"ฟร้อง-เอ้ ชุติมา" เผชิญหน้าผลัดกันแฉยับ แม่ฝ่ายชายเดือด ลั่นไม่อโหสิ

Home » "ฟร้อง-เอ้ ชุติมา" เผชิญหน้าผลัดกันแฉยับ แม่ฝ่ายชายเดือด ลั่นไม่อโหสิ
"ฟร้อง-เอ้ ชุติมา" เผชิญหน้าผลัดกันแฉยับ แม่ฝ่ายชายเดือด ลั่นไม่อโหสิ

กรณี ฟร้อง-ศุภกิจ ประสงค์ ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูก เอ้-ชุติมา นัยนา อดีตแฟนสาว เอารถไปซ่อน ไม่จ่ายค่างวด จนทำให้ถูกไฟแนนซ์จ่อฟ้อง ส่วนบ้านก็ปล่อยให้ธนาคารยึดไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยซื้อในชื่อของตนเหมือนกัน มองว่าถูกกลั่นแกล้งทำให้เสียเครดิต 

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 3 ก.ค. 66 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ เอ้ ชุติมา มาพร้อม ทนายวัลลภยืนนาน เผชิญหน้า ฟร้อง ศุภกิจ และ แม่วรรณ คุณแม่ของฟร้อง และ ทนายรัชพล ศิริสาคร  

หลังเลิกราได้เจอกันมั้ย?

เอ้ : เจอช่วงแรกๆ ค่ะ แต่ไม่ได้เจอกันนานแล้วค่ะ 

เลิกนานแค่ไหน?

ฟร้อง : น่าจะ 8 เดือนครับ 

ธรรมดาเรียกเขาเอ้?

ฟร้อง : เรียกพี่เอ้ครับ 

เอ้ : ไม่ใช่ค่ะ ตอนคบไม่ได้เรียกพี่เอ้ค่ะ 

เรียกเมียจ๋า?

เอ้ : ไม่เคยค่ะ ไม่มี เรียกชื่อธรรมดา มีที่รักอะไรบ้าง 

คบหานานแค่ไหน?

ฟร้อง : 6 ปีครับ ตอนนี้อายุ 25 ครับ 

คบตอนฟร้องอายุ 19 อยู่ด้วยกันเลยมั้ย?

ฟร้อง : ช่วงปีแรกๆ ใช่ครับ 

บ้านตกลงซื้อร่วมกัน?

ฟร้อง : ตอนนั้นเช่าคอนโดอยู่ด้วยกัน แล้วมาซื้อบ้าน 

ใครคิดจะซื้อบ้าน?

ฟร้อง : ช่วงนั้นช่วงโควิด อยู่คอนโดต้องปนลิฟต์กัน ก็ปรึกษาพี่เอ้ว่าซื้อบ้านมั้ย ก็เหมือนรับปากว่าจะอยู่กับพี่เอ้ตลอดนั่นแหละ จะอยู่กันยาวๆ ไม่นอกใจ ไม่อะไรเลย ก็เลยพาพี่เอ้ไปดูบ้าน 

ซื้อบ้านราคาเท่าไหร่?

ฟร้อง : 4.2 ล้านครับ 

ซื้อเป็นชื่อใคร?

ฟร้อง : เป็นชื่อของผมครับ 

ทำไมซื้อเป็นชื่อฟร้อง เอ้เป็นคนจ่ายตังค์?

เอ้ : ใช่ค่ะ ตอนคบด้วยก็อยากให้น้องมีทุกอย่าง แล้วด้วยความน้องอายุน้อยกว่า เอ้ไม่ใช่ติดเครดิตอะไรนะคะ แต่พอน้องอายุน้อยกว่า จะได้ผ่อนในราคาที่ถูกลง แล้วเราตกลงจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ดังนั้นเราอยากให้น้องมีทรัพย์สมบัติเป็นของตัวเอง เพราะน้องก็บอกว่าเขาอายุน้อย แต่อยากมีสมบัติเป็นของตัวเอง เราก็บอกว่าได้ ก็ช่วยผ่อนให้ โดยดาวน์ก่อนแล้วผ่อนให้ ดาวน์เท่าไหร่จำไม่ได้ ผ่อนเดือนละ 20, 500 บาท 

ซื้อมากี่ปีแล้ว?

ฟร้อง : ไม่เกิน 2 ปีครับ ประมาณปีกว่าๆ 

ใครเป็นคนผ่อน?

ฟร้อง : พี่เอ้ผ่อน แต่ชื่อผม เพราะแบงก์หักในบัญชีผม พี่เอ้โอนเงินเข้าบัญชีผมครับ 

หลังจากนั้นไปซื้อรถร่วมกันอีก?

ฟร้อง : รถซื้อก่อน ตอนนั้นผมมีรถมาสด้า 2 หนึ่งคัน มันใช้งานหนัก ที่บ้านก็ซื้อรถให้อีกคัน ก็ถามว่าพี่เอ้จะซื้อรถมั้ย เพราะจะได้ดูดีหน่อย เวลาไปกองถ่าย 

ตอนนั้นคุณเรียกพี่เอ้เหรอ?

ฟร้อง :   ไม่ครับ 

เอ้ : ตอนนั้นเรียกว่าที่รัก ตอนนี้ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะเขามีคนของเขาแล้ว เราก็ต้องเกรงใจด้วย ไม่ยุ่งกันค่ะ

อดีตเล่าได้เลย ว่าที่รักอยากได้รถ แต่ตอนนี้ไม่กล้าเรียกที่รักแล้วเหรอ?

ฟร้อง : ก็จบกันแล้ว เลิกกันแล้ว 

เอ่ยคำนี้ไม่ได้ ทำไมเหรอ กระดากหัวใจเหรอ?

ฟร้อง : (หัวเราะ) 

แนะนำพี่เอ้ว่าเอารถมั้ย แล้วไงต่อ?

ฟร้อง : ก็ถามว่าพี่เอ้เอารถมั้ย เอารถยุโรปหน่อยจะได้ขับไปออกรายการ กองถ่าย จะได้ดูดีหน่อย ฟร้องบอกว่าฟร้องไม่เอารถนะ เพราะฟร้องมีบ้านมีรถอยู่แล้ว ที่กาญจนบุรี คือสมบัติฟร้องไม่เอาอยู่แล้ว แค่ใช้ชื่อฟร้องเท่านั้น ฟร้องบอกพี่เอ้ตลอด ถ้าสมมติเลิกกัน ฟร้องยินยอมให้พี่เอ้อยู่แล้ว สามารถเปลี่ยนชื่อได้เลย บอกมาตลอด 

ตกลงซื้อรถบีเอ็ม ราคาเท่าไหร่?

ฟร้อง : ตอนนั้น 1,080,000 บาท พี่เอ้ดาวน์รถ 2 แสนกว่า ผ่อนเดือนเกือบ 2 หมื่น 

เท่ากับเดือนนึงเอ้ผ่อนเดือนละ 4 หมื่นกว่าบาท?

เอ้ :  ไม่ใช่แค่นั้น ส่งเขาเรียนด้วยค่ะ ส่งมา 6 ปีแล้วค่ะ ยังไม่จบ 

ทำไมดูนิ่งๆ?

เอ้ : อยากให้พูดความจริงทั้งหมด ที่มาออกรายการก็อยากให้สัมคมฟังเอ้ด้วย ว่าเอ้พูดตรงมาก การอยู่วงการได้เกือบ 40 ปี เอ้ไม่เคยโกหกใครนะคะ แล้วเอาความจริงมาพูดกันค่ะ นักข่าวคนดูดูแป๊บเดียวเขารู้ คนดูทั้งบ้านทั้งเมืองไทยก็ต้องรู้ เอ้ส่งน้องเรียนค่ะ ทุกอย่างเอ้ให้อนาคตน้องจริงๆ ความรักกันไม่อยากให้สาดใส่กัน มันเป็นเรื่องคนสองคน หลายคนไม่รู้ข้อเท็จจริง ก็อยากให้มาฟังข้อเท็จจริงวันนี้ ตอนรักกันอะไรก็ดูดีหมดแหละค่ะ ตอนจบก็อยากจบให้ดูดี แต่ในเมื่อน้องเขาขึ้นมาฟ้องร้อง ขอความเป็นธรรม วันนี้เอ้ขอความเป็นธรรมคืนค่ะ 

ทั้งรถ ทั้งบ้านเป็นชื่อคุณ ประเด็นที่เกิดขึ้น พอเลิกกัน แล้วเกิดอะไรขึ้น?

ฟร้อง :  พี่เอ้เอารถไปแต่ไม่ยอมผ่อน ตอนเลิกกันพี่เอ้กลับไปอยู่ได้ 3-4 เดือนก็ไม่ผ่อน ก็เลยถามว่าจะเอามั้ย ก็บอกว่าไม่เอา งั้นให้พี่เอาคืนไปดีกว่า จะได้คืนแบงก์ไป ฟร้องก็ยอมเสียเครดิต 

ทำไมไม่ผ่อนบ้าน ตอนนั้นคบหากันอยู่มั้ย?

ฟร้อง : เลิกกันแล้ว ผมทิ้งบ้านทิ้งรถให้พี่เอ้เลย ผมกลับไปอยู่ที่บ้านที่กาญจนบุรี 

เอ้ : เอาความจริง เอ้อยู่ในบ้านนั้น และเอ้เป็นคนผ่อนบ้าน ดาวน์บ้านทุกอย่าง เอ้ออกจากบ้านนี้โดยเอ้ทนพฤติกรรมเขาไม่ไหว เอ้ก็เลยขอเลิก และไม่กลับไปบ้านหลังนั้นเลย 3 เดือน ให้เขาอยู่ในบ้านหลังนั้นที่เราซื้อด้วยกัน แต่เป็นเงินเอ้นะคะ เอ้ออกมาแต่ให้น้องอยู่ในบ้านหลังนั้น แต่เอ้ยังต้องจ่ายค่าไฟของบ้าน 

แม่วรรณ : ไม่ใช่แล้วค่ะคุณ คุณเขียนมาวันนั้นเอง ว่าช่วยกรุณาเอาลูกกลับบ้านด้วย ฉันไม่เอาแล้ว แล้วคุณจะมาพูดได้ไงว่าฟร้องอยู่บ้านคุณสามเดือน 

ฟร้อง :   ไม่ได้อยู่ครับ 

แม่วรรณ : คุณไล่วันนั้นเลยจ้า 

เอ้ : ไม่ได้ไล่ค่ะ 

แม่วรรณ : อย่า คุณอย่าสตออย่างนี้เอ้ คุณสตอนะเนี่ย 

เอ้ : (ยิ้ม) เราไม่ได้บอกว่าน้องอยู่ทุกวัน เราไม่ได้เข้าไปเช็กในบ้าน ถูกมั้ยคะ สามเดือนที่เอ้ทิ้งบ้าน เอ้ไม่รู้ว่าน้องอยู่ทุกวันหรือไม่ทุกวัน ไม่ได้อยู่ในบ้าน แต่เอ้พูดถึงว่าเอ้ยังต้องจ่ายค่าไฟอยู่ใน 3 เดือนนั้นเพราะบ้านไม่ได้จ่ายค่าไฟค่าน้ำ แต่ในสามเดือน เราไม่รู้ว่าน้องอยู่ในบ้านตลอดมั้ย เพราะเอ้ไม่ได้เข้าไปดู เอ้ทิ้งตรงนั้นไปเลย ฉะนั้นเอ้ไม่รู้เรื่องอื่น อยากบอกว่าทำไม

แม่วรรณ : (ตบมือ) เยี่ยม เขานักแสดง ทำได้ทุกอย่าง 

เอ้ : บางอย่างชีวิตจริงก็ไม่ใช่ละครนะคะ ไม่จำเป็นต้องแสดงตลอด มันคือความจริงค่ะ 

แม่วรรณ : อ๋อ จ๊ะ 

เอ้ : ตอนคบกันก็มีอะไรดีๆ เนอะ ตอนเลิกกันประชาชนไทยเขาฟังกันเยอะ มันไม่ดีค่ะ 

ฟร้อง : ฟร้องแค่มาถามว่าทำไมถึงแกล้งฟร้อง ไม่ยอมผ่อนรถ ฟร้องก็ถามเพื่อนพี่เอ้ทุกคนเลยว่าจะเอารถมั้ย ฟร้องก็เสีย แค่นั้นเอง ที่ฟร้องมาแค่นั้นเอง 

เอ้ :  เข้าในค่ะ คุณอาจไม่ได้ฟัง แต่คุณฟังยาวๆ นะคะ เรื่องบ้านเอ้กลับไปบ้าน น้องไม่ได้อยู่แล้วนะคะ ก็บอกว่าในเมื่อไม่ผ่อนแล้ว เอ้จะออกจากบ้านให้ แต่เอ้ขอเวลา 60 วัน คนเราออกจากบ้านต้องใช้เวลาในการหาบ้านใหม่ย้ายของ ช่วงนั้นเอ้เล่นละครด้วย มีงานเยอะแยะ ไม่มีเวลามานั่งเก็บของ ไม่มีเวลาจริงๆ ค่ะ ก็ขอเวลาเขา ทางนี้ก็บอกว่าให้เวลา 30 วันย้ายออกให้หมด วันดีคืนดี ในบ้านก็จะมีคุณเขางัดบ้านเพื่อมาตรวจสิ่งของในบ้าน ซึ่งเราอยู่กับลูกบุญธรรมสองคน เราก็จะผวามากว่าอ้าว ทำไมเข้ามาได้ เขาบอกคุณต้องย้ายภายใน 30 วัน และของที่คุณย้ายได้ก็แค่เสื้อผ้าเอ้เท่านั้น 

บ้านนั้นเป็นชื่อเขา แต่คุณเป็นคนจ่าย พอเลิกกันเขาบอกให้คุณออกไป?

เอ้ : ถูกค่ะ ภายใน 30 วันต้องออก และห้ามขนอะไรไป นอกจากเสื้อผ้าเท่านั้น 

จริงมั้ย?

แม่วรรณ : จริงค่ะ แม่เป็นคนบอกเอง เพราะเขาไม่ผ่อนเลย ตอนเลิกกันเขาผ่อนแค่เดือนเดียว แล้วอีก 3-4 เดือนไม่ผ่อนเลย เราก็คิดว่าอ้าว ถ้าคุณอยู่บนความทุกข์ของลูกเรา คุณจะอยู่เพื่ออะไร 

พอเขาหยุดผ่อนไป 3 เดือน เรื่องเดือดร้อนมาถึงเราแล้ว เพราะเราก็ไม่ได้ผ่อนเหมือนกัน?

แม่วรรณ : เราจะให้แบงก์ยึดไปเลย เพราะเราอยากจบเลยไงคะ 

ทำไมไม่ทำเรื่องโอนบ้าน?

แม่วรรณ : ก็เขาไม่ยอมเปลี่ยน 

ฟร้อง : บอกพี่เอ้ตลอด ว่าเลิกกัน เปลี่ยนชื่อได้แล้ว เพราะฟร้องไม่อยากอยู่แล้วทั้งบ้านและรถ 

ทำไมไม่เปลี่ยน?

เอ้ : มันยังเปลี่ยนไม่ได้ ทุกอย่างต้องการใช้เวลา เพราะเราอายุเยอะ การผ่อนบ้านต้องใช้เวลาในการทำสเตทเมนต์ เข้าแบงค์ อายุเยอะการผ่อนต้องใช้เวลา ฉะนั้นต้องให้เวลาเราด้วย ทีนี้พอความที่เอ้ยังไม่ได้ออก ขอเวลายืด วันดีคืนดีคุณลูกก็งัดเข้ามาในบ้านเรา เข้ามาดูโน่นดูนี่ ซึ่งเอาตามหลักความจริง การที่เราจะย้ายบ้าน เฟอร์นิเจอร์ที่เราจ่ายมาตลอด ไมโครเวฟ ทีวี ตู้เย็น เราสามารถเอาไปได้ใช่มั้ยคะ 

ทนายวัลลภ : ทรัพย์สินตรงนี้เป็นอสังหาริมทรัพย์ มันสามารถเคลื่อนที่ได้ ฉะนั้นเวลาบ้านถูกยึด เขายึดไปแต่ตัวบ้านกับที่ดิน พวกสิ่งที่ติดอยู่กับตัวบ้าน ทีวี ตู้เย็นเขาไม่ได้ยึดหรอกครับ มันเป็นทรัพย์สินที่คุณเอ้ซื้อมา เป็นกรรมสิทธิ์ของคุณเอ้อยู่แล้ว

ทนายรัชพล : เป็นไปตามนั้น เพราะเป็นทรัพย์สินคุณเอ้ สามารถเอาออกไปได้อยู่แล้ว 

แล้วทำไมทางนี้บอกไม่ให้เอาออก?

แม่วรรณ : ทีแรกเราคิดว่าฟร้องเสียหายทุกอย่างเลย แล้วคุณเอ้จะเอาไปได้ยังไง เราจะให้บ้านโดนยึดไปเลย แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าเขาสามารถเอาออกไปได้

เอ้ : วันที่ออก จะได้ยินเสียงที่เขาให้เอ้ออก เขามาบ้านเอ้โดยที่เอ้ไม่รู้ตัวนะ เขางัดบ้าน (เปิดคลิป) เขาให้เวลาเอ้ย้ายบ้านใน 30 วัน 

คุณเอ้นำมายืนยันข้อเท็จจริงว่าปะทะคารมไปแล้วครั้งนึง?

เอ้ : ใช่ค่ะ แต่ตอนนั้นคุณแม่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ เขาอยู่ในสาย แต่เขาบอกว่าให้เอ้ย้ายออกโดยห้ามขนอะไรออกไปเลย แม้แต่เสื้อผ้า แล้วเขาบอกว่าเขามีทนาย มีตร. จะล็อกบ้านได้ตลอดเวลา บ้านเป็นชื่อลูกเขา ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ออกภายใน 30 วัน เอ้ก็ไม่เข้าใจว่าให้เวลาเอ้หน่อย คุณผู้ชมทั้งประเทศคงเห็นว่าเอ้เก็บบ้านหมดแล้ว แต่ขอเวลาผู้หญิงคนนึงหาที่อยู่ใหม่ หาอะไรใหม่ แล้วเขาไม่ให้เอ้ขนอะไรออกไปเลย แล้วเอ้ผิดอะไร จนต่างคนต่างโมโหกัน ด้วยความโมโหใส่กัน เอ้ไม่เข้าใจว่าทำไมเอ้ย้ายเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้ 

เรื่องบ้านจะเอายังไง?

