คอมมานโดตามจับพระ บวชหนีคดีลวงกินตับสามเณร หลังอ้างจะซื้อไอโฟนให้ พาเข้ารีสอร์ตแล้วชิ่งหนีนานกว่า 6 ปี สุดท้ายโดนแจ้งจับตามล็อกตัวไว้ได้

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.65 พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปพ.สั่งการให้ พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.1 บก.ปพ.,พ.ต.ต.จตุพร ติกแก้ว สว.กก.1 บก.ปพ.,ร.ต.อ.ปองพล จันทรปรางกุล รอง สว.กก.1 บก.ปพ.นำกำลังจับกุม นายบัณฑิต สีมุงคุณ อายุ 39 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ข้อหา”พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามและกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน” โดยจับกุมได้ที่สำนักสงฆ์ในต.พอกน้อย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

ภายหลังเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2559 ผู้ต้องหานั่งรถมาที่ อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อมาพบสามเณรเอ อายุ 14 ปี เนื่องจากรู้จักกับผู้เสียหายและมารดาของผู้เสียหายเป็นอย่างดี ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์แจ้งให้สามเณรเอ ออกมาพบที่ตลาดวังสะพุง แล้วพาสามเณรเอนั่งสามล้อเครื่องไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอ.วังสะพุง และเข้าเช่าห้องพักที่รีสอร์ตประเภทค้างคืน โดยผู้ต้องหาเป็นผู้จ่ายเงินค่าบริการห้องพักแล้วพาสามเณรเอเข้าไปในห้องพัก ก่อนผู้ต้องหา จะขอร่วมเพศ สามเณรเอยินยอม แต่ให้ผู้ต้องหาซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟนให้ในราคา 15,000 บาท แต่ผู้ต้องหายังไม่มีเงิน จึงรับปากว่าจะหาเงินให้ภายหลัง จากนั้นผู้ต้องหาได้จ้างเหมารถสามล้อเครื่องให้ไปส่งสามเณรเอที่วัดในต.วังสะพุง ส่วนตัวผู้ต้องหาได้หลบหนีหายไปนานกว่า 6 ปี ซึ่งฝ่ายผู้เสียหายทราบเรื่องเข้าจึงมาแจ้งความจนมีการออกหมายจับ

ต่อมาชุดสืบสวนทราบว่า นายบัณฑิต ผู้ต้องหา ได้หลบหนีมาบวชเป็นพระที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในพื้นที่สกลนคร จึงเข้าจับกุมได้ดังกล่าว สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังสะพุง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป