ทนายดังบุรีรัมย์ ร้องกกต.สั่งหยุด"เรืองไกร"กล่าวหา "พิธา" ชี้คล้ายกลั่นแกล้ง

Home » ทนายดังบุรีรัมย์ ร้องกกต.สั่งหยุด"เรืองไกร"กล่าวหา "พิธา" ชี้คล้ายกลั่นแกล้ง


ทนายดังบุรีรัมย์ ร้องกกต.สั่งหยุด"เรืองไกร"กล่าวหา "พิธา" ชี้คล้ายกลั่นแกล้ง

ทนายชื่อดังเมืองบุรีรัมย์ ยื่นหนังสือร้อง กกต. ให้ตรวจสอบสั่งการ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยุติการกล่าวหานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ช่วงก่อนการเลือกตั้ง เพราะเข้าข่ายโจมตีเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด คล้ายกลั่นแกล้ง

วันที่ 12 พ.ค.2566 ที่สำนักงานกกต. จังหวัดบุรีรัมย์ นายสาคร ปลื้มรัมย์ อายุ 65 ปี อาชีพทนายความ เข้าไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกร้องให้พิจราณาและออกคำสั่งเร่งด่วน ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง

มีคำสั่งโดยพลันที่จะระงับยับยั้งห้ามชั่วคราวและมีผลโดยทันที ที่จะห้ามไม่ให้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หยุดการเคลื่อนไหว หลังยื่นเอกสารต่อ กกต. ร้องปมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อ ไอทีวี ว่าเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)ตามรัฐธรรนูญ มาตร 98(3) หรือไม่

ร้องกกต.

โดยหนังสือร้องเรียนมีทั้งหมด 4 หน้ากระดาษ เป็นข้อความที่เปรียบเทียบว่า นายเรืองไกร อาจจะจงใจกระทำละเมิดเพื่อกลั่นแกล้งป้ายสี และ/หรืออาจเป็นการใช้คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นเครื่องในการทำลายล้าง หรือสกัดกั้นพรรคการเมืองอื่นได้ โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ที่กำลังมาแรงเป็นอันดับที่ 1 ในช่วงโค้งสุดท้ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ดังปรากฏจากสำนักโพลต่างๆที่ได้ทำการสำรวจมาก่อนหน้านี้ ทั้งที่นายเรืองไกร ก็เป็นนักกฎหมายน่าจะรู้ดี แต่กลับมาสร้างภาพในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก

ยื่นร้อง

นายสาคร กล่าวด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวของนายเรืองไกร เป็นการจงใจทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ได้รับความเสียหาย เพราะพรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด ประชาชนทุกคนที่มีสัญชาติไทยย่อมมีส่วนเป็นเจ้าของและหากพบเห็นความไม่ถูกต้องในสังคม ย่อมแสดงความคิดเห็นและปกป้องพรรคการเมืองได้ทุกคน กรณีนี้ไม่ต่างจากที่มีการร้องเรียนกรณีอื่นก่อนหน้าที่ ซึ่งศาลได้ยกคำร้องไปทั้งหมด

ด้อมส้ม

“ส่วนตัวคิดว่าบทบาทและพฤติการณ์ของนายเรืองไกร อาจจะส่อไปในทางที่เป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้ เนื่องจากพรรคก้าวไกลได้รับคะแนนนิยมมาจากประชาชนด้วยคะแนนที่บริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะไม่เคยมีข่าวเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง

อ่านข่าว เรืองไกร หอบหลักฐานร้อง กกต. สอบ ‘พิธา’ ถือหุ้นสื่อ ยื่นป.ป.ช.ฟันซ้ำ

อ่านข่าว ป.ป.ช. เผย ‘พิธา’ แจ้งเรื่องหุ้น ITV แล้ว ชี้เป็นหน้าที่ กกต.วินิจฉัยคุณสมบัติ

อ่านข่าว กกต.ไม่รีบ ชี้ขาดคุณสมบัติ ‘พิธา’ถือหุ้นสื่อ รอหลังเลือกตั้ง ลั่นต้องให้ความเป็นธรรม

อ่านข่าว รองผอ.ส.ส.ท. แจงปมไอทีวี เลิกกิจการแล้ว แต่ยังอยู่เพราะมีเรื่องฟ้องร้องกับสปน.

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