เอ้ : บ้านจบแล้วค่ะ 

ฟร้อง : ให้เขายึดไปแล้ว 

ไม่ติดใจเรื่องบ้าน แต่เรื่องรถเป็นประเด็น เพราะคุณไปร้องว่าเขาเอารถไปซ่อน ทั้งที่เป็นชื่อคุณแล้วเขาไม่ผ่อน?

เอ้ : เขารู้อยู่แล้วว่าเอ้ขับรถไม่เป็น เอาไปก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเอ้ แล้วรถคันนี้เป็นคันที่ฟร้องอยากได้ ฟร้องพาเอ้ไปศูนย์รถมือสอง ไปดูรถคันนี้ เขาบอกเขาอยากมีรถดีๆ หรูๆ ที่บ้านเขามีอยู่แล้วคันนึง เอ้ก็เลยเอาคันนี้มา 

ตอนนี้เอ้กับฟร้องพูดไม่ตรงกัน ตอนแรกฟร้องบอกว่าเอ้อยากได้รถคันนี้ แต่เอ้บอกว่าฟร้องอยากได้ ตกลงเอ้อยากได้หรือฟร้องอยากได้?

ฟร้อง : ตอนแรกคุยกันต่างคนต่างนั่นแหละค่ะ ลงความเห็นว่าอยากได้ แต่ฟร้องก็ปรึกษาพี่เอ้นะ จะไหวมั้ย จะผ่อนไหวมั้ย ถามตลอด ฟร้องก็เป็นห่วงแหละ เหมือนซื้อมาแล้วจะผ่อนไหวหรือเปล่า 

เรื่องเกิดเพราะรถหายไปแล้ว และเป็นชื่อเรา ทำไมเอ้ไม่ให้เขาไป?

เอ้ : รถไม่ได้อยากได้เพราะขับไม่เป็นอยู่แล้ว ที่ทางโน้นมาว่าเอ้ยักยอกทรัพย์หรือกลัวเอ้เอารถไปชำแหละ เอาไปจำนำ เอาความจริง สมมติเอารถไปจำนำขึ้นมา ตามกฎหมายแล้วต้องเป็นชื่อเจ้าของรถไม่ใช่ชื่อคนอื่น หรือสมุดเล่มก็อยู่ที่ไฟนแนนซ์ คนที่จะรับจำนำ ถ้ามารับจากเอ้คือรับของโจร ถูกมั้ยคะ 

เขากลัวเอาไปขายเถื่อน?

เอ้ : เรามีชื่อเสียงขนาดนี้ เราจะแลกมั้ย เราจะทำเพื่ออะไร 

ฟร้อง : แล้วถามว่าจะคืนรถมั้ย ทำไมถึงไม่บอก 

เอ้ : แล้วคุณรู้มั้ยว่าเราคืนรถหรือยัง ให้ทนายพูดนิดนึงค่ะ 

ทนายวัลลภ : เรื่องการคืนรถ มันมีระยะเวลาอยู่ ว่าทำไมนานจังไม่คืนสักที มีช่วงระยะเวลาที่คุณเอ้ต้องขนของออกจากบ้าน ต้องหาที่อยู่ใหม่ก่อน ถามว่ารถสำคัญมั้ย ก็สำคัญ แต่เป็นเรื่องรอง ฉะนั้นแกก็ไม่ได้อยากได้ตั้งแต่แรกแล้วนะครับ ประกอบกับแกทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะชื่อเป็นชื่อคุณฟร้อง แม้ทะเบียนรถที่หายไป ไปขอใหม่ก็ไม่ได้

ตอนนี้รถอยู่ไหน?

ทนายวัลลภ : อยู่ที่สภ.คลองหลวง เอาไปไว้แล้ว ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนตั้งแต่เมื่อวาน 

แม่สบายใจขึ้นมั้ย?

ทนายรัชพล : ถ้าคืนตั้งแต่แรกเขาก็คงไม่ออกมาแล้วไง อันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงคืนช้า 

กลั่นแกล้งทำให้เขาเสียเคริตหรือเปล่า แม่มองอย่างนี้ถูกมั้ย?

แม่วรรณ : ถูกค่ะ 

เอ้ : รถตั้งแต่ดาวน์มาและผ่อน คุณฟร้องเป็นชื่อเขา เขาสามารถรีไฟแนนซ์เอาเงินเข้าไปที่ตัวเขาตลอด เอ้ถามตลอดเมื่อไหร่จะผ่อนจบคะ

รถคันนี้ซื้อเป็นเงินผ่อน ซื้อเป็นชื่อฟร้อง เอ้ก็ผ่อนไปเรื่อยๆ ไปๆ มาๆ ฟร้องเอาไปรีไฟแนนซ์ เอาเงินเข้าตัวเอง แล้วเอ้ก็ผ่อนต่ออีก ฟร้องก็เอาไปรีไฟแนนซ์อีก?

เอ้ : รีแรก 4 แสนค่ะ 

ฟร้อง : รีแรกพี่ก็อยู่กับฟร้องที่บ้าน 

เอ้ : อย่ามาอ้าง เพราะเงินอยู่ที่ฟร้องหมดค่ะ 

ฟร้อง : ตอนอยู่กับพี่เอ้ พี่เอ้ต้องจ่ายเหรอ ฟร้องต้องจ่ายเพราะเป็นชื่อฟร้อง ฟร้องต้องจ่ายแบงก์ 

เอ้ : เอ้ไม่ได้ให้เงินฟร้อง เฉพาะตอนฟร้องรีไฟแนนซ์นะคะ ทุกอย่าง ไม่ว่าทำงานมาได้เท่าไหร่ ไม่ว่าอะไรก็ตาม เอ้มีสลิปหมด เอ้โอนให้ศุภกิจ ประสงค์หมด ตัวเอ้เองแต่ไม่มีติดตัว ทุกอย่างอยู่ในแบงก์หมด 

ฟร้อง : เงินอยู่ที่บัญชีฟร้อง ฟร้องก็ต้องจ่ายภาระของพี่เอ้ ทั้งบ้านทั้งรถ ที่พี่เอ้ติดโน่นนี่นั่น 

เอ้ : แล้วทำไมคุณไม่เล่าล่ะคะ ว่าที่เหลือที่อยู่ที่แบงก์ คุณเอาไปทำอะไรคะ 

เอาไปทำอะไร?

เอ้ : เปิดหลักฐานเลยค่ะ ว่าคุณเอาไปทำอะไรโดยเอ้ไม่รู้ตัว คุณฟร้องรู้อยู่แล้วนี่คะ 

เปิดเลย ปั่นบาคาร่า คืออะไร?

ฟร้อง : ผมโดนโกงปั่นบาคาร่า 

1 หมื่นคืออะไร?

ฟร้อง : เหมือนรับจ้างปั่นบาคาร่า แต่ผมไม่ได้เล่นนะ 

แม่วรรณ : แม่ว่าฟร้องทำคนเดียวไม่ได้ ที่แม่รู้ปั่นบาคาร่า ลูกเราไม่เคยเล่นการพนัน ส่วนตัวเอ้เล่นหวยเล่นอะไรกับแม่ แทงทีครั้งเท่าไหร่ 

เล่นหวยเป็นเรื่องปกติ?

แม่วรรณ : พูดถึงติดหนี้เราเท่าไหร่ 

ปั่นบาคาร่า 2.5 แสนคืออะไร?

ฟร้อง : ผมโดนโกงก่อนผมเอารถไปรีไฟแนนซ์ ตอนนั้นช่วงโควิด มีคนทักมาหาผม สนใจร่วมลงทุนมั้ย ปั่นโน่น ปั่นนี่นั่น ผมเลยหลงเชื่อ 

คุณไปปั่นบาคาร่าแล้วโดนหลอกเหรอ?

ฟร้อง : ผมไม่เล่นการพนันอยู่แล้ว ตอนนั้นผมโดนหลอกจริงๆ แม่ผมก็รู้ว่าผมไม่ชอบเล่นการพนัน 

แม่วรรณ : ช่วงนั้นพี่เอ้ไม่มีงานเลย ฟร้องพยายามหางาน หาเงินช่วย เราก็ไม่รู้ว่าเด็กเขาคิดยังไง แต่ลูกเราไม่เคยเล่นการพนัน ตัวแม่ (หมายถึงเอ้) เขาเล่นอยู่แล้วไง 

เขาชอบเล่นหวย?

แม่วรรณ : เล่นทุกอย่าง 

ฟร้อง : เล่นรูเล็ต พนันออนไลน์ 

แม่วรรณ : ยังจับเราเล่นไพ่ยี่กีกับเขาเลย 

ไพ่ยี่กีคืออะไร?

ฟร้อง : หวยยี่กี่ เป็นหวยออนไลน์ 15 นาทีออกที น่าจะใช่   

เอ้ : (ส่ายหัว) เขารู้มากกว่าเรา เรายังไม่รู้เรื่องเลย เอาเป็นว่าหวยเราเล่นเพราะคุณแม่เขาเป็นคนรับแล้วส่งเจ้าใหญ่ เขาได้เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ เราเป็นลูกสะใภ้ เราต้องการหายอดช่วยเขามีรายได้ จากใจเลยค่ะ 

แม่วรรณ :   (หัวเราะ) อย่าเลยคุณเอ้ คุณเล่นกี่เจ้า งวดนึงเราต้องเป็นคนนั่งจ่ายให้คุณทุกงวด ครั้งสุดท้ายเท่าไหร่ 1.5 แสน

เอ้ :  โห เหรอคะ ยังติดหนี้อยู่เหรอคะ 

แม่วรรณ : ไม่ติด แต่อยากพูดให้ฟัง เพราะคุณวกมาทางนี้ 

เอ้ : แล้วลูกคุณเอาเงินดิฉันไปหมด ไปเล่นบาคาร่าอะไรไม่รู้ ไปปั่นกันเอง เสียไป 8.4 แสน 

แม่วรรณ : คุณเล่นหวยเท่าไหร่ ให้ลูกเราจ่ายให้ทุกที 

เอ้ : ลูกคุณมีรายได้จากไหนคะ ถึงต้องมาจ่ายให้ เงินดิฉันอยู่ที่ลูกคุณหมดค่ะ 

แม่วรรณ : คุณจ้างลูกเราเป็นผู้จัดการไม่ใช่เหรอ 

เอ้ : ฉันมีผู้จัดการส่วนตัวค่ะ 

ที่เลิกกันเพราะอะไร?

แม่วรรณ : เขาไม่มีตังค์ไง เขาหมดตัว 

หมายถึงเอ้หมดตัว แล้วยังไง ก็เลยเลิกเหรอ?

เอ้ : พอไม่มีเงินก็หมดความหมายเหรอคะ อย่างนั้นเหรอคะ 

ฟร้อง : ไม่ใช่ ผมยังงงว่าผมผิดอะไร ที่พี่เอ้บอกว่าหนีออกจากบ้านไปกับลูกบุญธรรมเขา แล้วทิ้งภาระให้ผม 

เอ้ : เอาเรื่องบาคาร่าของคุณค่ะ 

ทนายรัชพล :   ทำไมคืนช้า เอาเรื่องรถก่อน คืนแต่แรกก็จบแล้ว 

ทำไมถึงคืนช้า ตั้งใจกลั่นแกล้งเขาหรือเปล่า?

เอ้ : ไม่ได้ตั้งใจกลั่นแกล้งเลยค่ะ เพราะทั้งชีวิตมีแต่ให้กับให้จริงๆ ค่ะ

ทนายวัลลภ : เนื่องจากมีระยะเวลาขนย้ายของ อย่างที่กราบเรียนไปเบื้องต้น ต้องหาที่อยู่ใหม่ก่อน

ทนายรัชพล : แล้วเกี่ยวอะไรกับรถ 

ทนายวัลลภ : ทีนี้รถก็ไม่มีโอกาสได้คืนครับ ถามว่าจะคืนมั้ย คืนอยู่แล้ว อาจมองว่ามีการเกาะกระแสเป็นสื่อถึงจะไปคืน จริงๆ ไม่ใช่ อยากคืนตั้งนานแล้ว แต่คุณเอ้แกไม่มีโอกาสได้ทำตรงนี้ เนื่องจากว่าต้องไปหาที่อยู่ใหม่ ต้องเดินทางไปต่างประเทศ และมีงานช่วงนั้น 

เอ้ : เอ้ต่อประกันรถให้ด้วยนะคะ เอ้ไม่ได้มีเจตนาจะเอารถไว้อยู่แล้ว ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะได้ไม่เดือดร้อนเขา

รถคันนี้ใครเป็นคนใช้?

