ฟลุค เกริกพล ห่วงลูกชาย กลัวอินความรักมากไป เผยสบายใจ น้องอชิ คบ น้องมิย่า ลูกสาวพีท ทองเจือ คนคุ้นเคยรู้ที่มาที่ไป ชี้รักกันแต่พอดีไม่เว่อร์วัง
เห็น น้องอชิ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน โตเป็นหนุ่มเริ่มมีความรักแล้ว คนเป็นพ่ออย่าง ฟลุค เกริกพล มัสยวาณิช ก็อดห่วงไม่ได้กลัวเจอคนไม่ดี แต่พอรู้ว่าคนที่ลูกชอบคือ น้องมิย่า ลูกสาวคนกลางของ พีท ทองเจือ ก็สบายใจเพราะคุ้นเคยรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งทั้งสองบ้านมีโอกาสเจอกันอยู่บ่อยๆ โดยพ่อฟลุคได้ไปปาร์ตี้กับแก๊งของลูกๆ จนโดนแซว พ่อหน้าอ่อนกลมกลืนไปกับวัยของลูกๆ ได้
ล่าสุดวันนี้ (22เม.ย.66)มีโอกาสเจอ ฟลุค เกริกพล ที่มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวธุรกิจ BNFC FINANCE : ศูนย์แบรนด์เนมแลกเงิน เจ้าแรกในประเทศไทย ณ Spaces Empire Tower ได้ให้สัมภาษณ์สเตตัสความรัก น้องอชิ และ น้องมิย่า อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ทั้งสองบ้าน แต่หัวอกคนเป็นพ่อ ก็ยังอดห่วงลูกชายไม่ได้ อยากให้รักกันในความพอดี ไม่อินจนเว่อร์เพราะกลัวลูกผิดหวัง
ไปปาร์ตี้กับลูกแล้ว? “ใช่ ผมก็ไปหลายครั้งแล้วนะ แต่ไม่ใช่ปาร์ตี้ ส่วนใหญ่จะชวนลูกไปทานข้าวมากกว่าแล้วพอดีมันมีงานปาร์ตี้ขึ้นมาก็เลยชวนๆ กันไปแค่นั้นเอง จริงๆ ผมไม่ได้ไปคนเดียวนะ พี่พีท (ทองเจือ)กับพี่เจ็งก็ไปนะ”
รูปที่ลงไปหลายคนแซวหน้าเราวัยเดียวกับลูกเลย กลมกลืนไปหมด? “มีคนชมขอบคุณมากเลย รู้สึกดีใจครับว่าอายุใกล้ๆ กับน้องไบร์ท(วชิรวิชญ์)และน้องอชิเลยทีเดียว จริงๆ ก็ห่างไม่เยอะนะ 20 ปีนิดๆ เอง ที่เราดูหน้ากลมกลืนไปกับวัยเขาได้ อาจจะเป็นเพราะว่าวันนั้นแต่งตัวใส่เสื้อยืด ไม่ได้แต่งตัวให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากนัก เราไปเที่ยวเนาะ”
เรารู้จักแก๊งเพื่อนน้องอชิหมดเลยไหม? “จริงๆ วันนั้นมันเป็นน้องอชิกับครอบครัวของน้องมิย่านะ และมีน้องไบร์ทไปงานเหมือนกันก็เลยมาถ่ายรูปกันเฉยๆ มีหลายคนที่ไปงานนั้น”
เวลาไปทานข้าวไปกันทั้งสองครอบครัวใหญ่เลยไหม? “อ๋อ ไม่ นานๆ ทีจะเป็นสองครอบครัวมาเจอกันอย่างเช่นตอนปีใหม่ พอดีงานนี้ผมชวนมาแล้วมันมีที่ พอดีเขาอยู่ด้วยกันแล้วอยากมาก็เลยต้อนรับแค่นั้นเอง”
การคบกันของลูกๆ อยู่ในสายตาผู้ใหญ่? “ก็เห็น ไม่ได้มีปัญหาอะไร น้องเขาก็น่ารักกันดีครับ”
