ฝน ธนสุนทร มีชื่อจริงว่า เตือนใจ ศรีสุนทร เกิดเมื่อ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517 ที่ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ในครอบครัวยากจนที่มีสมาชิกมากถึง 10 คน โดยพ่อถีบสามล้อ และแม่หาบของขาย ฝนเป็นลูกคนโตต้องช่วยครอบครัวหารายได้ทุกทางที่พอจะทำได้ ชีวิตในวัยเด็กนั้น ฝนรับจ้างเก็บขยะเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว และลำบากจนกระทั่งเคยขอข้าววัดรับประทานมาแล้วในวัยเด็ก
ระหว่างปี 2524-2529 เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนมุขมนตรีช่วงปี 2531-2536 เรียนชั้นมัธยมที่ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีจนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และจบปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ จากวิทยาลัยปทุมธานี
เข้าวงการแต่ไม่เปรี้ยง
ฝน ธนสุนทร มีปู่เป็นผู้ฝึกฝนการร้องเพลงลูกทุ่ง เนื่องจากเคยเป็นนักร้องเชียร์รำวงเก่า เริ่มหารายได้จากการร้องเพลงตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 เมื่อมีผู้ที่ชื่นชอบหน้าตาที่สะสวยของเธอ เข้ามาจีบ โดยนำเรื่องการว่าจ้างให้เธอไปร้องเพลงตามงานเลี้ยงต่างๆ มาเป็นข้ออ้าง แต่เสียงของเธอก็เป็นที่ยอมรับของคนที่ได้ฟัง ทำให้เธอมีงานมาเรื่อยๆ ในช่วงเดียวกันนั้นเธอเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการประกวดมิสทีนโอเล่และได้ตำแหน่งมาครอง หลังจากนั้น จึงได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาลูกอมโอเล่
ต่อมาสมัยเรียนชั้นมัธยมปีที่ 6 เธอได้รับเชิญให้ไปบันทึกเทปเพลงที่จัดทำขึ้นเพื่อฉลอง 100 ปีจังหวัดอุดรของทางจังหวัด โดยเธอได้ร้อง 3 เพลง คือกราบเท้าพ่อหลวง, อุดรฯ มีของดี และเพลง 3 ส.โดยได้รับค่าเหนื่อยมา 500 บาท ซึ่งการทำงานในงานเพลงชุดนี้ ทำให้อาจารย์ปรีชา อรัญวารี นักจัดรายการวิทยุในสังกัดของบริษัท ชัวร์ออดิโอ ที่อุดรบ้านเกิด และได้ชักนำเธอเข้าสู่การเป็นนักร้องอาชีพเต็มตัว
ฝนได้เซ็นสัญญาเป็นเวลา 4 ปี กับบริษัท เคลฟเวอร์เอนเตอร์เทนเม้นท์ บริษัทในเครือของชัวร์ออดิโอ ที่เน้นทำเพลงแนวสตริง เนื่องจากทางต้นสังกัดเห็นว่าหน้าตาของเธอเหมาะกับแนวเพลงแบบนี้มากกว่า ซึ่งฝนก็ทำงานกับเพลงแนวนี้ได้ดี โดยมีผลงานเพลงออกมาในแนวป็อป 2 ชุด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 คือ “มุมหนึ่งของหัวใจ” และ “สายฝนแห่งความรัก” โดยใช้ชื่อนักร้องว่า “ฝน ธนสุนทร” นับแต่นั้นมา แต่ผลงานทั้งสองชุดดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร บริษัทจึงตัดสินใจเปลี่ยนแนวมาให้เธอมาลองร้องเพลงลูกทุ่งตามแนวที่เธอถนัด โดยให้เริ่มร้องเพลงคู่กับมนต์สิทธิ์ คำสร้อย และเกษม คมสันต์ ในชุด “เกี่ยวก้อย” ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากแฟนเพลงมากขึ้น
ประสบความสำเร็จจากเพลงลูกทุ่ง
จนในที่สุดก็มีผลงานเดี่ยวออกมาในปี พ.ศ. 2542 ชื่อชุด “ฮักอ้ายโจงโปง” ก่อนจะมาประสบความสำเร็จล้นหลามกับชุด “ใจอ่อน” ทำให้เธอดังเป็นพลุแตก ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเธอก็ผลิตผลงานลูกทุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องจวบจนถึงปัจจุบัน และได้รับความสนใจจากแฟนเพลงมากมาย และทำให้เธอขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของวงการลูกทุ่งปัจจุบัน ซึ่ง อ.ชลธี ธารทอง นักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ที่ปั้นนักร้องลูกทุ่งประดับวงการมากมายยกย่องเธอว่าเป็น 1 ใน 4 นักร้องลูกทุ่งหญิงที่มีมาตรฐานสมบูรณ์แบบ เช่นเดียวกับ ผ่องศรี วรนุช, พุ่มพวง ดวงจันทร์ และ สุนารี ราชสีมา
ในปี พ.ศ. 2548 ฝนได้แสดงละครโทรทัศน์เรื่องแรกทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 คือ มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต โดยรับบทเป็นเพชรา เชาวราษฎร์ คู่กับอครา อมาตยกุล และ พ.ศ. 2551 ฝนได้แสดงละครเรื่องดาวจรัสฟ้า ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยรับบทเป็น “ฟ้า” คู่กับทฤษฎี สหวงษ์
เมื่อปี พ.ศ. 2544 เธอเคยเปลี่ยนการสะกดชื่อจาก ฝน ธนสุนทร เป็น ฝน ธนสุนธร โดยเธอให้เหตุผลว่า ธ.ธงคนนิยม แต่ในปัจจุบันได้กลับมาใช้ ฝน ธนสุนทร เหมือนเดิมตามคำแนะนำของพระอาจารย์
ฝน ธนสุนทร ประกาศว่าจะเกษียณตัวเองออกจากวงการ และมีแพลนจะบวช ขอทำงานปี 67 เป็นปีสุดท้ายแล้ว แต่ล่าสุดพบว่าได้หันมาจับธุรกิจขายของออนไลน์ที่ใช้ชี่อว่า โปรเจ็กต์ปลดหนี้