เอ้ : ไม่มีใครใช้ค่ะ จอดเฉยๆ ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนเอาไปใช้ค่ะ 

ฟร้อง : ผมเป็นคนขับรถส่งพี่เอ้ตามรายการ แต่รถผมไม่เอาไปอยู่แล้ว 

ขอแค่โอนให้ถูกต้อง แต่พอไม่โอนให้ถูกต้อง รถหายไป คุณก็เลยซวย?

ฟร้อง : ใช่

เอ้ : ที่ยังไม่คืนรถ ที่เอ้หยุดจ่ายเพราะเอ้กลัวว่าเขารีไฟแนนซ์อีก เพราะเอ้ก็จะผ่อนไม่จบสักที ตอนนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ เอ้คืนบ้าน คืนรถให้เขาสบายใจ จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันค่ะ 

รถจะไปเอามั้ย?

ฟร้อง : ต้องไปเอาครับ 

ทนายรัชพล : เดี๋ยวหารือกัน ก็น่าจะเอาแหละครับ 

ผ่อนต่อมั้ย?

แม่วรรณ : จะให้ไฟแนนซ์ยึดไปเลยค่ะ ทุกอย่างยึดให้หมด

ทนายรัชพล : จริงๆ มีสัญญาอยู่ว่าคุณเอ้จะรับผิดชอบผ่อน ผมสงสัยอยู่ว่ายังไง   

สัญญาทำขึ้นระหว่างเอ้กับฟร้อง เอ้บอกว่ารับช่วงต่อภาระหนี้สินที่เกิดขึ้น รถบีเอ็ม ทะเบียนนี้ โดยเอ้เป็นผู้รับผิดชอบส่งงวดรถตามข้อตกลง ฟร้องไม่มีส่วนได้เสียรถยนต์ยี่ห้อนี้เลย กรณีเอ้ชำระหนี้รถยนต์จนครบจำนวนแล้ว ฝั่งฟร้องจะมีหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ?

ทนายรัชพล : ก็คือคุณเอ้มีหน้าที่ผ่อนให้จบ พอผ่อนจบคุณฟร้องก็โอนให้เขาแค่นั้นเอง 

เอ้ : ค่ะ ที่ใช้ชื่อน้องเป็นสิทธิครอบครอง เพราะเอ้เองอายุเยอะ ถ้าน้องผ่อน ระยะเวลาจะยาวขึ้น ให้สิทธิ์ครอบครอง ไม่ได้ให้ด้วยเสน่หา เอ้ถึงทำขึ้นมา อันนี้เป็นสัญญาที่ไม่ใช่ทนายทำนะคะ ทำกันเอง แล้วไม่มีสำเนาบัตรประชาชน มีแค่ลายเซ็นแต่ละคนเท่านั้น ไม่มีสำเนาบัตรประชน ทะเบียนบ้านแนบ 

ทนายรัชพล : ที่น้องเรียกร้องคืออยากให้คุณเอ้ผ่อนต่อให้จบแล้วเอารถไป 

เอ้ : เอ้เอารถคืนเรียบร้อยแล้วค่ะ เอ้ผ่อนจบแล้ว แต่น้องรีไฟแนนซ์อยู่ตลอดเวลา ความยุติธรรมอยู่ตรงไหนคะ 

ฟร้อง : ตลอดเวลาอะไร รีไฟแนนซ์แค่ครั้งเดียว พี่เอ้ก็อยู่ข้างฟร้องตอนที่แบงก์เอาเอกสารมา

เอ้ : ก็อันนี้คืนหมดแล้วไงคะ

ฟร้อง : ฟร้องช่วยเพื่อการหมุนเงินให้พี่เอ้ การจ่ายค่าบ้านค่ารถ

แม่วรรณ : เอ้ คุณอย่าตอแหลมากสิ รถน่ะคุณยังผ่อนไม่หมดเลย คุณพูดได้ไงว่าคุณผ่อนจบแล้ว

เอ้ : ไม่ได้บอกว่าผ่อนจบแล้ว บอกว่าคืนรถแล้วค่ะ

แม่วรรณ : วันนั้นที่เขาจะซื้อบ้านซื้อรถ เขาโทรไป แม่บอกว่าอย่าซื้อนะ รถบ้าน พี่เอ้จะไหวเหรอซื้อบ้านซื้อรถ เขาบอกว่าไหวค่ะ เพราะตอนนี้เขาเช่าคอนโดอยู่ เขามาซื้อบ้านดีมั้ย เราก็ถามว่ากรณีถ้าเลิกกันจะทำยังไง เขาก็บอกว่าเดี๋ยวเลิกกันเขาก็มีบ้านมีรถอยู่แล้ว เขาเป็นคนพูดแบบนี้มา

เป็นอีกเทปที่อีรุงตุงนังเหมือนกัน แม่ไปด่าเขาตอแหลไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ?

แม่วรรณ : ไม่กลัวหรอก อยากฟ้องฟ้องเลย ถ้าคุณคิดว่าคุณทำถูก ความจริงคือความจริงเอ้ คุณหลบไม่ได้หรอก กรรมตามสนองคุณอยู่แล้ว สิ่งที่คุณทำกับลูกเราเอาไว้ 

แม่โกรธอะไรเอ้เขาขนาดนั้น?

แม่วรรณ : เขาทิ้งภาระหนี้สินให้ลูกเราทั้งนั้น 

แต่เขาก็ผ่อนไม่ใช่เหรอ?

แม่วรรณ : เขาผ่อนตรงไหนเหรอ เขาทิ้งการผ่อน ทำให้ลูกเราเสียเครดิต ทำอะไรไม่ได้เลย 

ที่เขาบอกฟร้องเอาไปรีไฟแนนซ์ เอาเงินเก็บไว้เองจริงมั้ย?

ฟร้อง : ใช่ เพราะแบงก์ต้องโอนให้ผม 

เงินเอาไปทำอะไร?

ฟร้อง : ก็จ่ายค่าบ้านแม่พี่เอ้หนึ่งหลัง บ้านพี่เอ้หนึ่งหลัง รถอีกหนึ่งคัน แชร์พี่เอ้อีก หวยที่เล่นกับแม่ฟร้อง 

เอ้ : ไม่จริงค่ะ บ้านแม่เอ้ไม่จำเป็นต้องผ่อนแล้วเพราะเป็นชื่อพวกเรา ไม่เกี่ยวกัน 

ฟร้อง : ที่ข้องใจทำไมถึงแกล้ง ไม่ยอมคืนรถ  

ทนายรัชพล : มันติดสัญญาอยู่ไง สัญญาเขียนว่าคุณเอ้ต้องผ่อนต่อ แล้วฟร้องคืนรถให้คุณเอ้ 

มันขาดหรือยัง?

ทนายวัลลภ : เรื่องความรับผิดในส่วนแพ่งที่พี่ทนายถามว่าจะรับผิดชอบยังไง ผมขออนุญาตชี้แจงนิดนึงว่าคุณเอ้แกเคยหาคนมาซื้อรถคันนี้ ให้หลุดภาระตรงนี้ไป แต่คุณฟร้องอยากเอารถคืนไฟแนนซ์ ลักษณะตรงนี้ก็จะผิดสัญญาตามข้อ 1.2 ตามเอกสารฉบับนี้อยู่แล้ว ในเมื่อคุณเอ้หาคนมาได้เพี่อปลดภาระตรงนี้ คุณฟร้องก็ยินยอมโอนกรรมสิทธิ์ตรงนี้กับบุคคลนั้นไป เท่ากับว่าการผิดสัญญานี้ไม่ได้เกิดจากคุณเอ้ก่อน ฉะนั้นอยากคืนรถให้เสร็จๆ ไป 

ทนายรัชพล :   จะยอมมั้ย หรือจะเอายังไง 

ฟร้อง : เดี๋ยวกลับไปคุยกับทนายก่อน แล้วก็คุยกับครอบครัว 

คุณจะเอารถกลับไปคืนไฟแนนซ์ สองให้เอ้ผ่อนให้จบตามสัญญา?

ฟร้อง : พี่เอ้น่าจะไม่ผ่อนแล้ว เราก็ตามกรรมที่ผมโดน โดนทั้งแบล็กลิสต์ โดนฟ้องล้มละลาย ก็ต้องยอม 

แม่วรรณ : โดนหมดเลย เขาบอกว่าอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี 

ทนายรัชพล : ถ้าเอารถไปคืนไฟแนนซ์ ไฟแนนซ์จะมาฟ้องส่วนต่างอีกวันหลัง ตรงนี้จะยอมมั้ย 

แม่วรรณ : เรายอมได้เหรอ เราเป็นหนี้อยู่คนเดียว แล้วคนโน้นล่ะ 

เอ้ : ที่ผ่านมาก็จ่ายไปหลายล้านมากแล้วไงคะ ดูแลลูกคุณหลายล้านมาก ส่งให้เรียน กินอยู่เราไม่ว่าเป็นเรื่องความรักกัน ไม่ได้เสียดายตังค์ 

เอ้จะบอกว่าเลี้ยงผู้หญิงมาเยอะแล้ว วันนี้ควรจ่ายไปบ้าง จะได้จบๆ กันไป ถูกมั้ย?

เอ้ : ถูกค่ะ รถบ้านก็ยกให้แล้ว 

ฟร้อง : ทำไมไม่คุยตั้งแต่แรก ฟร้องจะได้ไปเอารถมาและไปคืน ตอนนี้เหมือนแกล้ง 

แม่วรรณ : พอเป็นข่าวก็ดิ้นแล้ว คืนรถแล้ว ทำไมก่อนหน้านี้ไม่คืน ก็แกล้งเราอยู่นั่นแหละ ไม่ยอมคืนรถ 

ตอนนี้คืนแล้วจะยังไงต่อ?

แม่วรรณ : ขอกลับไปปรึกษาทนายก่อนค่ะ 

เอ้ : ยิ่งมาว่าเอ้ยักยอกทรัพย์ จำนำแยกชิ้นส่วนเนี่ย 

ฟร้อง :   ก็ตร.เขาติดต่อแล้ว แต่เขาติดต่อไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ 

เอ้ : ก็คือหนึ่งเอ้ย้ายที่อยู่ เอ้โดนไล่ที่ ดังนั้นเวลาตร.ส่งไปที่อยู่เดิม ก็ไม่อยู่แล้วค่ะ เพราะเขาไล่ที่ออกมาค่ะ จริงๆ คนขอความเป็นธรรมควรเป็นเอ้มากกว่านะ จริงๆ เอ้ไม่ได้เรียกร้องอะไร หรือต้องมานั่งสาดใส่กัน 

แม่หายใจแรงแล้วนะ?

แม่วรรณ : เราไม่เคยขายลูกกินขนาดนี้ คุณไปคิดให้ดีๆ วันแรกที่คุณไปขอลูกเรา คุณทำยังไง คุณไม่มีอะไรเลย คุณไปแต่ตัว และชื่อนางงามของคุณ รถก็รถบ้านเราทั้งนั้น รถเสียไปคันนึงคุณซ่อมมั้ย เสียไปเกือบแสน คุณบอกแค่ว่าทำไงแว้ๆ แล้วเราต้องมานั่งจ่ายอยู่คนเดียว เขาเคยจ่ายมั้ยก็ไม่เคยจ่าย ทำไมไม่ช่วยจ่ายล่ะ ตัวเองเอารถเราไปทำงานทำการ ล่องเหนือล่องใต้ บ้านเราไม่จนขนาดนั้น เราไม่ได้ขายลูกกิน 

สองคนเป็นแฟน คบหาดูใจกัน เขาส่งให้เราเรียนจริงมั้ย?

ฟร้อง : จริงครับ 

ทำไมแม่ไม่ส่งเขาล่ะ?

