การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2022/23 นัดที่ 26 เมื่อวันที่ 9 เม.ย. “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงที่มี 64 คะแนน และเพิ่งแพ้นัดแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เปิดบ้านรับการมาเยือน ลำปาง เอฟซี อันดับ 16 ที่มี 16 คะแนน
เริ่มเกมได้เพียง 5 นาที โจนาธาน โบลินกิ ก็ซัดให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากนั้นนาที 16 บุรีรัมย์ มาได้จุดโทษ จากจังหวะทำแฮนด์บอลของผู้เล่นลำปาง ก่อนจะเป็น ลอนซานา ดูมบูยา ที่รับหน้าทีสังหารไม่พลาด ให้บุรีรัมย์ ออกนำ 2-0 ในครึ่งแรก
ครึ่งหลังเกมยังเป็นบุรีรัมย์ ที่ครองบอลได้มากกว่า และคุมเกมไว้ได้เกือบทั้งหมด ขณะที่ ลำปาง แม้จะมีโอกาสลุ้นประตูแต่สุดท้ายไม่เฉียบขาดพอ จบ 90 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ ลำปาง เอฟซี 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 67 คะแนน ขาดอีกเพียง 1 แต้ม ก็จะการันตีเป็นแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 8 แม้จะเหลือการแข่งขันอีก 4 นัด
ส่วนที่สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 6 ของตาราง มี 37 คะแนน เปิดบ้านพบ “กว่างโซ้ง” ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 มี 35 คะแนน
เริ่มเกมเป็นเชียงราย ที่ได้ประตูออกนำไปก่อนในนาที 15 จากจังหวะเตะมุมที่ อติคุณ มีท้วม เปิดไปที่เสาแรกให้ วิกเตอร์ การ์โดโซ่ โฉบเข้ามาโหม่งตุงตาข่ายให้ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0 แต่ 3 นาทีต่อมา ชลบุรี มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ดิเอโก้ หลุยส์ แลนดิส กองหลังของ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปปะทะกับเดนนิส มูริลโล่ ก่อนเป็น มูริลโล่ ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ชลบุรี เอฟซี ตีเสมอมา 1-1
นาที 28 เป็นเชียงราย ที่มาได้จุดโทษบ้าง จากจังหวะที่ ฟาอิก โบเกียห์ ไปสกัด มนตรี พรมสวัสดิ์ ล้มลงในเขตโทษ ก่อนจะเป็น วิกเตอร์ การ์โดโซ่ ที่รับหน้าที่ยิงไม่เหลือ ทำให้ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด บุกนำ ชลบุรี เอฟซี 2-1
ครึ่งหลังรูปเกมเป็นไปอย่างสูสี กระทั่งท้ายเกมนาที 81 โชติภัทร พุ่มแก้ว มาชาร์จจ่อๆให้ เชียงราย ทิ้งชลบุรี เป็น 3-1 แม้ในช่วงนาที 90+3 ชลบุรี จะมาได้จุดโทษอีกครั้ง แต่ ยู บยองซู ก็ยิงไปติดเซฟ ทำให้จบ 90 นาที เชียงราย ยูไนเต็ด บุกชนะ ชลบุรี เอฟซี 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 38 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับ 6 ทั้งยังเป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 6 เกม ส่วนชลบุรี ตกมารั้งอันดับ 7 แพ้เป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน และไม่ชนะใครมา 8 นัดติดต่อกันแล้ว
ส่วน ที่สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี “ราชันโคขาว” ลำพูน วอริเออร์ ที่อยู่อันดับ 14 โซนตกชั้น มี 24 คะแนน เปิดบ้านรับการมาเยือน “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงที่มี 55 แต้ม
เริ่มเกมได้ 8 นาที ลำพูน วอริเออร์ ได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของ โมฮัมเหม็ด ออสมัน แต่จากนั้นไม่นาน นาที 13 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากจังหวะ เอเวอร์ตัน โขกให้ มามูด ดาฮัดดา เข้าชาร์จส่งให้สกอร์กลับมาเท่ากัน
เข้าสู่นาที 39 ลำพูน วอริเออร์ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ บวร ตาปลา ยิงไปโดนมือของ สุพรรณ ทองสงค์ ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ แล้วตัดสินให้เป็นจุดโทษ ก่อนที่ เจฟเฟรน ซัวเรส จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด ให้ ลำพูน วอริเออร์ ออกนำอีกครั้ง 2-1 ในครึ่งแรก
ครึ่งหลัง แบงค็อก พยายามบุกทวงประตูคืน แต่ลำพูน ยังช่วยกันรับได้ดี จบ 90 นาที ไม่มีสกอร์เพิ่ม ทำให้ ลำพูน วอริเออร์ เปิดรังชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญ ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 13 มี 27 คะแนน พ้นโซนตกชั้น
อีกคู่ การท่าเรือ เปิดบ้าน ชนะ ราชบุรี 1-0 โดยท่าเรือ ได้ประตูชัยจาก แฮมิลตัน โซอาเรส ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของตาราง