ผัวใจสลาย! คาใจ เมียดับหลังผ่าคลอดที่โรงพยาบาล เผยชักเกร็งตาค้าง ตอนลงมีด ปั๊มหัวใจ 4 ครั้ง หมอบอกคนไข้น้ำคร่ำอุดตันเส้นเลือด วอนผู้เกี่ยวข้องชี้แจง

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายวิโรจน์ อายุ 33 ปี ชาวบ้าน ต.ช้างตะลูด อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ว่า พาน.ส.รุ้งเพชร อายุ 31 ปี ภรรยาไปคลอดที่โรงพยาบาลหล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ต่อมาภรรยา เสียชีวิตระหว่างผ่าคลอด ทั้งๆ ที่ร่างกายแข็งแรง โรงพยาบาลแจ้งว่าจะเข้ามาพูดคุยหลังเผาศพเสร็จแล้ว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเสียชีวิตนั้นเมื่อวันที่ 18 เม.ย.66 ภรรยาซึ่งตั้งครรภ์ใกล้จะครบกำหนดคลอดแล้ว มีน้ำใสๆ เป็นเมือก มีเลือดปนติดออกมาด้วย ตนจึงรีบโทรหาหมอที่รับฝากท้อง โดยทางหมอบอกให้รีบพาภรรยาไปที่โรงพยาบาล หมอตรวจและให้ยาระงับการคลอดพร้อมกับให้ยากระตุ้นหัวใจเด็กในท้อง

พร้อมทั้งให้นอนอยู่ที่ห้องรอคลอด โดยที่ไม่ได้ให้ญาติเข้าไปดูแลแต่อย่างไร ตนจะได้พูดคุยก็ต่อเมื่อแฟนออกมากินข้าวนอกระเบียง จึงจะสามารถพูดคุยกันได้ จนวันเสาร์ที่ 22 เม.ย.66 ซึ่งครบกำหนดผ่าคลอดพอดี เวลาประมาณบ่ายโมง เจ้าหน้าที่ก็เข็นแฟนไปห้องผ่าตัด อย่างเร่งรีบ ซึ่งตอนนั้นตนสังเกตว่าแฟนนอนนิ่ง แต่ก็เข้าใจว่าอาจจะวางยาสลบก่อนไปผ่าคลอด

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนจึงเดินตามไปรอที่หน้าห้องผ่าตัดหลังจากนั้นประมาณ 30-40 นาที เจ้าหน้าที่ก็เข็นลูกออกมาจากห้องผ่าตัดก่อน และก็มีทีมแพทย์วิ่งเข้าห้องผ่าตัดไปอย่างไว ต่อมาหมอก็เดินออกมาบอกตนว่า “คนไข้หยุดหายใจ” หมอปั๊มหัวใจ 4 ครั้งแล้ว จากนั้นนำแฟนไปที่ห้องไอซียู กระทั่งประมาณบ่าย 3 หมอแจ้งว่า ให้ตนทำใจ โดยแจ้งว่าคนไข้สมองตาย ความดันต่ำมากแล้ว ตนจึงรีบโทรบอกญาติ และทุกคนก็มารอฟังสาเหตุการตายของแฟนที่หน้าห้อง

โดยหมอแจ้งสาเหตุการตายว่า คนไข้เกิดภาวะน้ำคร่ำอุดตันเส้นเลือด ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในการผ่าคลอด คนไข้มีอาการเกร็ง ตาค้างขึ้น ตอนที่หมอกำลังลงมีดเปิดมดลูกหมอลงมีดไปได้แค่นิดเดียวเลือดออกได้ไม่เยอะ เนื่องจากคนไข้มีภาวะรกเกาะต่ำอยู่แล้ว จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแบบนี้สูงกว่าคนอื่นๆ การผ่าคลอดทุกคนมีความเสี่ยงหมดขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละคน ส่วนลูกในท้องนั้นผ่าออกมาปลอดภัย

“หลังจากนั้นผมนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้าน แต่ผมและญาติๆ ติดใจสาเหตุการตายของแฟนมาก เพราะในตอนเช้าอาการยังปกติ ยังพูดคุยกันได้อยู่เลย อยากให้หมอออกมาไขข้อเท็จจริงว่าภรรยาผมเป็นอะไรถึงเสียชีวิตกันแน่ อยากให้อธิบายเป็นภาษาชาวบ้านให้ผมและญาติๆ เข้าใจ” นายวิโรจน์ กล่าว

เพราะที่ผ่านมาเป็นภาษาทางการแพทย์ทั้งนั้น และตั้งแต่นำศพมาสวดที่บ้าน หมอก็ไม่เคยมาเคารพศพหรือพูดคุยกับญาติๆ เลย มีเพียงให้เจ้าหน้าที่นำพวงหรีดมาให้เท่านั้นเอง โดยบอกว่าหลังจากเผาศพแล้วจึงจะมาพูดคุย

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ ( 26 เม.ย.) ตนตัดสินใจส่งร่างของแฟนไปชันสูตรที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อหวังว่าจะได้รู้การตายแบบแน่ชัดจริงๆ ซึ่งต้องใช้เวลา 15-30 วัน จึงจะทราบผล แต่ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ร้องเรียนสื่อมวลชนไปถึงกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้เกี่ยวข้องให้ลงมาตรวจสอบให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียชีวิตด้วย แฟนจะนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจในช่วงบ่ายของวันนี้ ที่ฌาปนสถานป่าช้าช้างตะลูด

ด้านนายสิทธิ์ อายุ 55 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า มีลูก 2 คน คนเสียชีวิตเป็นคนโต ขณะนี้เป็นครูสอนอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะตนร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนแม่ก็ป่วย เมื่อลูกสาวมาเสียชีวิตทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตนติดใจสาเหตุการตายของลูกมาก หมอมาชี้แจงแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนเดิม จึงอยากให้หมอออกมาพูดความจริงและรับผิดชอบในการตายของลุกสาวด้วย