แม่วรรณ : ก็เขาเป็นคนไปขอลูกเราเอง วันแรกเราไม่รู้ เขามาบอกว่าเขาจะอยู่กับพี่เอ้เป็นแฟนกันนะเราก็บอกว่าคิดดีๆ นะ ไปอยู่กับรุ่นใหญ่กว่า บ้านเราไม่มีใครรับอยู่แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ รุ่นแม่กับรุ่นลูกมาอยู่ด้วยกัน 

เอ้ : แต่ตอนคบเขาก็โอเพ่นนะคะ เขาว่าเราดูแลลูกเขา ขอความกรุณาฟังบ้างนะคะ ขอได้พูดบ้าง เริ่มแรกเลยตอนคบกันแรกๆ เราบอกว่าจะเอาลูกเขามาดูแล จะส่งเรียนเป็นเรื่องปกติ ส่งเรียนเสียเงินค่าเทอม คุณพ่อเขาเป็นข้าราชการก็สามารถเบิกกลับไปได้ เราก็ไม่ได้ยุ่งส่วนนี้ เพราะเราเต็มใจ พ่อเขาน่ารัก เราเต็มใจดูแลตรงนี้อยากให้น้องมีอนาคต พอมาอยู่ด้วยกันเราก็ดูแลทุกอย่าง เขากลับบ้านไปหาพ่อแม่เราก็ไปด้วย แต่ก่อนแม่เขาก็ดูแลเราดี ไม่ได้รังเกียจเรา ไม่ได้อย่างที่พูดว่ารังเกียจคนแก่กว่า คุณยินยอมทุกอย่างให้ฉันอยู่กับลูกคุณ ถ้าคุณไม่ยินยอมหรือไม่รับ ก็คงไม่ให้ลูกคุณมาอยู่กับฉัน 6 ปีกว่านะคะ คุณเอาความจริง คุณก็ยอมรับเราช่วงแรกๆ 

แม่วรรณ : ก็ถูกต้อง แต่ที่เราพูดหมายถึงญาติผู้ใหญ่จ๊ะ เราบอกลูก ลูกรักแม่ก็รัก ถ้าลูกรับได้ในสิ่งที่จะทำอยู่ รับได้ว่าเขารุ่นใหญ่ รุ่นแม่ เราไม่ซีเรียสอยู่แล้ว

สัญญาฉบับนี้ มันน่าจะโมฆะหรือเปล่า?

ทนายรัชพล : ไฟแนนซ์ก็ส่วนไฟแนนซ์ แต่อันนี้เป็นสัญญาที่ผูกพันระหว่างเขาสองคน ถึงแม้ไฟแนนซ์จะยึดรถไป แต่คุณฟร้องใช้สิทธิ์ตามสัญญาไล่เบี้ยกับคุณเอ้ได้

พันธะที่เกิด เกิดจากฟร้องกับไฟแนนซ์?

ทนายรัชพล : ตรงนั้นมีนิติสัมพันธ์กัน เวลาไฟแนนซ์ฟ้อง ก็ฟ้องคุณฟร้อง เขาก็เคลียร์กับไฟแนนซ์ แต่คุณฟร้องใช้สิทธิ์ตามสัญญาเพื่อฟ้องคุณเอ้ได้อีกต่างหาก เพื่อเอาเงินจากคุณเอ้ไปจ่ายให้ไฟแนนซ์

เหมือนสัญญานอกที่ทำกันขึ้นมา?

ทนายรัชพล : ใช่ มีผลผูกพัน มันคนละคดี ไฟแนนซ์ฟ้องอีกคดีนึง สัญญานี้ไม่ผิดกฎหมาย สามารถบังคับได้ 

ทนายวัลลภ : แต่ผมกลับมองว่าใครเป็นคนผิดสัญญาก่อน ตามสัญญาฉบับนี้ อย่างที่กราบเรียนไปว่า ในเมื่อมีคนจะเข้ามารับรถตรงนี้ คุณฟร้องไม่ยอมรับจะเอารถไปคืนอย่างเดียว ฉะนั้นเหตุการณ์ตรงนี้ไม่ได้เกิดจากคุณเอ้ การผิดสัญญาตรงนี้ก็เกิดจากคุณฟร้องก่อน เขาไม่ยินยอมให้เปลี่ยนตัวคนมารับผิดชอบหนี้ก้อนนี้ 

ฟร้อง : พี่เอ้เขาไม่ได้บอกว่าใครจะมารับผิดชอบ 

แม่วรรณ : ไม่รู้เรื่องเลยว่าเขาจะเอาคนมาซื้อ 

ฟร้อง : ผมตามจากทุกคนเลยว่ารถอยู่ไหน เขาบอกไม่รู้เหมือนกัน หาเอาเอง 

ทนายรัชพล : จริงๆ เปลี่ยนคนซื้อไปเลยก็เป็นผลดีกับเรา 

ฟร้อง :   ก็ไม่มีใครมาแจ้งผมเลย 

ทนายรัชพล : สรุปเรารู้มั้ยว่าพี่เอ้จะเอาคนมาซื้อ 

ฟร้อง :   ไม่รู้ครับ ไม่มีใครบอก 

เอ้ : เราไม่ได้ติดต่อกันค่ะ ข้อสำคัญตอนเขามีตร.ตามเราให้ปากคำ เราไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นแล้ว เขาก็ติดต่อไม่ได้ แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะมีหมายจับมา ซึ่งหมายจับต้องมาจากไฟแนนซ์ ซึ่งเอ้คืนรถหมดแล้ว จบหมดทุกอย่างแล้ว 

คุณเอ้เอารถไปจอดที่โรงพักแล้ว คุณฟร้องมีสองข้อให้เลือก เอารถคืนมาแล้วไปปิดกับไฟแนนซ์ซะ ส่วนต่างที่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยคุณก็จ่ายตรงนั้นไป สองคุณเอาสัญญานี้ไปบังคับคุณเอ้เพราะคุณเอ้ยังผ่อนไม่หมด ผ่อนหมดถึงโอนเป็นชื่อคุณเอ้ ถ้าเอากันแบบแมนๆ เป็นพี่ไม่เป็นไร รับเองจะได้จบไป แต่ถ้าคิดว่าไม่ได้ เรื่องยืดเยื้อคุณเสียชื่อ เอ้เอารถคันนี้กลับไปแล้วจัดการเอง ก็เป็นสิทธิ์ของคุณ แม่พูดมาหลายคนสงสัยว่าที่เลิกกันเพราะเอ้หมดตัว คืออะไรเ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