ชาวแม่เมาะ จ่อยื่น ปปช. โดนอพยพสร้างโรงไฟฟ้า แต่อาจต้องออกจากพื้นที่ เพราะไม่ได้เอกสารสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ซ้ำพื้นที่พัฒนาไม่ได้
วันที่ 28 พ.ค.65 พระสาธิต ธีรปญฺโญ ผู้อำนวยการสถาบันธรรมาภิวัฒน์ อ.แม่เมาะ นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ ร่วมประชุมพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้าน บ้านใหม่ฉลองราช และบ้านม่อนหินฟู ต.สบป้าด ที่ได้รับผลกระทบจากการไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์หลังจากได้อพยพมาอยู่ในพื้นที่รองรับการอพยพแห่งใหม่ ตามมติ ครม.วันที่ 10 ม.ค. 49 ซึ่งเป็นการอพยพครั้งที่ 6 ออกจากรัศมีรอบโรงไฟฟ้า 5 กิโลเมตร ชาวบ้านประมาณ 500 ครัวเรือน
แต่เมื่ออพยพมาแล้วชาวบ้านกลับพบปัญหาต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นการออกเอกสารสิทธิ์ที่ล่าช้า ปัญหาน้ำประปาหมู่บ้านเป็นหินปูน และ ล่าสุดพบพื้นที่รองรับการอพยพที่ชาวบ้านอาศัยอยู่จะหมดสัญญาเช่ากับกรมป่าไม้ ในเดือน ส.ค. 65 นี้
ในการพูดคุย นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ แจ้งให้ชาวบ้านทราบถึงการดำเนินการยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 26 พ.ค.65 ที่ผ่านมา โดยทางคณะกรรมาธิการฯ มีแผนจะมาลงพื้นที่ ช่วงปลายเดือน มิ.ย.65 จึงแจ้งให้ชาวบ้านเตรียมพร้อมข้อมูลต่างๆ ที่จะรายงานให้ทางคณะกรรมาธิการฯ ทราบ ซึ่งประเด็นหลักที่จะต้องดำเนินการก่อนคือ การเพิกถอนพื้นที่ป่า และการเร่งออกเอกสารสิทธิ์ให้กับชาวบ้าน
นางมะลิวรรณ เปิดเผยว่า การติดอยู่ในพื้นที่ป่าทำให้หมู่บ้านไม่สามารถพัฒนาได้รอบด้าน แม้จะมีงบประมาณมาเข้ามาจาก อบต.สบป้าด หรือกองทุนพัฒนาไฟฟ้าแม่เมาะ ทำให้ชาวบ้านเสียประโยชน์ และไม่ใช่เฉพาะบ้านม่อนหินฟู และบ้านใหม่ฉลองราชเท่านั้นที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้ง 8 หมู่บ้านใน ต.สบป้าด ได้รับความเดือดร้อนกันหมด แต่จะให้ 2 หมู่บ้านนี้ เป็นพื้นที่นำร่องที่จะดำเนินการก่อนเพราะมีข้อมูลชัดเจนตาม มติ ครม. ว่าจะออกเอกสารสิทธิ์ให้
ตอนนี้มีความกังวลมาก เพราะเดิมหลายหลังมีเอกสารสิทธิ์ ตาม มติ ครม. ก็ได้บอกไว้ชัดเจนว่าการมาอยู่พื้นที่ใหม่จะออกเป็นเอกสารสิทธิ์ให้ แต่อยู่มากว่า 16 ปีแล้วก็ไม่มีท่าทีว่าจะได้รับแต่อย่างใด อีก 3 เดือนข้างหน้า สัญญาเช่าพื้นที่ป่าก็จะหมดไป ชาวบ้านจะกลายเป็นหมู่บ้านเถื่อน ไม่ได้รับสิทธิ์การพัฒนาใดๆ ถือเป็นผู้บุกรุกป่า แล้วลูกหลานจะอยู่กันอย่างไร
ด้าน นางรัตนา อู่เงิน ตัวแทนชาวบ้านใหม่ฉลองราช กล่าวว่า ตอนจะย้ายมา กฟผ.บอกว่าจะออกเอกสารสิทธิ์ให้ แต่พอมาจริงก็ยังไม่ได้รับทำให้เสียความรู้สึกไปแล้ว มีการเสนอจะให้เราใช้เป็นพื้นที่ คทช.ร่วมกัน แต่ชาวบ้านไม่อยากได้ เดิมเรามีโฉนดของเราเองแต่จะให้มาใช้ร่วมกันเป็น คทช. เห็นว่าไม่ยุติธรรมกับชาวบ้านอพยพ อยากให้หน่วยงานเร่งเข้ามาแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะการเพิกถอนพื้นที่ป่าก่อนเป็นอันดับแรก
ทั้งนี้ นางมะลิวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากคณะกรรมาธิการฯ ช่วยเหลือได้เราก็จะขอบคุณมาก แต่เราจะไม่รอไปจนถึงจะหมดสัญญาเช่าในอีก 3 เดือน เราจะเดินหน้ายื่นร้อง ป.ป.ช. ต่ออย่างแน่นอน เพราะ 16 ปีที่ผ่านมา พวกคุณละเว้นการปฏิบัติหน้าที่