หลายคนแซวเป็นการเปิดตัว? “ไม่ใช่ เขาก็ยังเด็กกันอยู่ ก็เป็นเพื่อนกันที่ปรารถนาดีต่อกันใช้เวลาด้วยกันก็โอเค”
ลูกชายโตขึ้นมีความรักแล้วเราดูแลยังไง? “ผมก็ดูแลปกตินะ พ่อก็ชวนลูกไปทานข้าวบ่อย จริงๆ เราไปหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้ลงรูป อชิเขาก็ปกติ ไม่ได้เขินอะไร ไม่มีปัญหาอะไร”
ลูกชายมาปรึกษาพ่อเรื่องความรักมั้ย? “น้อยมากเลย อชิเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดเลย พูดน้อย ไม่ค่อยได้ปรึกษาอะไรมากมาย เขาคงคิดเองแหละหรือว่าคงคุยกับเพื่อนกลุ่มของเขามากกว่า ส่วนกับแม่ของเขา ผมคิดว่าอชิคงไม่ได้ปรึกษาขนาดนั้น (ความเป็นพ่อรู้ว่าลูกชอบแบบไหนยังไง?) เราไม่รู้ เพราะว่าอชิเขาค่อนข้างเด็กถ้าเทียบกับอายุของเขา ถ้าเทียบกับผมตอนเด็กๆ เขาเด็ก ตอนนั้นที่ผมอายุ 20 ผมก็น่าจะเล่นละครไป 4 เรื่องแล้ว เคยได้โทรทัศน์ทองคำแล้ว ผมทำงานเป็นเรื่องเป็นราวแล้วตั้งแต่เด็กๆ แต่น้องอชิยังเพิ่งเรียนอย่างเดียว ดังนั้นมันก็ต่างกันพอสมควรเรื่องความเป็นผู้ใหญ่นะ ความรับผิดชอบมันจะต่างกันเยอะ”
ห่วงเรื่องอะไรที่สุดเวลาลูกมีความรัก? “ความพอดีครับ อยากให้ทุกอย่างมันมีแต่ความพอดี รักกัน เป็นห่วงกันแบบพอดีๆ ไม่อยากให้อินหรือเว่อร์วังอลังการเกินไป เพราะว่ามันก็ไม่ดีเนาะอะไรที่มันเว่อร์เกินไปมันก็ไม่ดี ผมก็ไม่ค่อยได้แนะนำอะไร เราพยายามให้เขาเห็นจากตัวอย่างของเราว่าเรารักกันดีที่บ้านเป็นยังไงมีความสุขกำลังดี เพราะเราเห็นข่าวหลายๆ อันเวลามันเว่อร์ไปมันก็ไม่ดี เราก็อยากให้ลูกเราพอดีๆ”
คิดว่าลูกเรามีภูมิคุ้มกันมั้ย? “ลูกเรามีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว เพราะลูกเราเป็นคนที่อบอุ่นมาก อชิได้รับความรักจากทั้งสองบ้าน ทั้งบ้านผมคุณลี(นาตาลี) และก็บ้านคุณโบ(ชญาดา)คุณแบงค์ อชิก็ยังเป็นหลานคนแรกอีก คืออชิได้รับความรักจนอชิร้อน ดังนั้นขาดความอบอุ่นไม่มี มันมีแต่ร้อน ดังนั้นผมว่ามันมีภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เขารู้ว่าทุกคนรักเขา มันไม่เกิดอะไรที่ไม่ดีหรอก เราก็แค่ไม่อยากให้เขาเสียใจ”
เวลาเขาไปเที่ยวกัน ห่วงไหมด้วยความที่พ่อแม่เป็นคนมีชื่อเสียง? “ห่วง เวลาไปเที่ยวเราถึงพยายามจะไปด้วย เพราะว่าเวลาเราเข้าไปคือเหมือนศาลพระภูมิอยู่แล้ว ทุกคนไหว้เราหมดเลย ผมงงมากเลย ผมเข้าไปทุกคนไหว้ผมหมดเลย คือถ้าเราไปเที่ยวกับลูก ก็จะรู้สึกว่ามันจะปลอดภัยหน่อย ทุกคนก็เห็นเราเป็นพระมั้ง ยกมือไหว้ตลอดเลย(หัวเราะ)”
