อย่าให้โอกาสเป็นหมัน ภูมิธรรมปลุกเลือก เพื่อไทย เกิน300เสียง ประเทศเปลี่ยนแน่ แจงบางพรรคกระแสดีแต่ สส.เขตตัวชี้วัดตั้ง รบ. หวั่นแข่งตัดคะแนนกันเองทำเครือข่ายลุงชนะ ระบอบประยุทธ์กลับมา
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า อย่าให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงประเทศต้องเป็นหมัน ไล่ระบอบประยุทธ์ออกไป เลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาล
การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมไทย เพราะเป็นการเลือกตั้งที่จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน โดยยังคงมีกลไก รธน.ที่กำหนดให้ ส.ว 250 คน มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯ อันเป็นแต้มต่อที่สำคัญในการสืบทอดอำนาจต่อเนื่องของระบอบประยุทธ์ นั่นหมายความว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมสามารถจับมือรวมกันแค่ 126 เสียง ก็สามารถชนะการโหวตเลือกนายกฯ ได้แล้ว และประเทศไทยก็จะมีนายกฯ ในแบบเดิมที่ทำให้พี่น้องประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานมานานถึง 8-9 ปี
นายภูมิธรรม ระบุว่า แต่หากจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง จะตั้งรัฐบาลได้จริง จำเป็นต้องใช้คะแนนเสียงของ ส.ส ให้ได้มากเกิน 250 คน และจะมั่นใจมากกว่าหากได้ ส.ส มากถึง 300 คน ซึ่งพรรคการเมืองที่มีโอกาสจะทำให้เป็นรูปธรรมได้จริงๆ คือพรรค เพื่อไทย แม้ว่าในช่วงหลังหลายโพลจากหลายสำนักระบุว่าบางพรรคมาแรงแซงพรรคเพื่อไทย ก็ตาม แต่หากดูจากข้อมูลในพื้นที่ซึ่งเป็นคะแนนจริงๆ ไม่ใช่คะแนนในอากาศ ซึ่งเราติดตามอย่างใกล้ชิด ยังบ่งชี้ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง
ทำไมถึงมั่นใจอย่างนั้น จริงอยู่กระแสอาจมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกของพื้นที่ กทม.ปริมณฑลและเขตเมืองใหญ่ แต่ในจำนวนเขตเลือกตั้ง 400 เขตนั้น 300 กว่าเขตเป็นพื้นที่ อบต. เทศบาลตำบล กระแสไม่มีผลมากเท่ากับความผูกพันและการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่าง ส.ส.กับ ประชาชนในพื้นที่นั้นๆ จำนวน ส.ส.เขตพื้นที่จึงเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง และต่อการจัดตั้งรัฐบาล ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันซึ่งจะทำให้เกิดการตัดคะแนนกันเอง ปล่อยให้ตาอยู่อย่างลุงและเครือข่ายชนะไปย่อมไม่เกิดผลดี
“ผมไม่อยากให้ความหวังในการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของพี่น้องประชาชนต้อง กลายเป็นคะแนนตกน้ำและตาอยู่ได้ชัยชนะไป นั่นจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมากถ้าความหวั่นเกรงของผมเป็นจริง บรรยากาศที่เอื้อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นง่ายนัก หากการตัดสินใจเลือกที่จะกาบัตรนั้นทำให้ความหวังที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นหมันอย่างน่าเสียดาย เราจะได้ระบอบประยุทธ์กลับมา และต้องทนอยู่ต่อไปอีก 4 ปี
ผมเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย คือคำตอบที่เป็นจริงในการเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความหวัง เกิดการแก้ไขปัญหา การเปลี่ยนแปลงของชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่เป็นจริง เพราะปัญหาของประเทศวันนี้อยู่ในขั้นวิกฤติระดับ โคม่า ต้องการทีมมืออาชีพเข้ามาแก้ไข ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคยพิสูจน์ให้เห็นเป็นผลงานเชิงประจักษ์มาแล้ว วันนี้พรรค เพื่อไทย มีทั้งผู้นำที่พร้อม มีนโยบายที่พร้อม และมีทีมทำงานที่พร้อม 14 พ.ค.กาพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” นายภูมิธรรม ระบุ