ายใด ไม่ให้ร้ายฝ่ายใด ไม่นิยมชมชอบใครเป็นพิเศษ
ส่วนของคนที่ไปทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการประจำหน่วย(กปน.)นั้นก็เป็นอีกบทบาทหนึ่ง ที่ทุกคนต้องรับผิดชอบ ซึ่งคนที่จะให้แนวทางในการปฏิบัติคือกกต. ทุกคนต้องฟังกกต. ซึ่งภายใต้การแข่งขันทุกคนพยายามที่จะขึ้นไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ถ้าทำแค่ปราศรัยหาเสียงก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีการสาดโคลนใส่กัน มีเรื่องร้องเรียน หวังว่าเมื่อประธานกกต.ชี้แจงในวันนี้ ทุกเขตเลือกตั้งจะมีความชัดเจนในการปฏิบัติ
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงข้อกังวลเรื่องบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ได้เช่นเดียวกับบัตรประชาชน เข้าไปใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้ง เพราะเกรงว่าอาจเกิดความเข้าใจผิด และไม่อนุญาตให้ใช้บัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ในหน่วยเลือกตั้งบางหน่วย จึงอยากให้เข้าใจตรงกัน ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อย ตนเข้าใจว่าในหน่วยเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของกปน.ส่วนนอกหน่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแลความสงบเรียบร้อย
การเลือกตั้งครั้งนี้เราใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท เป็นการบอกว่าใครชนะมีอำนาจมาบริหารประเทศ ประเทศเจริญ มีความผาสุก ถ้าไปใช้สิทธิ์น้อย การใช้อำนาจรัฐก็เหมือนเป็นการไม่สามารถสะท้อนคะแนนที่แท้จริง จึงอยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันให้มากๆ จะได้สะท้อนคะแนนที่เป็นจริง ดังนั้น ไม่ว่าส่วนใดต้องวางตัวเป็นกลางทั้งแสดงออก แสดงตัวสร้างความรับรู้ให้ประชาชนว่าเป็นกลาง ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะต้องจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสอบสนับสนุนกกต.ให้มีผลออกมาเพื่อจะได้มีการตั้งรัฐบาลมาบริหารงานต่อไป