น้องได้เห็นข่าวมั้ย ทำสาวๆ อกหักทั้งประเทศ? “เราก็รู้สึกว่ามันเป็นช่วงวัยของเขา แล้วการที่เขาได้เรียนรู้คบใครสักคน แล้วน่ารักดี ผมว่ามันก็ดี”
ช่วงที่เขาโสดตอนยังไม่ได้มาคบน้องมิย่า เราหวงไหมเพราะเป็นหนุ่มแรร์ไอเทมที่หลายคนอยากพุ่งเข้าใส่? “ก็เป็นห่วงครับ เพราะสังคมปัจจุบันเราก็ไม่รู้ว่าอะไรเข้ามายังไงด้วย ต้องการอะไร เราก็เลยไม่ได้ห่วงเพราะว่าเป็นน้องมิย่าไง เรารู้จักคุณพ่อคุณแม่ รู้จักที่มาที่ไปของเขา เราก็ปลอดภัย”
ก่อนจะมาคบน้องมิย่า ลูกเรามีภูมิคุ้มกันสแกนคนได้มั้ย? “เราคิดว่าน่าจะไม่มี เพราะว่ามันก็ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่จริงๆ เราก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่สำหรับคนที่เรารู้สึกว่าเราปลอดภัยก็สบายใจ”
กลัวลูกจะอกหัก ผิดหวัง? “ใช่ เพราะว่ามันต้องมีเกิดขึ้นอยู่แล้วแหละ สักวันหนึ่งมันก็ต้องเกิด เขาคงรู้อยู่แล้วว่าเขามีคนรักเยอะ มันคงจะมีจังหวะหนึ่งที่อาจจะต้องสะดุดสักวันหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าต้องเกิดขึ้นกับน้องมิย่า แต่ว่ามันต้องมีสักวันแหละ ผมคิดว่าเขาต้องตั้งรับได้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของมนุษย์ที่ต้องได้ มันเป็นสิ่งที่คนเราต้องเรียนรู้กันไปอายุยังน้อยก็ต้องเจอ คงไม่ได้โชคดีชีวิตนี้เจอแล้วก็จบเลย ยากไปนะ จะเฮงอะไรขนาดนั้น”
ณ วันนี้น้องอชิก็ยังไม่ใจอ่อนเข้าวงการบันเทิง? “จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าซะทีเดียวนะ หลายๆ คนก็ถามมาเมื่อไหร่น้องอชิจะมารับงาน ตอนนี้อชิเขาเรียนหนังสืออยู่แต่ว่าเขาเรียนออนไลน์นะก็สามารถรับงานได้ แต่ว่าอยากให้ทำอะไรหลายๆ อย่างให้เสร็จก่อน เช่น ตอนนี้เขากำลังจะไปดัดฟันให้เรียบร้อย แล้วก็รอให้เป็นผู้ใหญ่กว่านี้เพื่อจะพาน้องไปเทรนนิ่งต่างๆ ก็รอให้พร้อมใช้ก่อน”
เขามีความสนใจมั้ย? “ไม่ค่อยเยอะ (หัวเราะ) ต้องค่อยๆ บิ้วด์ก่อน อชิเขานิ่งมาก ยากมาก มีคนติดต่อมาเยอะพอสมควร ก็ยังติดต่อมาได้นะครับ ผมจะพิจารณาเป็นเคสๆ ไป มีติดต่อมาเยอะมากแต่ว่าก็ไม่เคยรับจนเขาคงท้อ”
แล้วพ่อกับแม่ปฏิเสธไปยังไง หรือไปดีลกับลูกยังไง? “พออชิเห็นก็จะบอกไม่คุ้ม โอเคไม่คุ้มก็ไม่คุ้ม ไม่รู้จะเถียงยังไงที่เขาบอกไม่คุ้ม ผมก็พยายามช่วยแล้ว เขาก็ยังบอกว่าอชิมองแล้วว่าไม่คุ้ม ไม่ทำ”
