พปชร. หิ้วกระเช้า “บิ๊กป้อม” ร่วมยินดีภูมิใจไทย ทำบุญครบ 15 ปี “ชัยวุฒิ” เย้ย มุขเดิม นโยบายแจกเงิน Digital wallet 10,000 บาทของเพื่อไทย
เมื่อเวลา 08.05 น. วันที่ 6 เม.ย. 2566 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการจัดงานทำบุญพรรคภูมิใจไทย ก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้งหมดของพรรค ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ โดยพรรคการเมืองที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีเป็นพรรคแรก คือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค
พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นำกระเช้าดอกไม้ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค มาร่วมแสดงความยินดี โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนรับมอบ
อ่านข่าว : ภูมิใจไทย ทำบุญครบ 15 ปี ‘บิ๊กป้อม’ ส่งกระเช้าร่วมยินดี ลั่นชนะเลือกตั้งไปด้วยกัน
ทั้งนี้ หลังจากมอบกระเช้าแสดงความยินดีแล้ว นายชัยวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ไม่มีอะไร เป็นงานมงคล ซึ่งตนกับนายสันติมาเป็นตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ มาแสดงความยินดี และอวยพรให้กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อยู่ด้วยกันมา 4 ปี ทำงานราบรื่นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ถือได้ว่าเป็นพรรคที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
“ยืนยันว่าใจเรารักกันอยู่แล้ว เพราะเราร่วมงานกันมาไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ขัดแย้งกับใคร เราก้าวข้ามความขัดแย้ง เราทำงานร่วมกับบุคคลที่ตั้งใจมาทำประโยชน์ให้กับประชาชน” นายชัยวุฒิ กล่าว
เมื่อถามกรณีพรรคเพื่อไทยปราศรัยวานนี้ (5 เม.ย.) ว่าจะปิดประตูไม่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็เรื่องของเขา คนละนโยบายอยู่แล้ว บางพรรคก็อาจจะมีนโยบายอีกแบบหนึ่ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย บางคนให้เกลียดชังกัน แต่เราอยากให้คนไทยรักและสามัคคีกัน มองคนละมุมแล้วแต่ประชาชนจะเลือก ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น
เมื่อถามกรณีพรรคเพื่อไทยเปิดนโยบาย แจกเงิน Digital wallet 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ผมก็เพิ่งทราบ ขอศึกษานโยบายดังกล่าวก่อน ส่วนจะเป็นนโยบายที่ตอกย้ำเรื่องประชานิยมหรือไม่นั้น ตนมองว่าทุกนโยบายจะต้องทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ส่วนคนจะชอบหรือไม่ชอบ จะสร้างผลกระทบกับสังคมอย่างไร จะคุ้มค่าหรือไม่ จะต้องศึกษากันต่อไป ขอให้ฝ่ายวิชาการและทีมเศรษฐกิจได้วิเคราะห์ก่อน
นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า เมื่อได้ยินคำว่า 10,000 บาทครั้งแรก รู้สึกคล้ายๆ เดิมๆ ที่เคยทำมา เพราะต้องให้ประโยชน์กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง อย่างในสมัยก่อนกองทุนหมู่บ้านละหนึ่งล้านบาท เป็นการเอาเงิน 1 ล้านบาทมาแบ่งกันในหมู่บ้าน มุกเดิม เพียงเปลี่ยนจาก 1 ล้านบาท เป็น 1 หมื่นบาท