คำผกา ตีความ กราบเท้าบิ๊กป้อม คือให้ลาบิ๊กตู่ มาเป็นนายกเองสมัยหน้า

Home » คำผกา ตีความ กราบเท้าบิ๊กป้อม คือให้ลาบิ๊กตู่ มาเป็นนายกเองสมัยหน้า


คำผกา ตีความ กราบเท้าบิ๊กป้อม คือให้ลาบิ๊กตู่ มาเป็นนายกเองสมัยหน้า

คำผกาตีความ กรุงกราบเท้าบิ๊กป้อม เหมือนขอให้ลาบิ๊กตู่ พล.อ.ประวิตรมาเป็นนายกเองสมัยหน้า เผยซับซ้อน ตีความการเมือง ที่ไม่มีประชาชนในสมการ

วันที่ 26 ก.ค. 2565 ข่าวจบ คนไม่จบ! วิเคราะห์เจาะลึก ถึงพริกถึงขิง จากมุมมอง “อั๋น ภูวนาทและ แขก คำผกา” กับ 3 วิพากษ์เผ็ดร้อน 3 ประเด็นฮอต จุฬา-ราชภัฏ เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน จริงเหรอ? กรุง ศรีวิไล กราบเท้า ป้อม เคลียร์ใจปมโหวต! แจกเก่ง คนละครึ่งเฟส5 กระตุ้นเศรษฐกิจจริงมั้ย? ทักษิณ ลั่น อยากกลับบ้าน สั่งถ้าตายไม่ให้เผา !

โดยพิธีกรคืออั๋น-ภูวนาท คุนผลิน และคำผกา ลักขณา ปันวิชัย สำหรับประเด็นกราบเท้านั้น อั๋นเผยว่า ตนเจอกรุง ศรีวิไล หลายครั้ง เป็นคนที่น่าเคารพมาก เลยไม่รู้สึกอย่างไรดีกับกรณีนี้ หลังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณมาเคลียร์ใจส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่จ.สมุทรปราการ แล้วทางกรุงมากราบเท้าทันทีที่พล.อ.ประวิตรเดินทางมาถึงลงจากรถตู้

ตอนนั้นสงสัยว่าไปกราบทำไม เหมือนเป็นกราบขอโทษ หลังโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจให้กับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ซึ่งได้คะแนนไม่ไว้วางใจสูงสุด เหมือนเป็นการกราบขอโทษหรือไม่

โดยคำผกาเผยว่า เรื่องนี้ซับซ้อนกว่านั้น กลุ่มส.ส.ปากน้ำ ซึ่งมี 6 คน เป็นส.ส.เขต 5 คน บัญชีรายชื่อ 1 คน และพื้นที่เขต 7 เป็นเขตทับซ้อนของอิทธิพลบ้านใหญ่ปากน้ำกับสายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ซึ่งไม่ถูกกัน เพราะสายสุชาตินั้นไม่ถูกกับสายบ้านใหญ่คุณปลื้ม ตระกูลใหญ่จ.ชลบุรีซึ่งสนิทกับส.ส.ปากน้ำ

มันมีการวัดกำลังกันอยู่ เพราะกลุ่มส.ส.ปากน้ำไม่พอใจพล.อ.อนุพงษ์ ในเรื่องกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีแรงกระเพื่อมตั้งแต่ธรรมนัส พรหมเผ่าที่จะมาคุมมหาดไทย จนถูกการเด้งไปทั้งแผง

สิ่งนี้สะท้อนขั้วอำนาจของ 3 ป. ในการอุ้มพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สู่ยอดเสานายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งทางพล.อ.ประยุทธ์เหมือนถูกทิ้งเพื่อน แล้วเหมือนพล.อ.ประวิตรได้แค่ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ก็ไม่ทำงานตอบโจทย์ส.ส.ในพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านใหญ่ของอัศวเหม ไม่ได้รับการตอบสนองในพื้นที่ ทั้งการเมืองระดับชาติและการเมืองระดับท้องถิ่น

อย่าลืมว่ามีส.ส.6คน แต่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีเลย ที่ผ่านมาก็นิ่งมาตลอด แต่เหมือนไม่เห็นหัวกัน การโหวตไม่ไว้วางใจพล.อ.อนุพงษ์กับนายสุชาติ การกราบเท้าพล.อ.ประวิตร เป็นการส่งสัญญาณ ให้ตัดขาดจากกลุ่ม 3 ป. แล้วสถาปนาขั้วอำนาจการเมืองเพื่อให้เป็นนายกฯได้เลย

ทางพล.อ.ประยุทธ์ก็กลัวว่า หากไปรวมตัวแล้วไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยหลังเลือกตั้ง มันจะเกิดอะไรขึ้น ตนอ่านว่า กราบลาทิ้งตู่เถอะ เราตีความแบบนี้ มาเป็นนายกฯเองสมัยหน้าเถอะ

อั๋นเผยว่า “ท่านเดินไม่ไหวแล้วนะ”

คำผกาเผยว่า ไม่ต้องเดินไหว แต่ตอบโจทย์กับแผงส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่เหมือนพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งกลัวนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง จึงเลือกรัฐมนตรีที่มีการยึดโยงกับประชาชนค่อนข้างน้อย เรื่องนี้มันไม่มีอะไรดี แต่ฉายภาพภาวะที่ไม่มีประชาธิปไตย การเหมือนรัฐสภาใต้รัฐธรรมนูญที่ออกแบบให้พรรคการเมืองอ่อนแอ จึงเป็นการเมืองแบบอุปถัมภ์ เน้นบารมีส่วนบุคคลมากกว่านโยบายเพื่อประโยชน์ของประชาชน

“ทั้งหมดนี้ ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการเลย กราบเกี่ยวพันกับฉันและเธอ ว่าจะทำอะไรกันต่อไป เพื่อให้มีงานทำสมัยหน้า”

สิ่งนี้เหมือนการชิงอำนาจ

จินตนาการว่าพล.อ.ประวิตรจะมารวมกับพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นของกลุ่มถือหางพล.อ.ประยุทธ์อยากให้เป็นนายกต่อ เขามีจินตนาการแบบกลัว จึงเกิดรอยร้าว

การอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่มันสร้างรอยร้าว อย่างคนที่อยากได้บัญชีรายชื่อหาร 100 นั้นเป็นของพล.อ.ประวิตร ส่วนการหาร 500 เป็นแนวคิดของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคใหญ่ก็อยากได้หาร 100 แต่การมีพรรคเล็ก พรรคร่วมเยอะๆ ทำให้มันกระจัดกระจาย จึงอยากหาร 500 ทำให้อำนาจพล.อ.ประยุทธ์อยู่ได้ท่ามกลางความอ่อนแอของพรรคการเมือง

ที่สุดแล้วก็ต้องดูว่าบารมีใคร จะหาร 100 กับหาร 500

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