FootNote:มองภาพ ตัวตนแท้ ก้าวไกล ผ่านกระบวนการ ‘เลือกตั้ง’
เส้นแบ่งอย่างมีนัยสำคัญ ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคซึ่งเป็น ‘นักเลือกตั้ง’ โดยทั่วไปคือความพร้อมที่จะส่งผู้สมัครลงชิงชัยในทุกพื้นที่ที่มีการเลือกตั้ง
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ประกาศไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อมในเขต 1 ชุมพร และเขต 6 สงขลา
แต่พรรคก้าวไกลพร้อมระดมสาขาพรรค ไม่ว่าจะในเขต 1 ชุมพร ไม่ว่าจะในเขต 6 สงขลา เพื่อคัดสรรบุคคลที่เหมาะสม เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างเต็มเปี่ยม
ในเมื่อแม้กระทั่งการเลือกตั้งระดับอบต.พรรคก้าวไกลก็ส่ง ในเมื่อการเลือกตั้งระดับเทศบาล พรรคก้าวไกลก็ส่ง ในเมื่อการเลือกตั้งระดับอบจ. พรรคก้าวไกลก็ส่ง
จึงไม่มีเหตุผลอะไร ที่พรรคก้าวไกลจะไม่ส่งตัวแทนชงสมัครรับ เลือกตั้งซ่อม เขต 1 ชุมพร และ เขต 6 สงขลา
ยิ่งในกรณีของกทม.พรรคก้าวไกล ยิ่งมีเหตุผลโดยสมบูรณ์
คำประกาศจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระหว่างสวัสดีปีใหม่ถึงพันธกิจของพรรคก้าวไกลที่จะส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯกทม.จึงจำเป็น
ความจำเป็นในที่นี้ไม่เพียงเพราะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมเมื่อ 2 ปีก่อน พรรคอนาคตใหม่ถือพื้นที่กทม.เป็นพื้นที่หนึ่งที่จะต้อง เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง
และผลก็ปรากฏอย่างเด่นชัดว่าคะแนนของพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้จำนวน 8 แสนกว่าเป็นป้อบปูลาร์อันดับ 1
เหนือกว่าคะแนนของพรรคพลังประชารัฐ เหนือกว่าคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ เหนือกว่าคะแนนของพรรคเพื่อไทย จึงเท่ากับเป็นพันธะสัญญาสำคัญทางการเมือง
จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นความต่อเนื่องของพรรคอนาคตใหม่จะต้องถอยหรือถอนตัวในทางการเมือง
เพราะ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มิได้เป็นตัวแทนพรรคก้าวไกล
ตามความเคยชินจากพรรค ‘นักเลือกตั้ง’ ยิ่งเห็นคะแนนและความนิยมจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทะยานขึ้นสูงเด่น ก็จะต้องหลบ
หลบเหมือนบางพรรคหลบที่เขต 1 ชุมพร เขต 6 สงขลา
แต่แนวทางการเมืองแบบนี้มิใช่แนวทางที่พรรคก้าวไกลยึดกุมและสืบทอดมาจากที่พรรคอนาคตใหม่เคยปฏิบัติ
เพราะการเมืองของพรรคมวลชนคือผู้คนและการเดินทาง