มีถามลูกไหมอย่างนั้นที่รู้สึกว่าคุ้มและอยากทำ? “ก็ไม่รู้ ลองติดต่อมาเยอะๆ พอแล้วเขาคงเอาเองแหละ(หัวเราะ) ผมก็ไม่รู้จริงๆ ก็พยายามเต็มที่แล้ว เขาติดต่อมาเราก็ปฏิเสธเรื่อยๆ ก็มีติดต่อมาเราก็คิดดูจากค่าเหนื่อย เราก็พิจารณาให้เรียบร้อยแล้วส่งไป อชิก็บอกว่าไม่คุ้ม แบรนด์เขาก็ยังไม่รู้ว่าอชิ รับหรือไม่รับยังไง เดี๋ยวลองดู ลองติดต่อมาได้ครับ ไม่เป็นไร”
ถ้าอชิพร้อมรับ เราก็พร้อมเป็นผู้จัดการให้ลูก? “ก็ดูแลได้ ส่วนลูกจะรับไหม ก็ขออนุญาตโทษทีไว้ก่อน ยังไม่ชัวร์”
ทุกอย่างให้อชิตัดสินใจเองเป็นหลัก? “เขาโตแล้ว เราคิดว่าเป็นสิ่งที่เขาควรจะตัดสินใจด้วยตัวเอง เราก็พยายามสอนเขา อชิควรจะรับบ้างนะลูก (คิดว่าเขาจะพร้อมเมื่อไหร่?) ต้องเดือดร้อนมั้ง เขาไม่เดือดร้อนไง ก็เลยไม่รับสักที ผมเดาว่าต้องเดือดร้อน หรือว่าต้องอยากได้อะไรสักอย่างที่พ่อไม่ให้ คนเรามันต้องมีแรงบันดาลใจก่อน สมมติอยากจะไปสักที่หนึ่งแล้วพ่อไม่อนุมัติ หรือว่าอยากจะได้อะไรสักอย่างแล้วพ่อแม่ไม่ให้ มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ชีวิตต้องหาเอง เดี๋ยวมันก็ต้องมี สักวันต้องอยากได้”
มองว่าอชิเหมาะกับอะไรในวงการบันเทิง ณ วันนี้? “เราดูเอ็นเกจเมนต์ในไอจีเขา ผมงงมากเลยว่าอชิไม่โพสต์อะไรเลย เดือนหนึ่งโพสต์หนึ่งครั้ง บางไลก์มันมีไลก์เท่ากับจำนวนคนฟอลโลว์ แล้วเอ็นเกจเมนต์เยอะเป็นหลักล้าน ผมงงว่าเอ็นเกจเมนต์เขาเยอะกว่าผมประมาณ 20 เท่า ก็แปลว่าคนเข้ามาดูมาส่องตลอด ถามว่ามันเวิร์กมั้ย มันก็เวิร์ก เรารู้เลยว่าแปลว่าเป็นคนที่น่าจะไปได้นะโฆษณาหรืออะไรก็ว่าไปหลายทาง มันอยู่ที่แบรนด์จะเข้าใจมั้ยรวมไปถึงตัวอชิจะรับมั้ย (ถ้าน้องรับมองว่ามีโอกาสไปตัวท็อป เพราะขนาดนิ่งๆ ยอดยังขนาดนี้ ถ้าขยับนิดนึงยอดคงขึ้นไปสูงอีก?) ใช่ เขาโพสต์น้อยมากจริงๆ จนผมต้องบอกว่า อชินี่เราไปญี่ปุ่นโพสต์ครั้งเดียวเหรอ เขาก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ”
เสียดายโอกาสและเงินที่เข้ามามั้ย? “ก็เสียดาย แต่ก็ไม่แน่ เพราะเราก็ไม่รู้ว่ามันอาจจะทำถูกก็ได้ ก็โฮลด์ไว้แล้วทีเดียว แทนที่จะออกมาเรื่อยๆ มันก็อาจจะเป็นวิธีคิดที่ถูกเพราะว่าเรายังไม่ค่อยเจอเอ็นเกจเมนต์ขนาดนี้กับฟอลโลว์เวอร์ที่ไม่ถึงล้านแต่คนไลก์ครึ่งล้าน (แต่โพสต์น้อย) ไม่เข้าใจเขาจริงๆ”.