FootNote:กลยุทธ์ เตะถ่วง ยื้อซื้อเวลา รักษาระบอบประยุทธ์ต่อ

ยิ่งภาพแห่งการเลือกตั้งที่จะถือเอาพิมพ์เขียวจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 แพร่กระจายออกไปมากเพียงใด ความเชื่อมั่นที่ว่าชัยชนะจะเป็นของพรรคเพื่อไทย ยิ่งฝังรากอย่างจำหลักหนักแน่น

กระทั่ง เกิดบทสรุปในกลุ่ม ‘กองเชียร์’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาในทางเดียวกันว่ากำลังถูก ‘หลอก’

เป็นการหลอกโดยการสมคบคิดระหว่างบางส่วนภายในรัฐบาล ภายในพรรคพลังประชารัฐ กับบางส่วนของพรรคเพื่อไทย โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การเปิดทางให้กับนายทักษิณ ชินวัตร ได้กลับบ้าน

อย่าได้แปลกใจหากจะมีน้ำเสียงท้วงติงกึกก้องมาจากภายในของพรรคประชาธิปัตย์ ในทำนองว่าการเลือกตั้งแบบนี้เท่ากับเป็นการเปิดทางให้ ‘ระบอบทักษิณ’ เข้ามาแทนที่ ‘ระบอบประยุทธ์’

จึงนำไปสู่การพยายามแก้เกมทางการเมือง โดยการอาศัยร่างกฎหมายลูกมาเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความได้เปรียบ

ไม่ว่าจะเป็นการรักษากรรมวิธีในการคิดคำนวณอันนำไปสู่ระบบ ‘บัตรเขย่ง’ เพื่อเปิดโอกาสให้กับพรรคขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างระบบ 2 บัตร 2 เบอร์ เพื่อสร้างความสับสนยุ่งยาก

จากนี้เป็นต้นไปจำเป็นต้องสนใจต่อบทบาทของ ‘เนติบริกร’ จากทำ เนียบรัฐบาลอย่างเป็นพิเศษ รวมถึงจังหวะก้าวอันมาจากพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญในรัฐสภา

ไม่ว่าจะเป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์

แนวโน้มและความเป็นไปได้ก็คือ การหันเหให้ร่างกฎหมายลูก ที่เสนอโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อันถือได้ว่าเป็นของรัฐบาลดำเนินไปตามเป้าหมายทางการเมือง

เป็นเป้าหมายที่จะรักษาอำนาจอันได้มาจาก ‘รัฐประหาร’ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นตัวแทนอย่างไม่แปรเปลี่ยน

ความหมายก็คือ ยังจะรักษา ‘ระบอบประยุทธ์’ ให้ยืนยาว

เกมการเมืองอันเป็นความต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายนไปยังเดือนธันวาคม จึงมากด้วยความแหลมคม ไม่ว่าจะมองจากด้านของรัฐบาล ไม่ว่าจะมองจากด้านของฝ่ายค้าน

เป็นกลยุทธ์การต่อสู้ในท่ามกลางความพยายาม ‘ซื้อเวลา’

นั่นก็คือทำอย่างไรให้การดำรงอยู่จะพ้นไปจากต้นปี 2565 และอยู่รอดไปจนถึงปลายปี จากความพยายามเตะถ่วง หน่วงยื้อ

เป้าหมายเพื่อคงอำนาจแห่ง ‘ระบอบประยุทธ์’ ต่อไป