กองปราบ นำกลุ่มเยาวชน ชี้จุด แอม ไซยาไนด์ จ้างทิ้งหลักฐานสำคัญ ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ก่อนผิดสังเกต หลังทราบข่าว น้องก้อย เสียชีวิต จึงเปิดถุงออกมาดูผงะ
จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.ศิริพร หรือ น้องก้อย อายุ 32 ปี ขณะเดินทางไปปล่อยปลาที่ริมแม่น้ำแม่กลอง ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยครอบครัวร้องขอความเป็นธรรมว่าผู้เสียชีวิตถูกวางยาหรือไม่ หลังมีประเด็นน่าสงสัยหลายอย่าง ทั้งทรัพย์สินหลายรายการที่หายไปและเพื่อนที่มาด้วยกัน กลับขับรถหนีไม่ยอมลงมาช่วยเหลือ และจากการตรวจสอบพบผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งชื่อ น.ส.แอม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 เม.ย.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (กก.5 บก.ป.) ลงพื้นที่นำกลุ่มเยาวชนซึ่งเป็นพยานสำคัญไปชี้จุดเกิดเหตุที่บ้านพักใน ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่ น.ส.สรารัตน์ หรือ น.ส.แอม จ้างวานให้นำถุงดำไปฝังดิน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนจะพาตัวกลุ่มเยาวชนออกไป
ทั้งนี้ หลังจากที่ น.ส.แอม ได้ก่อเหตุสังหาร น.ส.ก้อย เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้หิ้วถุงดำมาให้กลุ่มเยาวชนนำไปฝังดินด้วยเงินค่าจ้าง 500 บาท แต่เยาวชนยังไม่ได้นำไปฝัง ต่อมาได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ น.ส.ก้อย รู้สึกผิดสังเกตจึงเปิดถุงดำดู ก็พบว่ามีกรอบป้ายทะเบียนรถ เอกสารประจำตัวของนายสุทธิศักดิ์ หรือ แด้ อดีตสามีของ น.ส.แอมที่เสียชีวิต
รวมถึงขวดสีขาว ฝาสีแดง ที่ฉลากมีตัวอักษรเขียนว่า UN1680 โดยขณะนั้นกลุ่มเยาวชนไม่ทราบว่าเป็นขวดยาอะไร จึงรีบประสานญาติของนายแด้ ก่อนจะส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ แล้วมาทราบในภายหลังว่าคือสารไซยาไนด์
- อ่านข่าว : อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผย ‘แอม’ มีประวัติการรักษาจิตเวช ช็อกขาดการรักษามา 2 ปีแล้ว
- อ่านข่าว : หมอดู เพื่อนสนิทแอม เผยเคยถูกชวนปล่อยกู้ ช็อก เปิดไพ่ดูดวงตัวเอง
ต่อมาน.ส.แอมเกิดเปลี่ยนใจและติดต่อหากลุ่มเยาวชนอีกครั้ง พร้อมชักชวนให้ไปกินข้าว และว่าจ้างให้นำถุงดำมาคืนที่ จ.นครปฐม ด้วยเงินจำนวน 10,000 บาท แต่กลุ่มเยาวชนเกรงจะเกิดอันตรายจึงปฏิเสธไป กระทั่ง น.ส.แอมถูกจับกุมได้ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กทม. สำหรับสิ่งของที่อยู่ในถุงดำ โดยเฉพาะขวดยาไซยาไนด์ ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่เจ้าหน้าที่จะสามารถนำไปใช้เอาผิดกับ น.ส.แอม ต่อไป